ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 8-9 ธ.ค.2565

นโยบายของพรรคเพื่อไทย ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท จบปริญญาตรี เริ่มต้นที่ 25,000 บาท ดูแล้วคล้ายนโยบายหาเสียง เมื่อสมัยที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2554

เรื่องที่ 1,627 ตอนนั้นพรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท จบปริญญาตรีรับ 15,000 บาท ถือว่าเป็นนโยบายประชานิยมที่หวือหวา และได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ว่าจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่เศรษฐกิจโดยรวม
กระนั้น เมื่อยิ่งลักษณ์ ชนะการเลือกตั้ง ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ก็สามารถขับเคลื่อนนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และปริญญาตรี 15,000 บาท ได้สำเร็จ แม้จะมีเสียงทัดทานตามมาอีกมากมาย
ต้องยอมรับว่าจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศไทย แทบจะไม่ขยับเลย ซึ่งสวนทางกับสภาวะเงินเฟ้อ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ที่เพิ่มมากขึ้น เกือบเท่าตัว
และต้องยอมรับว่า นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ เป็นนโยบายหาเสียงที่เข้าถึงประชาชนได้มากที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง พรรคเพื่อไทย จึงมองแล้วว่า นี่แหละจะเป็นนโยบาย สำคัญที่จะทำให้พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
นโยบายค่าแรงขั้นต่ำของพรรคเพื่อไทยในวันนี้จึงเหมือนกับยิ่งลักษณ์โมเดลในอดีต

เรื่องที่ 1,628 เรียกว่ามีข่าวดีต่อเนื่องเลยสำหรับวันนี้ (8 ธ.ค.) เกี่ยวกับแวดวงพลังงานสำหรับประชาชนคนไทย ข่าวแรกได้เฮกันเลยครับพี่น้อง เพราะช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ประกาศลั่นเตรียมตรึงราคาน้ำมันระหว่างวันที่ 24 ธ.ค. 2565 – 2 ม.ค. 2566 แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับขึ้น และหากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง บางจากฯ จะปรับลดราคาลงด้วย เพื่อร่วมแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่ให้คนไทยทุกคนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับครอบครัว

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) บางจากและบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) ยังปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 30 สตางค์ต่อลิตร ส่วน E85 และดีเซลไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา ทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์เหลือ น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ลิตรละ 41.86 บาท ,แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 34.45 บาท ,แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 34.18 บาท ,แก๊สโซฮอล์ E20 ลิตรละ 32.74 บาท ,แก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละ 32.39 บาท
ต่อไปก็รอลุ้นราคาค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย.66 ปีหน้าต่อแล้วกันนะครับผมว่าจะมีข่าวดีเล็กๆ หรือข่าวดีขนาดใหญ่ให้ประชาชนคนไทยได้เฮกัน นี่ไม่ได้กดดันนะครับเจ้านาย แต่บอกเลยว่ารอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อเลยคร๊าบบบบบบบบบบบบบบ

เรื่องที่ 1,629 ประเด็นเศรษฐกิจทั้งทางด้านการค้าและการลงทุน แม้จะไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์มาจากสำนักวิจัยชื่อดัง แต่ล่าสุด “ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล” ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน วิเคราะห์ให้ฟังหลายเรื่องแล้ว น่าสนใจอย่างมากเช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. แม้จะปรับขึ้น 3 ครั้งติดต่อกัน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยล่าสุดมาอยู่ที่ 1.25% ก็ตาม แต่ท่านประธานฯ กล่าวย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในระดับต่ำ ดอกเบี้ยเงินกู้ไม่ได้พุ่งขึ้นไปแตะ 5-6% จึงไม่น่าตกใจ ที่สำคัญ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของเราไม่ได้ปรับขึ้นมานานแล้ว การที่อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 ขาคือ เงินกู้และเงินฝาก ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในปีหน้า เพราะคนที่มีเงินฝากนำรายได้จากดอกเบี้ยมาใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนไปอีกหลายรอบ ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ขึ้น ถ้ามีผลกระทบก็เพียงเล็กน้อย เพราะหากเศรษฐกิจดีดอกเบี้ยแพงก็สู้ไหว โวย!!
ขณะที่การท่องเที่ยวปีหน้า สำหรับประเทศไทยดีขึ้นแน่นอน เพราะจีนเริ่มผ่อนผันการปิดประเทศ พิจารณาได้จากตั๋วเครื่องบิน จากเดิมไปขาเดียว 180,000 บาท บินไปไม่มีบินกลับ ค่าตั๋วจึงแพงมาก แต่ล่าสุด ลดลงเหลือ 20,000 บาท เนื่องจากมีผู้โดยสารทั้งไปและกลับ สัญญาณที่เกิดขึ้นจึงเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

เรื่องที่ 1,630 สำคัญที่สุดตอนนี้ หนีไม่พ้น “ธุรกิจจีนสีเทา” หนังสือพิมพ์และข่าวออนไลน์ พาดหัวข่าวใหญ่โต อย่าลืมว่า ประเด็นนี้ มีผลกระทบคนจีนและประเทศจีน “เต็มคาราเบล” เดือดร้อนถึง “ประธานหอการค้าไทย-จีน” คนเดินเรื่องที่ 1,629 “ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล” ต้องออกมาชี้แจงว่า “แก๊งนักธุรกิจจีนสีเทา” ที่สื่อและตำรวจไทยระบุถึง น่าจะเป็นนักลงทุนที่เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา
โดยขอยืนยัน นั่งยันและนอนยังว่า ไม่ใช่นักธุรกิจที่เดินทางมาจากประเทศจีนอย่างแน่นอน เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิดโควิด-19 ทางการจีนออกวีซ่าให้นักธุรกิจจีนเดินทางเข้าไทยไม่ถึง 1,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการจีน หรือหน่วยงานราชการของจีน ขณะที่ ประเทศไทยเองมีนักธุรกิจจีนที่เป็นคนจีน รวมถึงลูกครึ่งไทยเชื้อสายจีนอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 10 ล้านคน
ดังนั้น คนจีนที่ทำธุรกิจสีเทา แม้มีอยู่จริง!! ไม่อาจปฏิเสธก็ตาม
แต่เชื่อว่า มีไม่มาก เพราะกว่า 99% ทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย หากสมาคมฯ พบบริษัทฯ ใด ทำ “ธุรกิจสีเทา” จะตัดออกจากการเป็นสมาชิกทันที จึงอยากฝากถึงตำรวจและประชาชนทั่วไปด้วยว่า นักธุรกิจจีนที่ทำธุรกิจตามปกติถูกต้องตามกฎหมายก็มีอยู่มากมาย เช่น โรงงานผลิตยางรถยนต์ โรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ลงทุนในหลายแสนล้านบาทต่อปีครับ
โดยนพวัชร์