ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 28-29 มิ.ย.2565
งานสภาสัปดาห์นี้ จับตา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เตรียมตั้งกระทู้ถามสด ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ของแพง ค่าแรงถูก หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้ไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ไม่มีใครมาตอบ ส่งผลให้รองประธานสภา สุชาติ ตันเจริญ ต้องออกโรงจวก “บิ๊กตู่” ว่าไม่มีความรับผิดชอบ พร้อมแนะว่า อย่าสักแต่สั่งแบบทหาร คือสั่งแล้วก็ไม่ตามเรื่อง
เรื่องที่ 1,215 เอาเข้าจริงตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่เคยมาตอบกระทู้สภาเลยแม้แต่ครั้งเดียว โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าสภาเพียงปีละสองครั้ง ครั้งที่ 1 ในช่วงที่มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ครั้งที่ 2 ช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และครั้งที่ 3 คือช่วงที่มีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นอกนั้น พล.อ.ประยุทธ์ แทบไม่เคยจะเดินทางมาที่สภาเลย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ท้วงติงกรณีดังกล่าวว่านายกรัฐมนตรีในระบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา จะต้องให้ความสำคัญต่อรัฐสภา เพราะถือว่ามีความใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด การตอบกระทู้สภา ไม่ใช่การชิงไหวชิงพริบกันทางการเมือง แต่เป็นการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า รัฐบาลมีแนวคิดแนวทางในการขับเคลื่อน หรือแก้ไขปัญหาเรื่องต่างๆอย่างไร ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่สามารถอ้างได้ว่าไม่มีเวลา หรือติดงาน เพราะการตอบกระทู้ ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากไม่สามารถจัดสรรเวลาได้ จะบริหารประเทศได้อย่างไร
เรื่องที่ 1,216 แม้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กบน. จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 35 บาทต่อลิตร โดยให้เหตุว่าเป็นการช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้ประชาชนเป็นหลัก แต่ดูเหมือนว่าประชาชนอีกกลุ่มจะไม่ได้รับการบรรเทาเสียแล้วล่ะขอรับเจ้านาย ในเมื่อวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) ทั้งบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) แลบมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) ประกาศปรับขึ้นน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E85 ปรับขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร นอกจากนี้ บางจากยังได้ปรับขึ้นราคาไฮพรีเมียม ดีเซลS B7 ด้วยอีก 1.50 บาทต่อลิตร แต่ขึ้นดีเซลชนิดนี้คงไม่ใช่เพราะประเด็น เพราะคนที่ใช้เป็นผู้ที่มีอันจะกินกันทั้งนั้น
ส่วนคนที่เดือดร้อน และได้รับการเหลียวแลน้อยนิดเหลือเกินก็ยังคงเป็นกลุ่มคนเจ้าเก่าที่ใช้น้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์เป็นเชื้อเพลิง เวลานี้จะเติมน้ำมันทีหนึ่งมีเงิน 100 บาทยังได้ติดถังไปแค่ 2 ลิตร ไหนจะราคาข้าวผัดกะเพราที่ล่าสุดมีการปรับขึ้นราคาไปแล้วถึงจานละ 59 บาท เรียกว่าทั้งของที่ใช้อุปโภค และบริโภคต่างพาเรดกันขึ้นราคาไม่เกรงใจเงินในกระเป๋าที่ไม่เพิ่มขึ้นตาม และนี่ บก. ชวนคุยเองเพิ่งได้รับรายงานชนิดจริงแท้แน่นอนแล้วว่ากองทุนน้ำมันเชื้องเพลิงติดลบแล้วเกิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ขณะที่ค่าการกลั่นรัฐบาลเองก็ถกโรงกลั่นยังไม่ลงตัว แบบนี้แนวโน้มราคาน้ำมันดีเซลคงไม่แคล้วจะต้องปรับขึ้นในอีกไม่ช้า โถอนาถชีวิตคนไทยยุคนี้ซึ่งช่างมีสีสันมากมายสุดๆ ต้องมานั่งลุ้นกันทุกวันว่าสินค้าอะไรจะเพิ่มอีกบ้าง และลุ้นว่าเงินจะมีพอใช้ถึงสิ้นเดือนไหม เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ
โดยนพรัชร์