ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.2565
โปรดเกล้าฯเรียบร้อยแล้ว สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดย บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ปรับ แต่งตั้ง 3 ตำแหน่ง
เรื่องที่ 1,604 คนแรกไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็น “ดร.แด๊ก ธนกร วังบุญคงชนะ” อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันลาออกไปนั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องเรียกว่าอยู่ใกล้นาย จนได้ดี
คนต่อมา คือ “สุนทร ปานแสงทอง” ตัวแทนกลุ่ม ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ลูกหม้อบ้านใหญ่และทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัย “วัฒนา อัศวเหม” จนถึงปัจจุบัน ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยก่อนหน้านี้ ส.ส.กลุ่มปากน้ำ ได้ร้องขอไปยัง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเอาเก้าอี้รัฐมนตรี และในที่สุดลุงป้อม ก็จัดให้ตามคำขอ
คนที่สุดท้ายคือ “นริศ ขำนุรักษ์” ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ แทน “นิพนธ์ บุญญามณี” ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อไปนานมากแล้ว จนคิดว่าจะรอเก้อ แต่ท้ายที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยอมปรับให้
เรื่องที่ 1,605 รัฐบาลเองคงต้องพยายามหาทางดูแลค่าไฟอย่างจริงจัง และต้องคิดให้รอบครอบมากขึ้น เพราะเวลานี้ต่างก็เดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า ล่าสุดภาคเอกชนเองก็คงทนไม่ไหวถ้าค่าไฟจะต้องถูกปรับขึ้น โดยทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือเอฟที (Ft) สำหรับงวดเดือนม.ค.–เม.ย.2566 เสียงส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐคงค่า Ft ที่อัตรา 93.43 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อให้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วยเท่างวดปัจจุบัน
ทั้งนี้ เนื่องจากภาคเอกชนเองเค้ามองว่า ราคาเชื้อเพลิงที่นำมาผลิตไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง และจะส่งผลทำให้ภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่นำมาผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกฟผ. ทยอยปรับลดลงตามไปด้วย ที่สำคัญผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งค่าไฟฟ้า ค่าแรง ราคาวัตถุดิบ และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับเพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยทั้งสิ้น
เชื่อว่าข้อเรียกร้อง และเหตุผลที่ภาคเอกชนหยิบยกขึ้นมา คงจะทำให้ภาครัฐต้องไตร่ตรองขนาดหนัก เพราะเรื่องค่าไฟส่งผลกระทบโดยตรงกับคนทั้งประเทศมากกว่าการไม่ได้รับชมฟุตบอลโลกแบบสุดๆนะครับเจ้านาย
เรื่องที่ 1,606 สรุปผลการประชุม กนง.ลงมติเป็นเอกฉันท์เรียบร้อยโรงเรียนแบงก์ชาติ ไฟเขียวปรับขึ้นอัตรานโยบาย 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.25% เป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในรอบปีนี้ และคาดว่า ไตรมาสแรกของปีหน้า กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นไปแตะที่ระดับ 1.75% ต่อปี เพื่อส่งสัญญาการฟื้นตัวอย่างชัดเจนและลดกระแสเงินทุนไหลออก ภายใต้เงื่อนไขเศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี2565 จะขยายตัวได้ 3.2% จากเดิมที่ 3.3% และปี2566 ขยายตัว 3.7% จากเดิม 3.8% ขณะที่ปี2567 จะขยายตัวได้ 3.9%
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี2565 คาดว่าอยู่ที่ 6.3% เท่ากับประมาณการในครั้งก่อน ปี2566 อยู่ที่ 3% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากประมาณการครั้งก่อน และในปี2567 เงินเฟ้อจะลดลงอย่างต่อเนื่องไปที่ 2.1% ถือว่า ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุด ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เรื่องที่ 1,607 สู้!! สู้หัวชนฝา!! ครับ “พี่เสก-เสกสรรค์ จันทร์ขวาง” รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. เต็งหนึ่งคนใน อายุงานเกิน 30 ปี ที่ลงชิงตำแหน่งผู้จัดการ ธ.ก.ส.ต่อจาก “พี่หมู-ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์” ที่เกษียณในเดือนมี.ค.ปีหน้า แต่จะชิงเป็นผู้จัดการได้ดังฝันหรือไม่ ต้องถาม “ฉัตร-ฉัตรชัย-ศิริไล” กรรมการผู้จัดการ ธอส.ที่ข้ามห้วยชิงตำแหน่งเดียวกัน ยอมให้ผ่านไปได้ง่ายๆ หรือไม่ คงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า แมวขาวหรือแมวดำ ตัวไหนจะขึ้นแท่นเป็นเอ็มดี แต่ที่แน่นอนคือ ผู้สมัครทั้ง 5 คน ได้ผ่านการตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงเหลือแต่แสดงวิสัยทัศน์ ไม่เกินสิ้นปีนี้ น่าได้ผู้ชนะอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่า ประธานคณะกรรมการสรรหายังไม่ลงตัว หลังจาก “จำเริญ โพธิยอด” อธิบดีกรมธนารักษ์ลาออกจากบอร์ด ธ.ก.ส.และลาออกจากประธานคณะกรรมการสรรหา ขณะที่ บอร์ด ธ.ก.ส.ยังไม่เสนอใครมาเป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ช่วงนี้ ต้องร้องเพลงรอกันไปก่อนนะครับ
โดยนพวัชร์