ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 29-30 ม.ค.2566
มาที่ความเคลื่อนไหวของทีมอาจารย์สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ผู้ริเริ่มบัตรคนจน ที่หลายพรรคกำลังแย่งกันเป็นเจ้าของอยู่ขณะนี้
เรื่องที่ 1,760 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกัน เกี่ยวกับการกลับพรรคพลังประชารัฐของนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ภายหลังหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กทม. เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา
วันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา มีข่าวหนาหูว่า พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค จะเปิดตัวทั้งสองคนกลับกลับเข้าพรรค ในเวลา 15.00 ที่พรรคพลังประชารัฐ
แต่แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการอย่างกะทันหัน โดยพรรค พปชร. จะเปิดตัว นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ เป็นวันที่ 30 ม.ค.นี้ ส่วนจะเป็นเวลาไหนนั้น ต้องรอการยืนยันอีกครั้ง
ภายหลังเปิดตัว 2 กุมารแล้ว พรรค พปชร. ยังเรียนเชิญสื่อมวลชน เข้าร่วมงานกิจกรรมระดมทุน “พลังประชารัฐ ใจบันดาลแรง”
งานนี้นำโดย พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค
จัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 30 ม.ค. 2566 เวลา 17.30 – 21.00 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนเซนเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชัน เซนเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ (สี่แยกราชประสงค์) กรุงเทพฯ
เรื่องที่ 1,761 กบง. เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลดค่าไฟฟ้าประจำเดือนม.ค.-เม.ย. 2566 สำหรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที (Ft) ซึ่งเรียกเก็บที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยกลุ่มเปราะบาง ที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประมาณ 19.66 ล้านราย ประกอบด้วย
จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ตั้งแต่ 1-150 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย ขณะที่จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ตั้งแต่ 151-300 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 67.04 สตางค์ต่อหน่วย วงเงินช่วยเหลือประมาณ 7,500 ล้านบาทนั้น
แหล่งข่าว กล่าวถึงมาตรการดังกล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือดังกล่าวหากดูในรายละเอียดจะพบว่า มีการขึ้นค่าไฟในส่วนของกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟตั้งแต่ 151-300 หน่วยต่อเดือน อีก 25 สตางค์ต่อหน่วย เท่ากับว่ากลุ่มนี้จะต้องจ่ายค่าไฟประมาณ 4 บาทต่อหน่วย ไม่ได้จ่ายราคาเดิมคือประมาณ 3.70 บาทต่อหน่วยเช่นเดียวกับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน
เรื่องที่ 1,762 เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้สัมภาษณ์ “ปลัดพี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” คุยกันหลายเรื่องทั้งที่เป็นข่าวได้และเป็นข่าวไม่ได้ เรื่องที่เป็นข่าวได้นั้น ขอยืนยันว่า กระทรวงการคลังมีแนวทางในการปฏิรูปโครงสร้างภาษีอยู่ในกำมืออยู่แล้ว แต่ในช่วงที่ผ่านมา คลังพูดบ้าง กรมสรรพากร หรือไม่ก็กรมสรรพสามิตพูดบ้าง เราไม่ได้ออกมาพูดพร้อมกัน แต่ทั้งหมดนี้ มีเป้าหมายเดียวกันในการปฏิรูปภาษีเพื่อนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ ขณะเดียวกัน คลังก็มีเป้าหมายในการลดการขาดดุล รวมถึงการใช้เงินงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โดย
ในช่วงนี้ นักการเมืองและพรรคการเมืองต่างก็หาเสียงเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่ง ในฐานะข้าราชการ คงไปห้ามใครไม่ได้ ทำได้เพียงเตรียมความพร้อมรับมือไม่ว่า นโยบายของพรรคการเมืองจะออกมารูปแบบใด โปรยยาหอมขนาดไหนก็ตาม ล่าสุดได้สั่งให้ สศค.เก็บรวบรวมข้อมูลในการหาเสียงของทุกพรรคการเมืองแล้ว เพื่อประเมินการใช้เงินงบประมาณหลังจากชนะการเลือกตั้ง
ส่วนงบประมาณที่ใช้ในโครงการต่างๆ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ยอมรับปูดขึ้นมาเยอะ แต่กระทรวงการคลังก็ต้องรายงานให้รัฐบาลใหม่ทราบว่า งบประมาณมีข้อจำกัดมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่มือเติบใช้งบไม่อั้น ขาดวินัยการเงินการคลัง สุดท้ายการขาดดุลงบประมาณก็ไม่มีวันที่จะลดลงได้
ส่วนเรื่องที่เป็นข่าววันนี้ ไม่ได้ คือ 1.การโยกย้ายข้าราชการกระทรวงการคลังประจำปีงบประมาณ2567 และ 2.เรื่องยุ่งของ ก.ล.ต.
แต่วันพรุ่งนี้ อาจจะเป็นข่าวได้นะครับ!!
โดยนพวัชร์