ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 31 มี.ค. -1 เม.ย.2566
ตัวเต็งนายกรัฐมนตรี มีเพียง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เท่านั้น ที่ใจถึง กล้าลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยอยู่ในอันดับที่ 1 ของพรรคพลังประชารัฐ ทำให้สามารถเรียกขวัญและกำลังใจจากลูกพรรคได้เป็นอย่างดี
เรื่องที่ 1,931 ส่วนคนน้องอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ โดยให้เหตุผลว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ว่านายกฯต้องเป็น ส.ส.และเป็นเรื่องของพรรคที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม
ทางพรรคเพื่อไทย เริ่มมีความชัดเจนว่าทั้ง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร และเศรษฐา ทวีสิน จะไม่ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ไม่กี่วันมานี้ เศรษฐา ชี้แจงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า จุดยืนของผม ผมตั้งใจที่จะเข้าไปทำหน้าที่บริหาร โดยนำนโยบายที่ได้หาเสียงร่วมกับการออกกฎหมายจากฝ่ายนิติบัญญัติที่ประกอบไปด้วย ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย และพวกเราทุกคนมีจุดยืนที่จะทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มความสามารถ ไม่ให้ขาดตกบกพร่องในฐานะผู้แทนประชาชนแต่ประการใด
นั่นก็ชัดเจนว่าเขาจะไม่ลง ส.ส.
สรุปคือ ในบรรดานักการเมืองหน้าใหม่ ไม่มีใครใจถึงสู้ลุงป้อม
เรื่องที่ 1,932 ผลิตผลงานแรกออกมาให้เห็นแล้วสำหรับ เสี่ยแฮงก์ “อนุชา นาคาศัย” รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม” ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเก้าอี้กระทรวงนี้ หรือการสืบทอด เพราะการทำงานเสมือนก็อบปี้เจ้าของตำแหน่งคนก่อนมาแทบไม่ผิดเพียน ข่าวที่ออกมาก็เลยไม่ได้แตกต่างกันเท่าใดนัก แค่เปลี่ยนชื่อคนให้ข่าวเท่านั้นเอง
โดยเสี่ยแฮงก์ท่านก็ทำงานด้วยการมอบหมายให้ อ.หน่อง “วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือติดตามความคืบหน้าผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการก่อสร้างท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) ซึ่งล่าสุดก็ได้เยียวยาผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฯไปแล้ว 790 ราย เป็นกลุ่มชาวประมงที่อยู่ในกรอบ EHIA จำนวน 382 ราย
และอยู่นอกกรอบ EHIA จำนวน 408 ราย ขณะเดียวกันยังมีคำขอสมบูรณ์ที่พร้อมจ่ายเงินเยียวยาให้อีก 149 ราย รวมทั้งสิ้น 939 ราย มูลค่ารวม 93.9 ล้านบาท ถือซะว่าท่านรักษาการ รมว.อุตสาหกรรม กำลังเรียนรู้งานก็แล้วกันเนอะ ผลงานต่อไปอาจจะปัง เด่นว้าวเลยก็ได้ แม้จะเป็นแค่รักษาการก็ตาม
เรื่องที่ 1,933 อากาศร้อนๆ แบบนี้ ใครแกล้งเพื่อนทำแอร์เสีย หรือตัดไฟฟ้า ไม่มีพัดลมใช้ ไม่ใช่แค่ด่าถึงเจ้าคนมือบอน แต่ยังจะด่าไปถึงบุพการีอีกด้วย
ล่าสุด กรมสรรพากรไม่ทน แจงข่าวประชาสัมพันธ์ยาวเหยียด ระบุ ตึกกรมสรรพากรแอร์เสีย เพราะผู้รับสัมปทานที่ชนะการมูล ซ่อมแล้วทำไม่ดี ซ่อมแล้วใช้งานไม่นานก็เสียอีก อากาศร้อนแบบนี้ แอร์เสียชั้น สองชั้นไม่เท่าไหร่ เปิดช่องบันได ลมยังพัดผ่าน จากชั้นไปอีกชั้นได้
แต่รอบนี้ ข้าราชการเขาจะไม่ทน เพราะแอร์เสียเกือบทั้งตึก เรียกมาแก้ไขแล้ว ยังทำนิ่ง กรมสรรพากรออกข่าวประชาสัมพันธ์ ระบุชื่อชัดว่า “ซัยโจ เดนกิ” ชนะประมูลจากราคากลาง 300 ล้านบาท เหลือ 190 ล้านบาท สุดท้ายแล้ว ขาดทุนหรือยังจะพอมีกำไร ไม่ทราบ แต่ถ้าตุกติกแบบนี้ ระวังจะโดนย้อนหลังนะครับ
โดยนพวัชร์