ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 5-6 ส.ค.2565
อีเว้นท์การเมืองสุดสัปดาห์นี้ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพื่อไทย-พลังประชารัฐ มีกิจกรรมด้วยกันทั้งคู่
เรื่องที่ 1,306 พรรคเพื่อไทย วันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค. กับกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ตอน ระดมพลคนเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด ลุยหาเสียงพื้นที่ จ.เชียงราย
มีชาวครอบครัวเพื่อไทย ตบเท้าขึ้นเวทีอย่างคับคั่ง ช่วงเช้าพบปะแฟนคลับ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS เชียงราย ก่อนที่ช่วงบ่าย จะมีกิจกรรมรับฟังปัญหาชาติพันธุ์ ที่ อำเภอพาน และพบกับเวทีปราศรัย ที่อำเภอแม่จัน
งานนี้นำโดย ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ มีงานวันเสาร์ที่ 6 ส.ค. นำโดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เปิดปราศรัยใหญ่ ณ บริเวณลานฝั่งตรงข้าม Chic Chic Market จ.หนองคาย ในเวลา 16.00 เป็นต้นไป โดยมีขุนพล พปชร.ร่วมคณะ เช่น สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม , สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ สมาชิกพรรคคนอื่นๆ อาทิ เช่น นายวิรัช รัตนเศรษฐ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ,นายเอกภาพ พลซื่อ ส.ส.ร้อยเอ็ด , พลเรือเอก พิเชฐ ตานะเศรษฐ คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี ฯลฯ
เรื่องที่ 1,307 อะไรกันครับเนี่ย ประชาชนจะได้รับรู้อัตราค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที (FT) งวดเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2565 กันเมื่อไหร่ เพราะนี่ก็ใกล้จะถึงรอบบิลของเดือน ก.ย. อยู่แล้ว แต่ ณ ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ยังไร้ข้อสรุปเกี่ยวกับค่าเอฟทีดังกล่าว เนื่องจากล่าสุด สำนักงาน กกพ. ประกาศเลื่อนงานแถลงข่าวหัวข้อ “ชี้แจงตอบข้อซักถามค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที (FT) รอบเดือนก.ย. – ธ.ค. 2565” ซึ่งมีกำหนดนี้ (5 ส.ค.) ออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยประกาศเลื่อนก่อนถึงเวลาที่กำหนดเพียง 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเลื่อนรอบที่ 2 ใน 1 สัปดาห์ จากเดิมที่ครั้งแรกจะแถลงประกาศค่าเอฟทีงวดดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 65
อย่างไรก็ดี จากการพยายามสืบสาวหาความจริงถึงเหตุผลของการเป็นโรคเลื่อนอีกครั้ง พบว่า เป็นเพราะ “นายกลุงตู่” สั่งเบรกจ้า บอกให้ไปทำมาตรการช่วยเหลือคนจนเพิ่มเติมก่อน โดยเป็นสาเหตุเดิมเหมือนกับเมื่อครั้งที่เลื่อนครั้งแรก ซึ่งโจทย์ที่รัฐบาลต้องการมี 2 แนวทางคือ 1.ต้องการให้ กกพ.พิจารณาต่ออายุมาตรการดูแลผู้ใช้ไฟที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือกลุ่มเปราะบางถึงสิ้นปี โดยผู้ใช้ไฟฟ้าดังกล่าวที่จ่ายค่าไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย (จ่ายเท่าอัตราเดิมของเดือนม.ค.-ส.ค. 2565) ซึ่งเดิมมาตรการที่ดำเนินอยู่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ แต่ครั้งนี้ไม่มีเม็ดเงินให้ กกพ.จึงไม่สามารถดำเนินการให้ได้
2.หากไม่สามารถดำเนินการได้เพราะไม่มีงบประมาณ ต้องการให้ กกพ.พิจารณาแนวทางพิจารณาสูตรคำนวณค่าไฟใหม่ ภายใต้เกณฑ์ใครใช้ไฟน้อยให้ค่าไฟอัตราต่ำ ใครใช้ไฟมากให้จ่ายค่าไฟในอัตตราสูงขึ้น แต่ กกพ.ยังไม่สามารถทำได้ทันที เพราะต้องใช้เวลาดำเนินการ หากจะปรับสูตร อาจต้องเปิดรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย และอาจต้องเสนอเข้าคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี นายกฯ เป็นประธาน จึงไม่สามารถปรับสูตรให้ได้ในทันที จะเอาอย่างไรก็เร่งดำเนินการกันเสียทีเถิดเจ้านาย ช่วยไปเคลียร์กันให้เข้าใจ ประชาชนเค้าลุ้นกันจนปัสสาวะเร็ดหมดแล้วครับผม
โดยนพวัชร์