ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 2-3 พ.ค 2566
เปิดศึกอย่างเป็นทางการระหว่าง เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล
เรื่องที่ 2,047 เปิดศึกอย่างเป็นทางการระหว่าง เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ภูมิใจไทย และ เสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย หลังเศรษฐา ปราศรัย วิจารณ์นโยบายกัญชา และกล่าวว่า เลือกพรรคภูมิใจไทย ได้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ
อนุทิน ไม่ทน โพสต์ข้อความโต้ตอบ บอกว่า “พี่นิด เป็นแคนดิเดทนายกฯ ไม่กี่วัน ทำให้พรรคเพื่อไทย มีทางเดินแคบลงทุกวัน สร้างเงื่อนไข ไม่จับมือพรรคนั้น พรรคนี้ ดูถูก ดูแคลนนักการเมืองทั่วไป”
ขณะที่ “เศรษฐา” สวนกลับทันควันว่า “ผมก็พร้อมที่จะขัดแย้ง อาจทำให้ทางเดินทางการเมืองแคบลง เพื่อ เปิดกว้างอนาคตให้กับลูกหลาน มากกว่าที่จะเกรงใจคนนั้นคนนี้เพื่อ เปิดกว้างทางการเมือง แต่ทำให้ทางออกอนาคตของลูกหลานพวกเรา แคบลง”
งานนี้ไม่มีใครยอมใคร ศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย จะยังดำเนินต่อไป จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง
และหลังการเลือกตั้งเป็นเรื่องยากที่ 2 พรรคนี้จะจับมือกัน เพราะนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พรรคเพื่อไทย เจ็บแค้นจากพรรคภูมิใจไทย มาหลายครั้งแล้ว
เรื่องที่ 2,048 มาอ่านข่าวดีเรื่องของค่าไฟฟ้ากันบ้างดีกว่า หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านี้เป็นประเด็นที่ร้อนแรงไม่แพ้อุณหภูมิอากาศของประเทศไทย จากค่าไฟที่ค่อนข้างแพง ล่าสุดพี่เล็ก “วัฒนพงษ์ คุโรวาท” ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน หรือสนพ. ระบุแล้วว่า จากการประเมินค่าไฟเชื่อว่าได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 66 ไปแล้ว โดยมองว่าหลังจากนี้ค่าไฟจะทยอยลดลง
คำว่าหลังจากนี้ก็คืองวด ก.ย.-ธ.ค. 66 เพราะงวดปัจจุบันที่กำลังจะต้องจ่ายนี้ในรอบบิลค่าไฟ พ.ค.เป็นต้นไปค่าไปเคาะแล้วที่ราคา 4.70 บาทต่อหน่วย ลดลงจากงวดม.ค.-เม.ย. 66 ประมาณ 2 สตางค์ โดยปัจจัยที่น่าจะทำให้ค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค.66 จะลดลงมาจากหลายปัจจัย โดยพี่เล็กบอกว่า ปริมาณก๊าซอ่าวไทยเพิ่มเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในเดือน ส.ค.และเป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ช่วงปลายปีนี้
รวมถึงราคาแอลเอ็นจีนำเข้าถูกลง จะนำไปลดค่าเอฟทีงวดถัดไปสำหรับเดือนก.ย.-ธ.ค.2566 ที่อาจมีโอกาสได้เห็นค่าไฟเฉลี่ยที่เรียกเก็บกับประชาชนลงมาอยู่ที่ระดับ 4.30-4.40 บาทต่อหน่วยได้ เห็นอะไรแบบนี้บ้างในช่วงนี้ประชาชนก็ค่อยสบายใจกันขึ้นมาบ้าง
ส่วนพรุ่งนี้ (3 พ.ค.66) ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ซึ่งประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ,สมาคมธนาคารไทย และหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งก็ต้องมาติดตามดูว่าข้อเรียกร้องเรื่องค่าไฟจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหรือไม่ หรือจะยิ่งโหมกระหน่ำเพิ่มมากขึ้น เพราะถือเป้นต้นทุนหลักของภาคเอกชนเลยทีเดียว
โดยนพวัชร์