ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 10-11 ต.ค.2565
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค มีผลทำให้ความเป็นกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ โดยในการประชุมใหญ่พรรคเศรษฐกิจไทย ได้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย ชุดใหม่ ดังนี้ 1.นายเชวงศักดิ์ ใจคำ หัวหน้าพรรค 2.นายสัจจวิทย์ ลีลาวณิชย์ เลขาธิการพรรค 3.นางชวาลี เดือนดาว เหรัญญิกพรรค 4.นายสุธี พงษ์เพียรชอบนายทะเบียนสมาชิกพรรค 5.นายประสิทธิ์ หนักตื้อ กรรมการบริหาร 6.นางสาวพนัฐดา กันทา กรรมการบริหาร 7.นายวิชัย เป็นพนัสสัก กรรมการบริหาร 8.นายกิจภพ กัณฑมิตร กรรมการบริหาร 9.นายธีระศักดิ์ สิทธิชัยธนะกิจ กรรมการบริหาร 10.นางสาวธัศชล บุญแสนไชย กรรมการบริหาร และ 11.นางสาวคำแปง ทำนา กรรมการบริหาร
เรื่องที่ 1,453 จะเห็นว่าคณะกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย ไม่มีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส และคนใกล้ชิดของ ร.อ.ธรรม อย่าง ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา ฯลฯ
ทามกลางกระแสข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส เตรียมยกพวกย้ายออกจากพรรคเศรษฐกิจไทย ไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย โดยก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวการดีลระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส กับทักษิณ ชินวัตร อย่างต่อเนื่อง
เพราะทางเดินของผู้กองธรรมนัสนั้น ไม่อาจบรรจบอยู่ร่วมชายคากับ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้
ดังคำที่ ร.อ.ธรรมนัส เคยโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า “ศัตรูของศัตรูคือมิตร”
และทักษิณ ก็น่าจะเป็นคำตอบสำหรับ ข้อความปริศนานั้น
เรื่องที่ 1,454 ต้องบอกว่าโชคดีเหลือเกินสำหรับประชาชนคนไทย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้น้ำมันดีเซลเป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อนยานพาหนะ เพราะเรามีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งบริหารงานโดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. ที่ บก. ชวนคุยกล่าวไปแบบนี้ก็เพราะว่า แม้กองทุนน้ำมันฯจะติดลบไปมากกว่า 1 แสนล้านบาทเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะไม่ปรับขึ้นราคาจำหน่ายน้ำมันดีเซลในประเทศเอาไว้ได้อีก
โดย บก.ชวนคุยแอบกระซิบถาม “พรชัย จิรกุลไพศาล” ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ผู้ช่วยเลขา กบน. ถึงความคืบหน้าของผลการประชุม คำตอบที่ได้รับก็คือยังไม่มีการปรับราคาน้ำมันดีเซล แต่มีการปรับอัตราเงินช่วยสนับสนุนแทน แม้ว่าราคาตลาดโลกจะขยับขึ้นไปค่อนข้างสูง แบบนี้ไม่เรียกว่าคนไทยโชคดี ก็ไม่รู้ว่าว่าจะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะครับผม
เรื่องที่ 1,455 ถ้าเอยถึงเรื่องการพัฒนาเพื่อพัฒนาธนาคารให้ก้าวหน้าต่อไปในอนาคตอีก 10 ปี หรือ20 ปี คงหนี้ไม่พ้นธนาคารออมสินกับ ธอส.เพราะธนาคารสองแห่งนี้แม้จะไม่ใช่คู่แข่งอย่างชัดเจนแต่มีวัตถุประสงค์เหมือนกันๆ คือ เพื่อช่วยเหลือประชาชน อย่างธนาคารออมสิน ชูนโยบายธนาคารเพื่อสังคม ขณะที่ ธอส.เป็นธนาคารที่ช่วยให้คนไทยมีบ้านง่ายขึ้น แถมยังมีนโยบายเปิดเกมบุกเข้าสู่ยุคดิติทัลเหมือนกันอีก
ล่าสุด ธอส.ประกาศชัดเจนแล้วว่า เดือนต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมก้าวจาก GHB ALL เป็น GHB ALL GEN โดยพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ต่อยอดบนแอปฯ เดิมขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เพื่อให้บริการของธนาคารทั้งหมดอยู่บนมือถืออย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะผู้ซื้อบ้านสามารถขอสินเชื่อจากธนาคารรวดเร็วยิ่งขึ้น เพียง 3-5 วันเท่านั้น
ธนาคารออมสิน ก็ประกาศ พร้อมลุยเพิ่มเติมจากบริษัท เงินสดทันใจ บริษัท มีทีมีเงิน และล่าสุด เข็นโครงการยักษ์ก่อตั้ง บริษัท Non-bank บริษัทใหม่ล่าสุด ที่คาดว่า จะคลอดกลางปีหน้านี้ ออกตะลุยตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดนี้ ลงอย่างน้อย 5%
ธนาคารออมสิน ณ เวลานี้ จึงเป็นเหมือน ยานแม่ หรือ GSBx (จีเอสบีเอ็กซ์) หวังเจาะตลาดใหม่ที่ธนาคารไม่เคยทำมาก่อน เพื่อช่วยเหลือประชาชนในฝั่งที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย
ส่วนคนที่ยืนยิ้มกว้าง!! ไม่ฮุบชื่นชมธนาคารทั้งสองแห่งนี้ หนี้ไม่พ้น “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง
โดยนพวัชร์