ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 17-18 พ.ค.2565
เก็บตกการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ที่กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่เรื่องของประเทศไทย แต่เป็นเรื่องของเพื่อนบ้านอาเซียนอย่างอินโดนีเซียน
เรื่องที่ 1,104 โดยประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ใช้เวลาหลังเสร็จสิ้นภารกิจประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ที่กรุงวอชิงตันดีซี เดินทางไปพบกับ อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลาและสเปซเอ็กซ์ เพื่อหารือด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และโอกาสในการลงทุน
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดแจ้งผ่านทวิตเตอร์ว่า หลังจากการพูดคุยในสำนักงานของ ElonMusk เขาได้เชิญให้ผมตรวจสอบสถานที่ตั้งของโรงงานผลิตจรวด Space X ในเมืองโบคา ชิกา สหรัฐอเมริกา เรามองไปรอบๆ ใกล้โรงงานจรวด Space X เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง
“ผมยังเชิญ Elon Musk มาที่อินโดนีเซียด้วย” ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ระบุ
การพบกันครั้งนี้ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด อยู่ในอริยาบทที่สบายๆ เขาสวมเสื้อเชิตสีขาว เอาเสื้อออกนอกกางเกง และยังใส่รองเท้าวิ่ง โดยได้รับคำชื่นชมจากสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก
เรื่องที่ 1,105 ช่วงนี้เป็นช่วงพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือยังไงก็ไม่ทราบได้สำหรับกระทรวงพลังงาน หรือเมาราคาน้ำมันที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นจนต้องตามแก้ปัญหา หาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนแทบไม่มีวันพัก จนทำให้การทำงานสะเปะสะปะ เป๋ไปหมด ล่าสุดวันนี้ (17 พ.ค.) เอาอีกแล้ว ภาพทรงจำเดิมยังไม่ทันจางหาย ก็เทสื่อมวลชนอีกครับ หลังแจ้งแถลงข่าวการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานหรือ กบง. โดยมีท่านปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม “พี่กบ-กุลิศ สมบัติศิริ” เป็นนักแสดงนำ
แต่เมื่อถึงเวลาช่วงใกล้เที่ยงเริ่มมีกระแสบอกว่าจะยกเลิกงานแถลงข่าว กบง. ผู้สื่อข่าวถึงกับถอนหายใจกันด้วยความเซ็ง และบางส่วนเริ่มบอกว่ากลายเป็นความเคยชิน นี่หรือกระทรวงที่ดูแลความมั่นคงทางด้านพลังงานของชาติ แค่ทำตามประกาศจะยกเลิกไปยกเลิกมาหลายครา ขณะที่พรุ่งนี้ (18 พ.ค.) ก็มีการแจ้งว่าจะมีการแถลงข่าวการทบทวนราคาดีเซลประจำสัปดาห์ โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) คำถามที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่ได้นัดหมายของผู้สื่อข่าวก็คือ พวกเราจะถูกเทอีกไหม บก.ชวนคุยว่า ผู้บริหารระดับสูงน่าจะเข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน หรือลงมาชี้แจงด้วยตนเองว่าเป็นเพราะอะไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้สื่อข่าวที่เป็นสื่อกลางไปสู่ประชาชน และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรของท่านเองนะครับผม
เรื่องที่ 1,106 ต้องยกนิ้วชม “อู-ดนุชา พิชยนันท์” เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หาญกล้าปรับลดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ จากเดิมเดือนก.พ.คาดว่า จะเติบโต 4% ลดลงมาถึง 1% เหลือเพียง 3% พร้อมติง เตือน และเชิญชวนพี่น้องชาวไทย อย่าเพิ่งเดินทางไปต่างประเทศมากนัก หลังจากมีรายงานว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยไตรมาสแรก ปีนี้ 500,000 คน มากกว่าปีที่แล้วทั้งปี และยังคาดการต่อไปว่า ปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยประมาณ 7 ล้านคน แต่ “ไม่ยักบอก” ไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีคนไทยเดินทางไปต่างประเทศจำนวนเท่าไหร่ ก็ได้แต่หวังว่า จำนวนคนไทยที่เที่ยวต่างประเทศ น้อยกว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทยนะ
เรื่องที่ 1,107 ความผิดหวัง และไม่สมหวัง เกิดขึ้นทุกเมื่อ ไม่ใช่เรื่องความรักฝันหวาน หนุ่มสาวใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นมาตราการคลังละครึ่งเฟส5 หรือโครงการคนละเสี่ยวนั้น ล่าสุด ยังไม่มีการพิจารณาใดทั้งสิ้น หลังจากที่ กระทรวงการคลังลดภาษีน้ำมันดีเซลลงแล้ว 5 บาทต่อลิตร สูญรายได้ ประมาณ 20,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับรอบที่แล้ว ลดภาษีน้ำมันดีเซลลงไป 3 บาทต่อลิตร สูญรายได้ 1,700 ล้านบาท รวมไม่ถึง 50,000 ล้านบาท เมื่อลบกับผลจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล 6 เดือนแรกของปีนี้ (ต.ค.64-มี.ค.65) สูงกว่าประมาณการ 68,000 ล้านบาทนั้น หักกลบกันแล้ว สิ้นปีงบประมาณ 2565 คลังปิดหีบงบประมาณได้พอดี 3.1 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 700,000 ล้านบาท ตรงเป๊ะเลย!!
โดยนพวัชร์