ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 30-31 พ.ค 2566
ไฮไลท์การแถลงข่าว 8 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งนำโดยพรรคก้าวไกล
เรื่องที่ 2,190 ไฮไลท์การแถลงข่าว 8 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งนำโดยพรรคก้าวไกล
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สยบข่าวลือดีลลับ ยืนยันต่อความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ต่อการทำงานร่วมกันของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล 25 ล้านเสียง พรรคเพือไทยและพรรคก้าวไกล ปฏิเสธไม่ได้ ที่จะทำความฝันความหวังของประชาชนให้เกิดขึ้น มันเป็นการมัดที่แน่นกว่าการมัดอื่น
คุณหมอชลน่าน ออกวาทะเด็ดว่า “ก็ให้ความมั่นใจว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” นพ.ชลน่าน กล่าวอีกครั้งว่า “เน้นย้ำไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพื่อเป็นรัฐบาลของพี่น้องประชาชน” จากนั้น นพ.ชลน่าน ได้กอดคอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อถ่ายภาพร่วมกัน
โดยนายพิธา ได้กล่าวขอบคุณ นพ.ชลน่าน ท่ามกลางเสียงปรบมือดังสนั่น งานนี้ ถือเป็นการสยบข่าวลือได้อย่างดี
เรื่องที่ 2,191 หลังจากที่ บก.ชวนคุยพาเม้าท์ประเด็นเรื่องของราคาน้ำมันดีเซลให้อกสั่นขวัญผวากันไปก่อนหน้านี้ว่าหากกระทรวงการคลังยกเลิกไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตจะสิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค. 66 นี้ จะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศกระโดดพรวดขึ้นมาได้ถึงลิตรละ 37 บาทต่อลิตร วันนี้เลยขอเอาเรื่องที่คุยกันแล้วสบายอกสบายใจมาเหลาให้ฟัง
เมื่อล่าสุดพี่กบ “กุลิศ สมบัติศิริ” ปลัดกระทรวงพลังงาน ออกมายืนยันแล้วว่า จะพยายามดูแลราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ระดับ 31.94 บาทต่อลิตรไปจนถึงสิ้นปี แม้คลังจะไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิต พร้อมระบุเหตุผลที่พอฟังแล้วเป็นไปได้ว่า หากดูจากสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ติดลบน้อยลง และยังมีเงินกู้ เสริมสภาพคล่องที่ยังมีวงเงินเหลืออีก 70,000 ล้านบาท ก็ยังสามารถดูแลราคาน้ำมันดีเซลได้
แต่ก็ยังมีแอบเสียวเล็กน้อยเพราะภายใต้คำกล่าวนั้นของพี่กบ ยังมีข้อแม้แถมมาด้วยว่า ต้องอยู่ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันในตลาดโลกเฉลี่ยอยู่ในระดับปัจจุบัน 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงก็จะสามารถดูแลราคาดีเซล ต่อเนื่องไปได้อีก
อย่างไรก็ดี คราวนี้พี่กบมีหลายแผน เพราะหากราคาน้ำมันในตลาดโลกรุนแรงขึ้นหรือมีความผันผวนตามขั้นตอนก็จะต้องเสนอมาตรการดูแลบรรเทาผลกระทบ และนำเสนอให้ กกต. พิจารณา เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้า เรียกว่าถ้าไม่คิดอะไรมาก กระทรวงพลังงานก็ยังพยายามดูแลเต็มที่นั่นแหละครับพี่น้องชาวไทย
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,192 เว็บไซต์แชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ทางการกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม สั่งปิดไฟถนนเพื่อรักษาระบบพลังงานของประเทศให้ทำงานต่อไปได้ ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนระอุเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานในพื้นที่บางส่วนของเวียดนามพุ่งขึ้นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ด้านสภาพอากาศเตือนว่า คลื่นความร้อนอาจส่งผลกระทบยาวไปจนถึงเดือนมิ.ย. หลายเมืองในเวียดนามจึงได้ลดการใช้ไฟสาธารณะลง หลังจากที่การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ระบุว่า การใช้เครื่องปรับอากาศที่เพิ่มขึ้นอาจสร้างภาระให้กับระบบโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศมากยิ่งขึ้น
เจิ่น วัน หุ่ง ชาวเมืองฮานอยวัย 67 ปี ระบุว่า “อากาศข้างนอกมันแสบมันร้อนมาก จนคนต้องสวมชุดป้องกันให้ร่างกายเย็นลงและผิวไม่ไหม้” เจ้าหน้าที่ด้านสภาพอากาศระบุว่า อุณหภูมิในสัปดาห์นี้คาดว่าจะอยู่ที่ 26-38 องศาเซลเซียส
เรื่องที่ 2,193 กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เผยว่า นายอี จงซอบ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ และนายริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลีย เห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือทางทหาร
ทั้งนี้ นายจงซอบและนายมาร์เลส ได้พบปะกันนอกรอบการประชุมสุดยอดระหว่างเกาหลีใต้กับกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ในกรุงโซล
นายจงซอบแสดงความเต็มใจว่า กองทัพเกาหลีใต้นั้นพร้อมเข้าร่วมการซ้อมรบอินโด-แปซิฟิก เอนเดเวอร์ (Indo-Pacific Endeavour) ซึ่งเป็นการซ้อมรบทางทหารนานาชาติที่นำโดยออสเตรเลีย รวมถึง โอเปอเรชัน เรนเดอร์ เซฟ (Operation Render Safe) ซึ่งเป็นปฏิบัติการของกองทัพออสเตรเลียในการกำจัดทุ่นระเบิดใต้น้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก
เรื่องที่ 2,195 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ศาลแขวงนาโกย่าของญี่ปุ่นมีคำพิพากษาในวันนี้ (30 พ.ค.) ว่า คำสั่งห้ามการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันนั้นถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ด้านบรรดานักเคลื่อนไหวและผู้สนับสนุนที่โบกธงสีรุ้งอยู่นอกศาลต่างพอใจกับผลการตัดสินดังกล่าว โดยมองว่า เป็นก้าวสำคัญสู่การสมรสเท่าเทียมในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม G7 ที่ไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมายสำหรับการสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน
คำตัดสินของศาลดังกล่าวนับเป็นการตัดสินครั้งที่ 2 จาก 4 คดีในช่วงสองปีที่ผ่านมา ขณะที่รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นระบุว่าการแต่งงานเป็นเรื่องระหว่างชายและหญิง
เรื่องที่ 2,196 บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ คาดการณ์ว่า ภาพยนตร์เรื่อง เงือกน้อยผจญภัย หรือเดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด (The Little Mermaid) เวอร์ชั่นคนแสดง จะมียอดจำหน่ายตั๋วในสหรัฐจำนวน 117.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงเทศกาลวันหยุด 4 วันเนื่องในโอกาสวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ หรือ Memorial Day
ดิสนีย์ระบุในแถลงการณ์ว่า เดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด ซึ่งนำแสดงโดยฮัลลี เบลีย์ (Halle Bailey) ที่รับบทเงือกสาว แอเรียล ผู้ปรารถนาจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมนุษย์ ทำรายได้ในสหรัฐ 95.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่นับจนถึงวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค. ขณะที่บ็อกซ์ออฟฟิศ โปร (Boxoffice Pro) คาดการณ์ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำรายได้มากกว่า 105 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 3 วัน และ 135 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลา 4 วัน
เดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบนักในกลุ่มนักวิจารณ์โดยรวม โดยในขณะนี้มีคะแนนจากนักวิจารณ์อยู่ที่ 67% บนเว็บไซต์รอตเทนโทเมโทส์ (RottenTomatoes.com) แต่มีเสียงตอบรับที่ดีกว่าในกลุ่มผู้ชมทั่วไป ขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง เดอะ ซูเปอร์ มาริโอ บราเธอร์ส (The Super Mario Bros.) ของค่ายยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปีนี้ ก็ได้คะแนนจากนักวิจารณ์ที่ต่ำเช่นกัน
ทั้งนี้ ดิสนีย์ใช้งบประมาณในการสร้างภาพยนตร์ เดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด ประมาณ 250 ล้านดอลลาร์
โดยนพวัชร์