ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 2-3 พ.ย.2565
วันพฤหัสที่ 3 พ.ย.65 เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะเดินทางไปศาลปกครองสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี ฐานใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ กรณีมีมติให้คนต่างด้าว-ต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศไทยได้
เรื่องที่ 1,527 นักร้องอย่าง ศรีสุวรรณ เห็นว่า ทรัพยากรที่ดิน เป็นทรัพยากรของชาติ ที่มีอยู่อย่างจำกัด มีพื้นที่ชุมชนและสิ่งปลูกสร้างเพียง 16.52 ล้านไร่ เราต้องหวงแหนรักษาไว้ให้ลูกหลานของเรา เพราะไม่สามารถหาเพิ่มใหม่ได้ มีแต่จะหมดลง ถ้าปล่อยให้ผู้มีอำนาจกระทำการใดๆโดยอำเภอใจ
เขาเห็นว่า การปล่อยให้ต่างชาติครอบครองที่ดินในไทยได้ จะส่งผลร้ายต่อคนไทย ประเทศจะสูญเสียอื่นๆตามมาอีกมากมาย จนไม่เหลืออะไรให้กอบกู้ไว้เป็นสมบัติแผ่นดิน ทุกอย่างจะเป็นของต่างชาติ ของกลุ่มอภิสิทธิ์ชน ของนายทุน และผู้มีอำนาจในและต่างประเทศ คนธรรมดา คนจนในประเทศที่มีมากกว่า 90% จะหมดสิทธิ์ แล้วเราจะปล่อยให้ผู้มีอำนาจนำแผ่นดินของชาติไปขายโดยอ้างการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างนั้นหรือ?
เรื่องที่ 1,528 วันนี้ขอปักหลักอยู่ที่กระทรวงอุตสาหกรรมอีกสักวัน ในเมื่อ บก.ชวนคุยมีแนวร่วมที่คิดเหมือนกันอยู่มิใช่น้อย กับการทำงานของกระทรวงแห่งนี้ ในกรณีประเด็นเรื่องของการออกเพรสข่าวให้กับสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนให้ได้รับทราบ หากยังจำกันได้ บก.ชวนคุยเคยพูดถึงประเด็นนี้ไปแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นข่าวอะไรของกระทรวงแห่งนี้ก็ตาม จะต้องมีชื่อท่าน รมว. เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของข่าวเสมอ แม้จะเป็นแค่การเกริ่นนำ ซึ่งไม่มีความจำเป็นสำหรับเนื้อหาก็ตาม แต่ต้องขอให้ได้มีเถอะเป็นอันสมบูรณ์
ล่าสุดกับข่าวของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ที่ต้องการนำเสนอประเด็นในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลาง จนถึงขนาดเล็ก หรือที่เรียกกันว่าเอสเอ็มอี (SMEs) จากปัญหาอุทกภัย ด้วยวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ แต่พ่อคุณเอ๋ยในข่าวเพียงข่าวเดียวที่เนื้อหาสั้นๆ พี่ท่านกลับใส่ชื่อมาหมดทั้ง รมว.อุตสาหกรรม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ท่านปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมป้ายแดง “ณัฐพล รังสิตพล” และท่านผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนอธิบดีดีพร้อม “ใบน้อย สุวรรณชาตรี” ถามไปถามมาก็ได้ความชัดแจ้ง ว่าที่ต้องทำแบบนี้เพราะมันเป็นนโยบาย โถๆๆๆๆ ช่างน่าเห็นใจคนเขียนข่าวเสียนี่กระไร แต่ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละว่าคนอ่านเค้ารู้นะจ๊ะว่าอะไรเป็นอะไร เพราะแค่มีชื่อปรากฏในข่าวก็ไม่ได้แปลว่าเป็นผู้ที่ทำงานจ้า
เรื่อง 1,529 ไม่ได้เห็นภาพการรวมพลคนกระทรวงการคลังโดยเฉพาะแบงก์เฉพาะกิจ หรือแบงก์รัฐมานานแล้ว แต่งานนี้ภายใต้การนำของ “ขุนคลัง” อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ลงกระชับพื้นที่ด้วยตัวเอง จึงไม่มีแบงก์ไหนกล้าเบี้ยวหรือออกตัวไม่หนุนงาน “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” จะเริ่มวันแรก 4 พ.ย.จบวันสุดท้าย 6 พ.ย.นี้ ณ เมืองทองธานี หลังจากนั้น กระจายไปทั่วประเทศเริ่มภาคแรกคือ อีสาน จังหวัดขอนแก่น ภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกจังหวัดชลบุรี และภาคใต้ จังหวัดสงขลา จบสิ้นโครงการถึงเดือนม.ค. ปีหน้า
เรื่องที่ 1,530 เป็นประเด็นขึ้นมาจนได้ หลังผ่านพ้นไปหลายวันแล้ว เริ่มวันแรก 6 ต.ค.ที่ผ่านมา จนถึงบัดนี้แล้ว ยังไม่มีใครลงสมัครชิงเบอร์หนึ่ง ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แม้แต่คนเดียวหรือจะรอให้ถึงสัปดาห์หน้า พ้นวันลอยกระทงไม่เกินวันที่ 11 พ.ย.วันสุดท้ายปิดสมัคร ณ เวลา 16.30 น.
ดังนั้น โปรดอย่ากระพริบตา “นพวัชร์” ทราบว่า ดูเหมือน “ขุนคลัง” จะไม่ค่อยพอใจแบงก์รัฐ ธ.ก.ส.สักเท่าไหร่ ถ้าวัดตามขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ธ.ก.ส.เป็นแบงก์อันดับสาม รองจากธนาคารออมสินและกรุงไทย แถมยังดูเกษตรกรทั่วประเทศอีกหลายสิบล้านคน “พี่หมู-ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์” ก็รับไม้ต่อจากเอ็มดีคนเก่าชื่อ “อภิรมย์” มาจากสำนักคอมพิวเตอร์ทั้งคู่ แต่เหตุไร!! ระบบงานคอมฯ และแอปฯ บนมือถือถึงสู้กับแบงก์รัฐพวกเดียวกันไม่ได้ แพ้ทั้ง “เป๋าตัง” และ “MYMO”
หนี้เอ็มพีแอลก็พุ่งแรง อันดับหนึ่งทะลุ 12% ไม่มีพวกอยากเรียนแบบ จึงได้ยินแว่วๆว่า รอบนี้ เอ็มดีท่านใหม่ จะไม่ใช่ลูกหม้อสืบทอดมรดกตามวัฒนธรรมองค์กรเหมือนที่เคยปฏิบัติ
“ขุนคลัง” ขอทาบเอง “ตัวตึง” ตัวท็อปๆ แบบระดับสุดยอดฝีมือจากแบงก์รัฐด้วยกันนี่แหละครับ นั่งเป็นเอ็มดีพัฒนา ธ.ก.ส.สัก 1-2 ปี หลังจากนั้น ไฟเขียวไปนั่งแบงก์รัฐไหนก่อนเกษียณก็ได้ ผลปรากฏว่าชื่อ เอ็มดี “ฉัตรชัย ศิริไล” ธอส.มาแรงเป็นคนแรก ส่วนคนอื่นๆ ยังนิ่งเงียบ หากเป็นเช่นนั้น ต้องรอลุ้นกันถึงวันที่ 11 พ.ย.เลย ส่วนจะมีข่าวดัง ต้อนรับปีใหม่ส่งท้ายปีเก่าหรือไม่!! อย่าเชียร์กันออกนอกหน้านะครับ “ขุนคลัง” ไม่ชอบ
โดยนพวัชร์