ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 30-31 ส.ค.2565
มีสัญญาณบางอย่างที่บอกว่า บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจวางอนาคต เพื่อปูทางไปเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อจากน้องตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
เรื่องที่ 1,362 เพราะภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้ พลเอกประยุทธ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ปมประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ก็จะเห็นแอ๊คชั่น ของ พลเอกประวิตร ที่มีมากผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการออกงานต่างๆ หรือการให้ข่าวจากบรรดาทีมโฆษกรัฐบาล รวมถึงทีมประชาสัมพันธ์ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ออกมาประโคมข่าวประชาสัมพันธ์ผลงานของ พลเอกประวิตร กันยกใหญ่
ที่เป็นแบบนั้น ก็เพราะหาก พลเอกประยุทธ์ ถูกศาลสั่งให้พ้นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจริงๆ พลเอกประวิตร ก็มีโอกาสได้ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มตัว แม้จะไม่ใช่แคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมือง แต่ก็มีช่องทางการเป็นนายกฯคนนอก ภายใต้การสนับสนุนของ ส.ว.250 คน
จึงไม่แปลกที่เวลานี้ พลเอกประวิตร จะใช้โอกาสเพื่อสร้างความนิยมให้กับตนเอง เผื่อว่าอนาคตข้างหน้า บุญจะหล่นทับ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีกับเขาบ้าง
เรื่องที่ 1,363 ชะเง้อคอรอเก้อกันไปสำหรับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า อุตส่าห์ลุ้นว่าวันนี้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. จะเคาะมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าตามแนวที่ทางคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) โดยแบ่งการช่วยเหลือออกเป็น 2 กรณี ภายใต้งบประมาณ 8 พันล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย การช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยการให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย ตั้งแต่เดือนก.ย.– ธ.ค. 2565 (ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นค่า FT เดือน พ.ค.-ส.ค. จำนวน 23.38 สตางค์ต่อหน่วย และส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า FT เดือนก.ย.–ธ.ค.จำนวน 68.66 สตางค์ต่อหน่วย)
และการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน โดยการให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า FT เดือนก.ย.–ธ.ค. 2565 แบบขั้นบันได ในอัตรา 15 -75% โดยสัปดาห์นี้ก็จะถึงสิ้นเดือนส.ค.แล้ว เรากำลังจะย่างก้าวเข้าสู่เดือนก.ย.ที่ค่าเอฟทีปรับขึ้นตามมติของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานที่ทำให้พวกเราจะต้องจ่ายค่าไฟถึง 4.72 บาทต่อหน่วย แต่พวกท่านๆที่บริหารประเทศก็ยังดูใจเย็นกันได้อยู่ เอาเถอะถ้าให้พยายามมองในแง่ดีบิลที่พวกเราจะต้องจ่ายงวด ก.ย. ก็คือปลายเดือน พวกท่านๆเค้าก็น่าจะยังพอมีเวลาในการเคาะมาตรการช่วยเหลือออกมาได้ทันอยู่ ลุ้นกันต่อไปครับผม
เรื่องที่ 1,364 ยังต้องจับตาอย่างใกล้ต่อไปอีก 1 สัปดาห์ว่า วันอังคารที่ 6 ก.ย.นี้ จะมีเรื่องโยกย้ายและแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงการคลัง เข้า ครม.หรือไม่ เพราะสัปดาห์นี้ลุ้นกันแบบอึดอัด นัยว่าตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์จะมาจาก 2 รองปลัดกระทรวงการคลัง ที่โดดเด่นช่วงนี้ ไม่พ้น 2 หนุ่ม 2 มุม “พี่จำเริญ-จำเริญ โพธิยอด” ศุลการักษ์ รุ่น 20 และ “พี่ตุ้ย-ธีรัชย์ อัตนวานิช” แต่ยังมีหญิงแกร่งและเก่งอีกคนสามารถดันขึ้นอธิบดีกรมธนารักษ์ได้คือ “พี่หนุ่ย-ปานทิพย์ ศรีพิมล” จาก สคร. ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 4 สัปดาห์ ถึงจะสิ้นเดือนก.ย. หมู่เฮาจึงต้องเหนื่อยกันต่อไปครับ
ส่วนตำแหน่งที่ในปีนี้ ใครที่ติดตามและพิจารณาอย่างถ่องแท้ ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดคือ ตำแหน่งผู้ตรวจฯ ขึ้นรองปลัดกระทรวงการคลัง และรองอธิบดีและที่ปรึกษาฯ ระดับกรม ย้ายมานั่งที่ระดับ 10 ที่กระทรวงการคลัง น่าจะมันกว่าเยอะ โปรดทราบ เพราะรอบนี้ มีรองปลัดกระทรวงการคลังใหม่ 2 คนและผู้ตรวจราชการฯ ใหม่อีก 2 คน
ส่วนคนที่ผลักดันรองกับที่ปรึกษากรมขึ้นไปผู้ตรวจฯ ในกระทรวง หาใช่ปลัดกระทรวงการคลัง “ปลัดพี่ตู่” แต่เป็นเด็กๆ วัยเอ๊าะ ระดับ 8 ขึ้น 9 ส่งเสียงเชียร์ลูกพี่กันยกใหญ่ เพราะหมดรอบอธิบดีรุ่น 13-14-15 เมื่อไหร่ เด็กน้อยรุ่น 2516-2517-2518 จะได้ขยับกันเป็นทิวแถว
เรื่องที่ 1,365 ไม่ได้เงียบแต่ขออยู่นิ่งๆ วัน-สองวัน ล่าสุด “เต๋-วิทัย รัตนากร” อธส. (ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ออกมาตรการปรับลดเงินงวด “ผ่อนบ้านดี มีเฮ” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อเคหะเดิมที่มีประวัติการผ่อนชำระหนี้ดี โดยการปรับลดเงินงวดต่อเดือนให้น้อยลงจากเดือนละ 6,000-7,000 บาท เหลือผ่อนชำระเพียงล้านละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 1 ปี หรือ 12 เดือน แก่ผู้กู้ที่ไม่มีหนี้ค้างชำระ ไม่เคยทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และไม่อยู่ระหว่างเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ของธนาคาร หรือไม่เป็นผู้กู้สินเชื่อเคหะเพื่อซื้อที่ดินเพื่อเตรียมปลูกสร้างอาคาร เมื่อได้รับสิทธิ์แล้ว ให้ติดต่อธนาคารออมสินสาขาเจ้าของบัญชีสินเชื่อเคหะ เพื่อจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย. 2565
เรื่องที่ 1,366 คน ส.อ.ท. อย่าง “มนตรี มหาพฤกษ์พงศ์” ก็ทนไม่ได้ ออกมาร้องค่าไฟฟ้ามหาโหด เพราะจากผลสำรวจ FTI Poll จากผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่กังวลว่าการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงเกินไปในครั้งเดียว จะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม โดยภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะมีต้นทุนจากค่าไฟฟ้า คิดเป็น 10 – 30% จากต้นทุนการผลิตทั้งหมด การขึ้นค่าไฟฟ้าในงวดเดือนก.ย.–ธ.ค. 2565 ในอัตราที่สูงทันที จะทำให้ผู้ประกอบการต้องมีความจำเป็นจะต้องปรับราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 10% ภายในปลายปีนี้!!
โดยนพวัชร์