ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 24-25 มิ.ย.2565
“ประกาศแล้ว มีผลแล้ว ผ่อนคลายข้อจำกัดในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า โดยให้การสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าให้เป็นการปฏิบัติโดยความสมัครใจ”
เรื่องที่ 1,205 รัฐบาลยังได้ขอให้ประชาชนพิจารณาประโยชน์ตามข้อมูลที่ฝ่ายสาธารณสุขรายงานว่า การสวมหน้ากากอย่างถูกวิธีเป็นประโยชน์ด้านสุขอนามัยในการป้องกันการแพร่เชื้อและการรับเชื้อ ทั้งเชื้อโรคโควิดและโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นอกจากนี้ ศบค.มีข้อแนะนำให้ประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสถานที่หรือในพื้นที่แออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดีเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อ
ขณะที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้คำแนะนำ การถอดหน้ากากอนามัย โดยถอดหน้ากากเมื่อ ขณะอยู่คนเดียว , ออกกำลังกาย ,กินอาหาร ดื่มน้ำ ,อยู่บริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก ,อยู่นอกอาคาร ที่โล่งแจ้ง อยู่ในอาคาร เว้นระยะห่าง เป็นต้น
ส่วนผู้ที่ควรใส่หน้ากากตลอดเวลา เช่น กลุ่ม 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ , ผู้ที่มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ ที่ไม่ได้วัคซีนป้องกันโควิด 19ครบตามเกณฑ์ , ผู้ติดเชื้อ หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น , ผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการ หรือใกล้ชิดกับบุคคลอื่น เป็นต้น
เรื่องที่ 1,206 “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นกรรมการรองผู้จัดการใหญ่และเลขานุการ ธนาคารกรุงเทพ น่าจะเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ไม่น่าจะเข้ามาอยู่ในแวดวงการเมือง เพราะเสียดายในความเก่งกาจทางด้านเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเฉียบขาดและมองเกมได้ขาด โดยช่วงที่ผ่านมา “กอบศักดิ์” ออกมาเตือนถึงให้รับมือ มรสุมเศรษฐกิจลูกใหม่ ความท้าทายของเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือในรอบ 80 ปี โดยมีเนื้อหาที่ระบุถึงว่ามรสุมนี้จะเริ่มจาก 3 ทวีป ประกอบด้วย 1.ทวีปยุโรป สงครามรัสเซีย-ยูเครน 2.ทวีปอเมริกา จากความผิดพลาดของเฟด และ3.ทวีปเอเชียจากจีน ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นข้อมูลการวิเคราะห์ที่นำข้อเท็จจริงมาร้อยเรียงได้อย่างสมเหตุสมผล
หลังจากนั้น มาสวมหมวกเป็นประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และออกโรงคัดค้านการเก็บภาษีการขายหุ้นที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เรียกว่ามีทั้งลูกบู๊และบุ๋นในคนเดียวที่ บก.ชวนคุยต้องเกริ่นนำมาแบบนั้น ก็เพราะไม่รู้ว่าหากยังสวมหมวกมีตำแหน่งทางการเมืองอยู่เหมือนที่เคยสวมมา “กอบศักดิ์” จะได้ฉายแสงออกมาแบบนี้หรือไม่ เพราะช่วงเวลานั้น ก็เหมือนถูกลักพาตัวหายไป หรืออาจจะกลายไปเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังที่ไม่โดดเด่น เชื่อว่าตำแหน่ง และที่ยืนน่าจะมีส่วนสำคัญมากเลยนะครับผม เป็นไปได้ก็อยากให้ “กอบศักดิ์” อยู่ในวงนอกแบบนี้ เพื่อที่จะได้เห็นมุมมองทางด้านเศรษฐกิจที่หาตัวจับได้ยากต่อไป
เรื่องที่ 1,207 หลังจากแถลงข่าวการเพิ่มสลากดิจิทัลเป็น 20 ล้านฉบับ “อธิบดีบัด-ลวรณ แสงสนิท” อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานบอร์ดสลากฯ ลืมบอกประเด็นสำคัญให้นักข่าวทราบ พลันจะแถลงข่าวซ้ำอีก ก็เกรงใจพี่ๆ น้องๆ นักข่าว เพราะข่าวเพิ่มสลากดิจิทัลก็พอเดาได้ขึ้นหน้าหนึ่ง นพส.หัวสีทุกฉบับ ส่วนข่าวที่ลืมบอกไป แค่คุยกับนักข่าวสนิทวงเล็กๆเพียงแต่ขอย้ำว่า ขณะนี้ สั่งให้แอปฯ เป๋าตัง พัฒนาระบบสั่งการทำงานด้วย “เสียง” เพื่อช่วยเหลือคนพิการทางสายตาในการขายหรือซื้อสลากดิจิทัล รวมถึงตรวจผลรางวัลด้วย เพื่อให้แอปฯ เป๋าตังสามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกกลุ่มทั้งปกติและผู้พิการ ส่วนผู้พิการทางหู “อธิบดีบัด” บอกว่า ไม่มีปัญหาเพราะคนกลุ่มนี้ มองเห็นและอ่านออก ต่างจากผู้พิการทางสายตา
โดยนพวัชร์