ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 18-19 ก.ค.2565
“กลุ่ม 16 นำโดย พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมของกลุ่มพรรคเล็กในสภาผู้แทนราษฎร ออกมาโหมโรงก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเตือน “บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย ให้พึงระวังศึกซักฟอกครั้งนี้ไว้ให้ดี”
เรื่องที่ 1,255 กลุ่มพรรคเล็กเห็นว่า พล.อ.อนุพงษ์ เหินห่างกับส.ส. มิหนำซ้ำยังติดต่อยาก จึงเกรงว่า จะสร้างความไม่พอใจให้กับนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการมุ่งเข้าหา เลยเตือนไว้ก่อน เพื่อการเตรียมตัว
ดังนั้น ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ คนที่น่าห่วงสุด จึงไม่ใช่ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หากแต่เป็น “พล.อ.อนุพงษ์” เพราะอยู่ในรายชื่อที่กลุ่มพรรคเล็กหมายมั่นเล่นงาน
เรื่องนี้ ต้องโยงไปถึง “ผู้กอง-ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะกลุ่ม 16 ล้วนอยู่ในความควบคุมของ “ร.อ.ธรรมนัส” และเก้าอี้ของ “พล.อ.อนุพงษ์” ก็เป็นเก้าอี้ที่ “ร.อ.ธรรมนัส” อยากได้มานานแล้ว
ด้วยเหตุนี้ศึกการอภิปรายครั้งสุดท้ายนี้ จึงจะเป็นการขย่มเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย หนักมากกว่ากระทรวงอื่นๆ
เรื่อง 1,256 ต้องขออนุญาติใช้คำว่า “โอละพ่อ” กันเลยทีเดียว เพราะถึงแม้ว่าจะรู้ตัวล่วงหน้าพอสมควรอยู่แล้วว่า ค่าไฟฟ้างวดเดือนก.ย.-ธ.ค. น่าจะถูกปรับขึ้นเป็น 5 บาทต่อหน่วยจากเดิมที่อยู่ที่ราคา 4 บาทต่อหน่วย เพราะต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และด้วยเหตุผลอีกหลายประการที่จะนำไปสู่การพิจารณาปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที (FT) ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แต่ก็ไม่นึก ไม่ฝันว่าหน่วยงานอย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยท่านผู้ว่าการ “พี่สิงห์ บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร” จะออกมาประกาศโต้งๆเลยว่า ปัจจุบันได้ช่วยแบกรับค่าไฟฟ้ากับประชาชนตามแนวทางบริหารค่าไฟฟ้าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่งวดเดือนก.ย. 2564 จนถึงปัจจุบันรวมแล้วเกือบ 100,000 ล้านบาท
“พี่สิงห์” บอกชัดเลยว่า แม้ กฟผ. จะพยายามแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องแล้ว 25,000 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอต่อการแบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงที่เกินกำลัง เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กฟผ. จึงมีความจำเป็นต้องแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นจริง วอนรัฐช่วยดูแลเพื่อไม่ให้กระทบต่อความความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว
คำพูดของท่านผู้ว่าการ กฟผ.ช่างไปสอดคล้องกับที่ก่อนหน้านี้ กกพ. ได้เคยออกมาระบุแล้วว่า ค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค. มีโอกาสปรับขึ้นเป็น 5 บาทต่อหน่วย เนื่องจากค่อนข้างหนักใจปริมาณก๊าซในอ่าวไทยยังขาดความชัดเจน ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ กฟผ.แบกรับแทนประชาชนอีกกว่า 80,000 ล้านบาทในงวดก่อนหน้า ขืนให้ กฟผ.แบกรับภาระต้นทุนต่อโดยไม่มีการทยอยคืนให้ผ่านการปรับเพิ่มค่าเอฟที ก็อาจทำให้ กฟผ. ติดลบสูงถึง 100,000 ล้านบาทภายในปี 65 คำพูดวันนั้นช่างเหมือนกับการขว้างบูมเมอร์แรงออกไปเสียเหลือเกิน เพราะยิ่งขว้างแรงเท่าไหร่ยิ่งสะท้อนกับมาเร็ว นี่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่เท่าไหร่ กฟผ.ขว้างกลับมาเร็วเหลือเกินครับผม ประชาชนอย่างเราๆ ได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมกันต่อไป
เรื่องที่ 1,257 ฟังแถลงข่าวของ “เต๋-วิทัย รัตนากร” ผู้อำนวยธนาคารออมสินแล้ว ชื่นใจเพราะผลดำเนินงานออกมาดีสมกับที่คุยเอาไว้ โดยปีนี้ ผ่านพ้นไปแล้วครึ่งปี กำไรสุทธิ 15,000 ล้านบาท (ตัวเลขกลมๆ) หากนับแบบต่อเนื่องไม่มีอุปสรรคใด ปีนี้ ตลอดทั้งปี ออมสินน่าจะมีกำไร 30,000 ล้านบาท ดีขึ้นจากปี63 ช่วงเกิดโควิด มีกำไร 24,000 ล้านบาท ปี64 กำไร 25,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเป็นรัฐวิสากิจในสังกัดกระทรวงการคลัง มีนำส่งรายได้สูงติด 1-4 วิ่งสลับไปมากับอันดับ 3 โดยอันดับ 1 ไม่ใช่ใครที่ไหน สำนักงานสลากฯ เจ้ามือหวยตัวจริง อันดับ2. บริษัท ปตท. อันดับ 3 และ4คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และธนาคารออมสิน ที่นำส่งรายได้ไปแล้ว 14,000 ล้านบาท
งานนี้ เจ้าตัว (เต๋) ขอคุย แบบไม่โม้ว่า ธุรกิจทางด้านการเงินแข่งขันสูงมาก ธนาคารออมสินต้องแข่งกับแบงก์เอกชน10-20แห่ง ยังสามารถทำกำไรได้ 15,000 ล้านบาท ขณะที่สลากฯ ผูกขาด ปตท.และ กฟผ. ก็…!! อย่างนี้ ไม่ชมน้องว่า อันดับ1 ดีเด่นประเภท 1 แล้วจะไปชมใคร
ปล.อย่าลืมจ่ายโบนัสเดือนที่ 5 ให้แก่พนักงานด้วยก็แล้วกัน
เรื่อง 1,258 สุดท้าย อือฮา!! กันหน่อย สลากดิจิทิล เปิดขายงวดนี้ วันที่ 17 ก.ค. ตรวจรางวัลวันที่ 1 ส.ค.จำนวน 7.1 ล้านฉบับ มากกว่างวดก่อนที่เอามาขาย 5 ล้านฉบับ ถึง 2 ล้านฉบับ ล่าสุดหมดแล้ว วันที่ 18 ก.ค. ณ 13:57:46 มีผู้ซื้อ 1,164,939 ราย ใช้เวลาไม่ถึง 2 วัน ทุบสถิติอีกแล้ว ส่วนใครจะถูกรางวัล ต้องรอลุ้นอีกหลายวันก่อนที่จะหวยออกนะครับ
โดยนพวัชร์