ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 9-10 ธ.ค.2565
พรรคก้าวไกล เปิดนโยบาย อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เปิดชุดนโยบาย “ต้องก้าวไกล ราชการไทยก้าวหน้า” เปลี่ยนแปลงให้ระบบราชการเป็น ราชการเพื่อราษฎร ทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1,631 “รัฐโปร่งใส ไร้กลโกง ทุกคนตรวจสอบได้”
1. เปิดข้อมูลรัฐทันที ประชาชนเป็นเจ้าของ 2. ระบบจับโกงอัจฉริยะ 3. โครงการ “คนโกงวงแตก” จูงใจให้คนที่คิดจะโกง ระแวงกันเอง 4. โครงการ “แฉโกง ปลอดภัย ได้เงิน” 5. ตัวแทนจับโกงจากประชาชน 6. ห้ามใช้เงินหลวง โปรโมทตัวเอง 7. ป.ป.ช. ยึดโยงประชาชน
“ข้าราชการทำงานฉับไว คุ้มค่าภาษีประชาชน”
1. ทุกบริการภาครัฐ ผ่านมือถือ 2. ร้องเรียนไป ต้องไม่เงียบ อัพเดททุกขั้นตอน 3. สวัสดิการโอนเข้าอัตโนมัติ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องลงทะเบียน 4. ยกเลิกใบอนุญาต 50% ยกเลิกทุกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค 5. รู้ผลใบอนุญาตใน 15 วัน 6. ยกเครื่องประเมินข้าราชการ ทำงานดี ข้าราชการได้ดี ประชาชนได้ดี 7. ปลดล็อกส่วนกลาง ข้าราชการทีมไทยแลนด์ ทลายกำแพงระหว่างกระทรวง-กรม 8. งบประมาณปรับทันใจ จัดทำใหม่จากศูนย์ในทุกๆปี (zero-based budgeting)
“ตำรวจของประชาชน พิทักษ์สันติราษฎร์”
1. ผบ.ตร. ยึดโยงประชาชน ผ่านสภาผู้แทนราษฎร 2. ผู้ตรวจการตำรวจ ประชาชนมีช่องทางร้องเรียนตำรวจได้ 3. จังหวัด-ตำรวจ ร่วมรับใช้ประชาชน 4. เติบโต-โยกย้ายเป็นธรรม ปราศจากตั๋ว-เส้นสาย 5. ลดภาระพนักงานสอบสวน แบ่งงานให้ตำรวจสายอื่น 6. ตำรวจหญิงทุกสถานี เติบโตเป็น ผบ.ตร. ได้ 7. คืนผมให้ตำรวจ ไม่บังคับเกรียน 8. คุ้มครองสิทธิและศักดิ์ศรีตำรวจทุกระดับ
เรื่องที่ 1,632 ยังคงไม่มาตามนัดสำหรับบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) สำหรับของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับประชาชน หลังจากที่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ประกาศตรึงราคาน้ำมันยาว 10 วัน ช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 2565 – 2 ม.ค. 2566 โดยที่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงก็จะลดลงตาม เพียงแต่จะไม่มีการขยับขึ้นในช่วงวันเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ หากเป็นตามปกติของทุกปีก็จะเห็นทั้ง 2 ค่ายประกาศแบบนี้ออกมาในเวลาไล่เรี่ยกัน แต่เหตุไฉนเวลานี้ โออาร์ ยังไม่ยอมมา หรือว่าปีนี้งบประมาณจะร่อยหรอไปเยอะ เพราะบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. โดนไถตลอดไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรที่ต้องใช้เงินก็ต้องมีอันมาขอตลอด ทั้งการเข้าซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่โดนไปเหนาะๆ 500 ล้าน และยังจะต้องช่วยเรื่องค่าอัตราไฟฟ้าผันแปร หรือเอฟที (FT) อีก 3,000 ล้านบาท เพื่อไม่ให้ค่าไฟงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.66 ขยับสูงขึ้นจนเดือดร้อนประชาชนอย่างหนัก ต้องบอกว่าน่าเห็นใจยิ่งนัก แต่ประชาชนตาดำๆก็เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า หากพอจะช่วยกันได้อีกก็ช่วยเถอะขอรับเจ้านาย เพราะช่วงปีใหม่ประชาชนคงเดินทางกันมาก และต้องจ่ายค่าน้ำมันกันมากโข
เรื่องที่ 1,633 “อธิบดีเอก-เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” อธิบกรมสรรพสามิต ถามได้ ตอบได้ที่เกี่ยวกับกรมสรรพสามิต แต่คงไม่สมใจนักข่าวสายกระทรวงการคลัง ถาม “อธิบดีเอก” เรื่องภาษีขายหุ้น 0.11% ประเด็นร้อนตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ ได้แต่หัวเราะ พร้อมบอกว่า ไม่เกี่ยวกับกรมสรรพากรแล้ว ต้องถาม “อธิบดีบัด-ลวรณ แสงสนิท” อธิบดีกรมสรรพากรครับ ส่วนเรื่องที่ตอบเอาเฉพาะประเด็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น
ล่าสุดได้ค่ายรถยนต์น้องใหม่เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำรถรุ่น BQS เข้าร่วมมาตรการของรัฐบาลเป็นที่ 12 และภายในสิ้นปีนี้ จะมีรายที่ 13 ค่ายญี่ปุ่นยี่ห้อฮอนด้า เป็นรายสุดท้ายของปีนี้
นอกจากนี้ “อธิบดีเอก” ยังมีแนวคิดที่พัฒนาอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ เพราะในอนาคตแบตเตอรี่ฯ พลังงานสะอาดจะเข้ามาแทนที่พลังงานที่ก่อมลพิษ ดังนั้น อัตราภาษีแบตเตอรี่ที่กรมจัดเก็บอยู่ในอัตรา 8% จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้แบตเตอรี่รีใหม่ทุกชนิดไม่ใช่เฉพาะแบตเตอรี่ที่ใช้กับรถยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้ภายในบ้านและแบตเตอรี่รีไซเคิล เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งอัตราที่จัดเก็บจะอยู่ระหว่าง 1-8% ส่วนอัตราที่แท้จริงจะเป็นเท่าไหร่นั้น ยังไม่มีการพิจารณา
โดยนพวัชร์