ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 24-25 พ.ค 2566
รัฐบาล 313 เสียง ยังไม่คืบหน้า เรื่องวุ่นๆสารพัดอย่าง ก็มีให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน
เรื่องที่ 2,158 รัฐบาล 313 เสียง ยังไม่คืบหน้า เรื่องวุ่นๆสารพัดอย่าง ก็มีให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน
ปิยะบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ออกมาบอกว่าประธานสภาต้องเป็นของพรรคก้าวไกล ยังไม่ทันไร เพื่อไทย ตอบโต้ทันควัน ว่า เมื่อครั้งหาเสียงนั้น พรรคก้าวไกล ได้ประกาศว่า จะเลือกคนให้เหมาะสมกับตำแหน่ง แต่พอเลือกตั้งเสร็จสรรพ ก็มาประกาศจะเอาตำแหน่งประธานรัฐสภา
อีกประเด็นที่ร้อนระอุไม่แพ้กัน คือกรณีที่ ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย ตั้งคำถามต่อพรรคเพื่อไทย ระหว่างการเซ็นเอ็มโอ อยู่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
เรื่องนี้นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โกรธจัด บอกว่า ‘ถ้าชกได้ก็ชกแล้ว’ และไม่สบายใจที่จะทำงานร่วมกับนายศิธา เอาเป็นประมาณว่า มีศิธาไม่มีชลน่าน ยังไงยังงั้น
จะเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังไม่คืบ พรรคร่วมรัฐบาล ก็ซัดกันเองไม่เว้นแต่ละวัน
เรื่องที่ 2,159 ได้ข่าวว่ามีคนควันออกหูแล้วหนึ่ง เมื่อปรากฎว่าสื่อมวลชนหลายสำนักต่างพากันรายงานว่าค่าไฟจะลดแน่ๆประมาณ 70 สตางค์ต่อหน่วย ในงวดที่จะประกาศค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที (ค่า FT) ซึ่งจะทำให้ค่าไฟถูกลง ประชาชนจะจ่ายอยู่ที่ประมาณ 4.70 บาทต่อหน่วย ด้วยเหตุผลที่ว่าราคาเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี มีแนวโน้มลดลง
โดยเฉพาะแอลเอ็นจีที่ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 10.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู และถ้าลดลงไปเหลือ 9 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สามารถซื้อได้ในราคานี้จะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้หน่วยละ 70 สตางค์ ซึ่งเป็นการไปพูดในการเป็นอาจารย์พิเศษให้กับสถาบันวิทยาการพลังงาน ไม่ได้คิดว่าจะให้เป็นข่าวแต่อย่างใด บุคคลท่านไหนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ปลัดกบ กุลิศ สมบัติศิริ แห่งกระทรวงพลังงานนั่นเอง ไม่รู้ว่างานนี้จะงอนผู้สื่อข่าวมากน้อยแค่ไหน
ขณะที่ทางฝั่งกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือ กรอ. ล่าสุดออกโรงเตือนโรงงานจำพวกที่ 3 ทั่วประเทศ จำนวน 60,638 โรงงาน ต้องรายงานข้อมูลสารเคมีที่เก็บหรือใช้ในการประกอบกิจการ ผ่านระบบรายงานข้อมูลกลางของกระทรวงอุตสาหกรรม (iSingle Form) นานๆได้มีผลงานออกมาเสียที เลยต้องขอนำมาโอดซะหน่อย ยังไงก็สร้างผลงานกันต่อไปเรื่อยๆนะขอรับเจ้านาย อย่าปล่อยให้เกียร์ว่างในตอนที่ยังไม่มีารัฐบาลนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 2,160 วันนี้ (24 พ.ค.) ยังมีหลายประเด็นที่ต้องจับตามอง โดยเฉพาะศึกชิงเอ็มดี ธอส. หรือธนาคารอาคารสงเคราะห์ ปิดรับสมัครวันสุดท้ายไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากเปิดรับสมัครวันแรก ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.เป็นต้นมานั้น กระแสเอ็มดี ธอส.ไม่ยักจะร้อนแรงเท่า ศึกชิงเอ็มดี ธ.ก.ส. เพราะฝั่งนั้น พนักงานไม่ชอบ “ฉัตรชัย ศิริไล” ที่หวังจะข้ามห้วยจาก ธอส. แต่ก็ทนแรงหนุนจาก รมว.คลัง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ไม่ได้ สุดท้ายจึงศิโรราบ
ดังนั้น ข่าวเอ็มดี ธอส.จึงเงียบสนิท เพราะเกรงแรงหนุนจาก “อาคม” คนหน้าใส จะหนุนให้คนในที่รู้กันอยู่ว่า เป็นมือขาว ของ “น้องฉัตร” เข้านั่งสวมตำแหน่งเหยียบเท้ากว้ากันขึ้นเป็นเอ็มดี คนต่อไป
ดังนั้น “พี่ต้น-กมลภพ วีระพละ” น่าจะเป็นเต็งหนึ่งเพียงผู้เดียว แต่ท้ายที่สุด อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขนาดผลการเลือกตั้งล่าสุด “เซียนการเมือง ยังปากกาหัก เดินคอตก” กก.ได้สส.และบัญชีรายชื่อทะลุ 150 เสียง ที่เรียกว่า “นอนมา” ก็อย่ากระพริบตา!! แล้วกัน
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,161หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอังกฤษ (Competition and Markets Authority : CMA ) เปิดเผย ในวันนี้ (24 พ.ค.) ว่า CMA ตรวจพบเบื้องต้นว่าธนาคารระดับโลก 5 แห่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายการแข่งขันในอังกฤษ โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เปราะบางเกี่ยวกับกิจกรรมการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลผ่านช่องทางการสนทนาส่วนตัวทางออนไลน์
ทั้งนี้ CMA กล่าวหาว่า ซิตี้, ดอยซ์แบงก์, เอชเอสบีซี, มอร์แกน สแตนลีย์ และรอยัล แบงก์ ออฟ แคนาดา ได้แบ่งปันข้อมูลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผ่านการเข้าร่วมห้องสนทนาแบบตัวต่อตัวอย่างน้อย 1 ครั้งหรือมาก กว่า 1 ครั้งกับนักเทรดจำนวนหนึ่งในห้องสนทนาของบลูมเบิร์กในช่วงเวลาที่แตกต่างกันระหว่างปี 2552 – 2556
CMA ระบุว่า บทสนทนาเหล่านี้ มีความเกี่ยวข้องกับการซื้อและการขายพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ และการสวอปสินทรัพย์พันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดราคาและแง่มุมอื่นๆ ของกลยุทธ์การซื้อขายของพวกเขา ทั้งนี้ ดอยซ์แบงก์ และซิตี้ ได้ออกมายอมรับว่า มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่อต้านการแข่งขัน ขณะที่ เอชเอสบีซี มอร์แกน สแตนลีย์ และรอยัล แบงก์ ออฟ แคนาดา ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เรื่องที่ 2,162 กองทัพรัสเซียเผยว่า ได้สังหารผู้โจมตีมากกว่า 70 ราย ในระหว่างปฏิบัติการเพื่อขับไล่ผู้บุกรุกข้ามพรมแดนจากยูเครนที่ได้ล่วงล้ำเข้ามายังแคว้นเบลโกรอดของรัสเซีย และต่อสู้กับฝ่ายรัสเซียเป็นเวลาประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนที่จะออกจากดินแดนไป
รายงานระบุว่า รัสเซียได้ส่งเครื่องบินไอพ่นและยิงปืนใหญ่ เมื่อวันอังคาร (23 พ.ค.) เพื่อทำลายกลุ่มติดอาวุธที่รุกล้ำพื้นที่ชายแดน ซึ่งนับเป็นการโจมตีที่กล้าหาญที่สุดในเขตแดนรัสเซีย นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกยูเครนเมื่อปีที่แล้ว
เจ้าหน้าที่รายงานว่า พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 รายจากปืนใหญ่และปืนครกระหว่างการสู้รบ และผู้หญิงรายหนึ่งเสียชีวิตระหว่างการอพยพเมื่อวันจันทร์ (22 พ.ค.) และมีรายงานว่าพลเรือนรายที่ 2 เสียชีวิตในหมู่บ้านโคซินคา
“โดยรวมแล้ว กลุ่มก่อการร้ายมากกว่า 70 คน รถหุ้มเกราะ 4 คัน และรถกระบะ 5 คันถูกทำลาย สำหรับวันนี้ ทางการได้ยกเลิกปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายในแคว้นเบลโกรอดแล้ว” สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตีของรัสเซียรายงานในวันนี้ (24 พ.ค.) พร้อมระบุว่าผู้โจมตีเป็น กลุ่มก่อวินาศกรรมและลาดตระเวนจากยูเครน
เรื่องที่ 2,163 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า รายได้จากการส่งออกน้ำมันของรัสเซียฟื้นตัวขึ้นในเดือนมี.ค.และเม.ย. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งช่วยเสริมขีดความสามารถของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในการจัดหาเงินทุนเพื่อการทำสงครามกับยูเครน
ผลการวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ (CREA) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระของฟินแลนด์ ที่เปิดเผยว่า รายได้จากการส่งออกน้ำมันของรัสเซียฟื้นตัวขึ้นจากระดับของเดือนม.ค.และก.พ.ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า รัสเซียประสบความสำเร็จในการกอบกู้รายได้จากการส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิล แม้จะเผชิญมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าเมื่อปลายปีที่แล้วจากสหภาพยุโรป (EU) และการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียจากกลุ่ม G7 ก็ตาม รายงานฉบับนี้ มีขึ้นภายในเวลาเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังจากที่บรรดาผู้นำกลุ่ม G7 ระบุในสรุปการประชุมที่เมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นว่า การกำหนดเพดานราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมรัสเซียได้ผลเป็นอย่างดี รายได้ของรัสเซียลดลงและราคาน้ำมันและก๊าซที่ถูกลงก็เป็นผลดีต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
เรื่องที่ 2,164 จีนและรัสเซียเตรียมลงนามในข้อตกลงระดับทวิภาคีในวันนี้ (24 พ.ค.) ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสติน แห่งรัสเซียเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง หลังจากที่ทั้งสองชาติให้คำมั่นว่า จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด แม้ว่าบรรดาชาติตะวันตกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติ ท่ามกลางไฟสงครามในยูเครน
นายกรัฐมนตรีมิชูสติน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัสเซียระดับสูงที่สุดที่เดินทางเยือนจีน นับตั้งแต่ที่รัสเซียส่งทหารเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือนก.พ. 2565 ได้จัดการเจรจาหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนและนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน
สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานว่า “รัสเซียและจีนมีแผนลงนามในข้อตกลงระดับทวิภาคีหลายฉบับ อันเป็นผลมาจากการเจรจาหารือระหว่างสองประเทศ” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ การเดินทางของนายมิชูสตินเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง หลังจากที่รัสเซียและจีนตอบสนองอย่างรุนแรงต่อการประกาศต่าง ๆ ของกลุ่ม G7 ในการประชุมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งล้วนแล้วแต่มุ่งเป้ามายังทั้งสองประเทศ ตั้งแต่ประเด็นสงครามยูเครน อาวุธนิวเคลียร์ และการบีบบังคับทางเศรษฐกิจ
กรมศุลกากรจีนระบุว่า ในเดือนเม.ย. การส่งออกของจีนไปยังรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 153.1% เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัวเมื่อเดือนมี.ค.
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ระบุว่า การขนส่งพลังงานจากรัสเซียมายังจีนก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 40% ในปีนี้ และทั้งสองประเทศกำลังหารือเกี่ยวกับการจัดหาอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ให้กับรัสเซีย
เรื่องที่ 2,165 “ฟูมิโอะ คิชิดะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นไม่มีแผนที่จะเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) หรือนาโต แต่ได้รับทราบถึงแผนการของนาโตที่จะเปิดสำนักงานประสานงานในญี่ปุ่น
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แสดงความเห็นดังกล่าว หลังจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหรัฐกล่าวว่า นาโตกำลังวางแผนที่จะเปิดสำนักงานในกรุงโตเกียว ซึ่งจะเป็นแห่งแรกในเอเชีย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการปรึกษาหารือในภูมิภาค
โดยนพวัชร์