ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.65

การเมืองสัปดาห์นี้ จับตาที่ประชุมร่วมรัฐสภา หารือสรุปสูตรการหาร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หลังจากชุลมุน วุ่นวายกันต่อเนื่องหลายสัปดาห์แล้ว

เรื่องที่ 1,291 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมรัฐสภา มีมติ 476:25 เสียง งดออกเสียง 20 เสียง ให้ถอนร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ของ กมธ. ออกไปก่อน หลังใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ถกเถียงถึงประเด็นปัญหาของการลงมติในมาตราที่ 23 ที่ส่งผลกระทบต่อมาตราที่เหลือ จนไม่สามารถพิจารณาต่อในมาตราอื่นได้
ทั้งนี้ มาตรา 23 กมธ.เสียงข้างมาก มีมติให้ใช้สูตรการหาร ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย 100 แต่เมื่อเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา กลับมีมติตาม กมธ.เสียงข้างน้อย ให้หาร 500 ดังนั้น ที่ประชุมรัฐสภา จึงให้ กมธ.ถอนร่างออกไปก่อน เพื่อนำกลับไปแก้ไขให้สอดคล้อง แล้วนำกลับมาเสนอในที่ประชุมรัฐสภาใหม่
ล่าสุด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษก กมธ. กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เปิดเผยว่า กมธ. กฎหมายลูกเดินหน้า หาร 500 ทำการบ้านเสร็จแล้ว พร้อมส่งรัฐสภา วันอังคารที่ 2 ส.ค. 2565 หากผ่านวาระที่สาม ก็ส่ง กกต.ขอความเห็นตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
แต่ หาก กกต.ตอบกลับมาว่า สูตรการหารด้วย 500 ขัดกับหลักการรัฐธรรมนูญ เรื่องวุ่นๆ ก็จะตามมาอีกหลายยกอย่างแน่นอน

เรื่องที่ 1,292 ไม่ได้เขียนถึงกระทรวงอุตสาหกรรมมานาน เดี๋ยวจะหาว่ากระทรวงนี้ไม่ได้ทำงาน วันนี้เลยถือโอกาสนำเสนอผลงานชิ้นล่าสุดของกระทรวงอุตฯมาให้ได้รับรู้รับทราบกันบ้าง โดยเป็นไอเดียแจ่มๆของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ.ที่เกิดความคิดไปจับมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. เพื่อจัดทำดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) รายภูมิภาค โดยจะใช้เป็นเครื่องชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ และติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์อุตสาหกรรมรายภูมิภาคในเชิงลึกเป็นประจำทุกเดือน
โดยในระยะแรกจะนำร่อง 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เพื่อกำหนดกรอบตัวอย่างโรงงานอุตสาหกรรมที่เหมาะสม และคัดเลือกวิธีการในการจัดทำดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรายภูมิภาคที่สอดคล้องกับการจัดทำดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในปัจจุบัน ได้เห็นการทำงานร่วมกันขององค์กรทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้มองไปถึงภาพของการวิเคราะห์เศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพได้ไม่ยาก เรียกว่าเป็นการร่วมมือที่เข้าตากรรมการเสียจริงหนนี้ ยังไงก็ขอให้ขยันสร้างผลงานออกมาบ่อยๆนะครับ จะได้มีเรื่องให้เขียนถึงกระทรวงอุตฯได้บ่อยๆขอรับ

เรื่องที่ 1,293 รู้แล้วยัง ใครเป็นเอ็มดีคนใหม่ของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) หลังจากคณะกรรมการสรรหาพิจารณาเสร็ขจเรียบร้อยแล้ว และเสนอเรื่องให้บอร์ดพิจารณาเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา “ภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม” จาก ผอ.โรงไพ่ กรมสรรพสามิต ชิงดำเข้าเป็นที่1 แซงหน้าผู้ท้าชิงหน่วยงานในสังกัดของคลังอีก 2 แห่งคือ องค์การสุราและสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือเนด้า ไปเพียงเล็กน้อย งานนี้ ถือว่า กระทรวงการคลังได้คนดีและฝีมือดี มาเจอกันเพื่อชิงชัยกันเป็นที่หนึ่ง สนุกๆ จริง แต่เอ็มดีคนเก่าชื่อไร จำไม่ได้ กรุณาช่วยถอยห่าง ยสท.ทีเถอะ!!

รู้แล้วหรือยัง เรื่องที่ 1,294 ใคนเป็นเอ็มดี “มีทีมีเงิน” บริษัทน้องใหม่ สายเลือดผสมระหว่างธนาคารออมสินกับกลุ่มพิทยะ ภายใต้เงาของกระทรวงการคลัง คำตอบที่ใช่คือ “พี่ท๊อป-อิสระ วงศ์รุ่ง” จากรองผู้อำนวยออมสิน ผงาดขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งหน่วยงานใหม่ที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ เดินหน้าแข่งกับนอนแบงก์ทุกรูปแบบตามนโยบายของ ผอส.เต๋ (วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และสร้างความยุติธรรมให้แก่ประชาชน หลังจากถูกนอนแบงก์ “รีดเลือด-รีดเนื้อ” มานานหลายปี งานนี้ ได้ยินว่า “บริษัทมีทีมีเงิน” พร้อมเปิดตัวในเดือนต.ค.นี้ เหลือเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น จึงต้องรีบเร่งดำเนินงานด้านต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อย โดยเฉพาะงานหลังบ้านทั้งเรื่องคน โครงสร้างการทำงาน รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องไม้ต้องครบ พร้อมรบทันที ถือเป็นเรื่องจริงที่น่าติดตามครับผม
โดย นพวัชร์