ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 7-8 ก.ค.2565

เป็นอันว่าที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ลงมติ เห็นชอบสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้หาร 500 หักล้างมติของคณะกรรมาธิการกฎหมายลูกที่เห็นควรให้หาร 100
เรื่องที่ 1,233 ก่อนการลงมติ 1 วัน มีการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลปิดห้องคุย ดีลลับเพื่อขอใช้สูตรหาร 500

ว่ากันด้วยสูตรหาร 500 นี้ เป็นแนวทางหนึ่งในการสกัดพรรคเพื่อไทย ไม่ให้แลนด์สไลด์ และเป็นการเพิ่มโอกาสสำหรับพรรคการเมืองขนาดเล็กและขนาดกลางได้มี ส.ส.เพิ่ม
สอดคล้องกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะไม่ใช่พรรคการเมืองใหญ่อีกต่อไป หากแต่จะเป็นพรรคการเมืองขนาดกลาง
สูตรหาร 500 จึง ได้ประโยชน์กันทุกพรรค ยกเว้นพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียวที่เสียประโยชน์ และต้องหาหนทางแก้เกมกันต่อไป

เรื่องที่ 1,234 ก่อนอื่นเลยคงต้องขอแสดงความดีใจให้ปับพี่น้องชาวไทยทุกท่าน สำหรับภาระค่าครองชีพที่ถูกปรับลดลงได้ประเภทหนึ่ง หลังจากที่เป็นประเด็นดราม่าตอบโต้กันไปมาอยู่นานสำหรับฝ่ายการเมือง และฝ่ายรัฐบาลผู้ดำเนินนโยบาย เมื่อล่าสุด บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และบมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) ประกาศปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์สูงสุดถึง 3 บาทต่อลิตร ส่วน E85 ลด 1.80 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาวันพรุ่งนี้ (8 ก.ค.) ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นดังต่อไปนี้ น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ลิตรละ 48.96 บาท ,แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 41.55 บาท ,แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 41.28 บาท ,แก๊สโซฮอล์ E20 ลิตรละ 40.44 บาท และแก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละ 35.14 บาท

ขาเม้าท์ที่ไม่ต้องวงในบอกว่าราคาที่ปรับลดลงเป็นเพราะรัฐยอมเฉือนค่าการตลาดออกไป 3 บาท หลังจากที่ทนกระแสกดดันไม่ไหว ทั้งจากฝั่งของพรรคกล้า และนางสาวรสนา โตสิตระกูล นักรณรงค์ด้านสุขภาพและสิทธิผู้บริโภคและอดีตสมาชิกวุฒิสภา ที่กระทุ้งผ่านการโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้โรงกลั่นน้ำมัน หยุดอมค่าการตลาด ซึ่งจะช่วยให้ลดราคาน้ำมันเบนซินได้อีกลิตรละ 1.50 บาท โดยค่าการตลาดน้ำมันเบนซินที่เหมาะสม กบง. กำหนดไว้ 1.85 บาท/ลิตร วันนี้ค่าการตลาดแก๊สโซฮอลล์95 ขึ้นมา 3.45 บาท/ลิตร เท่ากับโรงกลั่นอมไป 1.61 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอลล์ 91 ขึ้นไป 3.64 บาท/ลิตร อมไป 1.79 บาท/ลิตร
วันนี้กบง.ต้องบอกให้โรงกลั่นเลิกอมค่าการตลาดน้ำมันเบนซินของชาวบ้านได้แล้ว อมมา 3 วันแล้วควรลด 1.50บาท/ลิตร อย่าอ้างว่าค่าการตลาดเป็นกลไกตลาดเสรี กลไกตลาดเสรีต้องมีกติกา ต้องไม่ใช่เสรีของหมาจิ้งจอกในเล้าไก่ จึงเป็นที่มาของประโยชน์ที่ตกมาถึงประชาชนในที่สุด

อย่างไรก็ดี “กรณ์ จาติกวณิช” หัวหน้าพรรคกล้า ดูเหมือนว่าจะยังไม่ค่อยพอใจ เดินหน้าโพสต์เฟชบุ๊กเคลื่อนไหวต่อ โดยระบุว่า สามารถลดได้มากกว่านี้อีก 3 บาท เพราะถึงแม้ราคาต้นทุนน้ำมันลด แต่วันนี้มีการเพิ่มค่าการตลาด จาก 3 บาทกว่าเป็นเกือบ 6 บาทต่อลิตร ซึ่งสูงมากจนตกใจ ดังนั้นถ้าท่านมุ่งหาทางออก ลดค่าการกลั่น ลดค่าการตลาด ราคาน้ำมันจะลดได้อีก ผมจะช่วยจับตาต่อไป ถ้าการเคลื่อนไหวเพื่อประชาชน แม้จะประสงค์ไปด้วยการเมืองแล้วได้ผลดีมาถึงประชาชน ก็คงต้องขอติดตาม และหวังว่าภาครัฐจะทำอะไรได้เพิ่มอีก เพื่อช่วยเหลือประชาชนครับผม

เรื่องที่ 1,235 ฟังศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนมิ.ย.65 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 41.6 จากเดือนพ.ค.65 อยู่ที่ระดับ 40.2 ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 35.7 จาก 34.3 ในเดือนพ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 39.2 จาก 37.8 ในเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 49.8 จาก 48.5 ในเดือนพ.ค.
แสดงให้เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นดีขึ้นทุกรายการ โดยมีปัจจัยหนุนประกอบด้วย ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของทั้งโลกเพิ่มขึ้นเป็นรูปธรรม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย, กนง. ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 65 เป็น 3.3% จากเดิม 3.2%, การส่งออกในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 10.47% และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น
ขณะที่ปัจจัยลบ ประกอบด้วย ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคยังกังวลการระบาดของไวรัสโควิด-19 ปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าแพง ความกังวลเรื่องผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาจทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า และค่าเงินบาทอ่อนค่า

สิ่งที่กังวลในช่วงนี้ หนีไม่พ้นค่าเงินบาทอ่อนค่าลงทุกวัน เรื่องที่ 1,236 ล่าสุด ค่าเงินบาทอ่อนค่ายังอ่อนปวกเปียก วิ่งอยู่แถวบริเวณ 36.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง นับตั้งแต่ต้นปี 2559 ไม่รู้จะบอกใคร เพราะได้ยินมาว่า กระทรวงการคลัง โดย “คุณอา-อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง ได้เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ตั้งแต่ปลัดกระทรวงการคลังไปจนถึงอธิบดีทุกกรมให้ช่วยกางแผนรับมือเงินบาทอ่อนเอาไว้แต่เนิ่นๆ เพราะจะพึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย อาจไม่ทันการณ์ เวลามีปัญหาทีไรต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทุกครั้งไป

เรื่อง 1,237 ข่าวสุดท้ายสำหรับวันนี้ ดีใจกับเพื่อนๆ พี่น้องชาวธนาคารออมสินทุกคน รายงานด่วนเมื่อต้นเดือนก.ค.ได้รับข่าวดีจาก ผอส. (ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน) คนในเค้าเรียกกันแบบนี้ ส่วนคนนอก “ผอ.ออมสิน” ก็ไม่ผิดครับ!! “ท่านเต๋-วิทัย รัตนากร” ลงนามแจกเงินรางวัลประจำปี (โบนัส) เพิ่มอีก “ไม่มากไม่น้อย” แต่ดันยอดโบนัสทะลุ 4 เดือนแล้วครับ สมกับเป็นธนาคารเฉพาะกิจอันดับ 1 ของประเทศไทย จะให้ธนาคารแห่งอื่น แซงหน้าพี่น้องชาวออมสินที่ทำงานหนักตลอดทั้งปีไปได้อย่างไร แถม ผอส.ยังกันสำรองหนี้เพิ่มจาก 4,000 ล้านบาท เป็น 40,000 ล้านบาท เอาเป็นว่า ปีนี้ แม้โบนัสไม่มาก แต่สำรองเยอะขนาดนี้ เชื่อเถอะ “ออมสินเป็นธนาคารแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี”
โดยนพวัชร์