ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 9-10 ม.ค.2566
นักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ชุดแรก เดินทางถึงประเทศไทยแล้ว ภายหลังสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66
เรื่องที่ 1,704 วันที่ 9 ม.ค.66 สนามบินสุวรรณภูมิ คึกคัก ต้อนรับการเดินทางของชาวจีนที่เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน โดยสายการบิน Xiamen Airlines เที่ยวบิน MF833 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 12.19 น. มีผู้โดยสาร จำนวน 269 คน โดยในวันนี้ (9 ม.ค. 2566) มีเที่ยวบินขาเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 15 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 3,465 คน
จากข้อมูลจำนวนผู้โดยสารของ ทอท.(บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด) คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ ทอท. ประมาณ 7 – 10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 มีจำนวน 20.5 ล้านคน
ทอท. ชี้ว่า การเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย และการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน อันส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวภายหลังจากสถานการณ์ COVID-19
เรื่องที่ 1,705 ผ่านปีใหม่มาก็หลายวัน เพิ่งเห็นข่าวที่เข้าท่าจากกระทรวงอุตสาหกรรมข่าวแรกนี่แหละ เมื่อล่าสุด “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือกับกระทรวงการคลังออกมาตรการกระตุ้นการใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Green Tax Expense) โดยให้นำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวน 1.25 เท่าของค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไป ในการขอรับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในระหว่างปี 2565-2567
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวนโยบายเพื่อขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ BCG Economy โดยเงื่อนไขก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่จะต้องซื้อผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพจากผู้ผลิตที่ได้รับใบรับรองผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่ออกให้โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. ถือว่าเป็นข่าวที่ได้ประเด็นดีได้น้ำได้เนื้อของกระทรวงอุตฯประเดิมปี 2566 เลยครับผม ยังไงก็ขอให้มีข่าวเด็ดๆประเด็นดีๆออกมาบ่อยๆแล้วกันนะ อย่าให้เงียบหายไปเหมือนปีที่แล้วนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 1,706 ล่าสุด “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ก็ออกยืนยันแล้วว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่ปลายที่แล้วนั้น ปีนี้ภายในเดือนมี.ค. จะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านหลักเกณฑ์อย่างแน่นอน ส่วนได้ครบตามจำนวน 22 ล้านคนหรือไม่ ไม่มีใครการันตี แต่ที่แน่นๆ วงเงินงบประมาณที่เตรียมไว้ 50,000 ล้านบาท ไม่เพียงพออย่างแน่นอน เพราะยอดเงินดังกล่าว เป็นวงเงินงบประมาณเท่าเดิม ที่ใช้ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยตั้งอยู่บนยอดจำนวนผู้ถือบัตร จำนวน 13 ล้านคน หาใช่ 22 ล้านคน
ยั้ง!! ตัวเลขที่สูงสุดโต่งตามที่ประกาศข้างต้น
เรื่องที่ 1,707 นักท่องเที่ยว เพิ่งจะเดิมทางถึงไทยเที่ยวแรก แบบฉายหนังรอบแรก เรียกว่า “ปฐมฤกษ์” นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ต่างก็ดีใจกันยกใหญ่ งานนี้ นอกจากจะได้ปั่นจีดีพีให้พุ่งเป็นจรวดแล้ว ยังได้คุยโม้ไปได้อีกหลายวันว่า “เศรษฐกิจไทยฟื้นแล้ว เศรษฐกิจไทยพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และเศรษฐกิจปีนี้ ดีกว่าปีที่แล้ว” ครับลูกพี่!!
โดยนพวัชร์