ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 2-3 พ.ค.2565
ข่าวล่าสุดมาแรง ฝ่ายค้านนำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เดินเกมดีล ส.ส.ฝั่งรัฐบาลให้ช่วยกันโค่นล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือให้เร็วกว่านั้น ก็ในช่วงที่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2566
เรื่องที่ 1,060 เป้าหมายอยู่ที่กลุ่ม 16 ที่นำโดยนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำ และอีกเป้าหมายคือ พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค โดยตั้งเป้าจะดีล ส.ส.ฝั่งรัฐบาลให้ได้อย่างน้อย 30 คน เพื่อรวมเสียงฝ่ายค้านให้เหนือกว่าฝ่ายรัฐบาล อันจะเป็นสูตรในการโค่นล้ม พล.อ.ประยุทธ์ ได้อย่างเบ็ดเสร็จ
จับตาการเมืองสัปดาห์นี้ หมอชลน่าน และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มีนัดร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับกลุ่ม 16 และมีความพยายามดีลกับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ให้มาร่วมโต๊ะด้วย วาระสำคัญคือการประสานแนวร่วมเพื่อความไม่มั่นคงในเสถียรภาพของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขู่ถ้า ไม่แน่ พล.อ.ประยุทธ์ อาจอยู่ไม่ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดีไม่ดี อาจต้องลาออกเมื่อได้รับสัญญาณจะไปไม่รอด
เกมนี้จะสมคำคุยหรือไม่ ต้องรอดู อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เรื่องที่ 1,061 สงสัยควันหลงเรื่องการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเป็น 31.94 บาทต่อลิตร ล่าสุด จากการปรับขึ้นราคาขายปลีกของ บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกดีเซลทุกชนิด 2 บาทตามนโยบายของรัฐบาลยังคงไม่จางหายไปง่ายๆ ล่าสุด สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ถึงกับต้องตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงรายละเอียดภายใต้หัวเข้า “สร้างความเข้าใจการปรับราคาน้ำมันดีเซล” โดยมี “วิศักดิ์ วัฒนศัพท์” ผู้อำนวยการ สกนช. เป็นผู้แถลงในช่วงเวลาประมาณ 13.30 – 14.00 น.
บก.ชวนคุยว่าประชาชนเค้าน่าจะเข้าใจหมดแล้วนะขอรับว่าจะปรับขึ้นราคาแบบไหน อย่างไร เพราะสื่อทุกสำนักต่างก็กระพือข่าว อธิบายไปแล้วโดยละเอียดหมดทุกกระทวนความ แต่สิ่งที่ประชาชนเค้าอยากรู้มากกว่าน่าจะเป็นการบริหารงานยังไงให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้มากกว่า เพราะเวลานี้ข้าวของทุกอย่างต่างก็พาเหรดขึ้นราคากันหมดตามต้นทุนของราคาพลังงานที่พวกท่านๆบริหารอยู่ปรับตัวขึ้น จะมีใครไหมนะที่หาญกล้าอธิบายเรื่องนี้แบบตรงไปตรงมาครับผม
เรื่องที่ 1,062 วันที่ 3 พ.ค.นี้ จับตา ประเด็นใหญ่ กรมธนารักษ์ โดยอธิบดี “ประภาศ คงเอียด” จะลงนามในสัญญาโครงการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก กับผู้ชนะการประมูลคือ บริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด มูลค่า 25,000 ล้านบาท ตลอดสัญญาสัมปทาน 30 ปี สูงกว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งในสมัยนั้น ผู้ชนะการประมูลคือ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรือ อีสท์วอเตอร์ ในวงเงินเพียง 500 ล้านบาท ทำให้กรมธนารักษ์มั่นใจว่า ปีนี้ จะสามารถจัดเก็บรายได้และค่าธรรมเนียมได้ตามเป้าหมาย เพราะเพียงแค่โครงการเดียว ปีนี้ กรมธนารักษ์ก็มีรายได้จากผู้ชนะที่ต้องจ่ายเงินก้อนแรก ณ วันที่ลงนามในสัญญา 1,500 ล้านบาทแล้วครับ
ต่ออีกเรื่อง ไม่ใหญ่จริง คงคุยไม่ได้ เนื่องจาก “ประภาศ คงเอียด” นอกจากจะเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์แล้ว หมวกอีกใบยังนั่งประธานกรรมการธนาคารออมสิน ให้สัมภาษณ์หนักแน่น ยังไง ธนาคารออมสินต้องปล่อยกู้ให้แก่การบินไทยอย่างแน่นอน และงานนี้ ไม่ได้มาคนเดียว “พี่ภาศ” ธนาคารออมสินมาพร้อมพันธมิตร ร่วมกันปล่อยกู้ หรือ Sendiced Lone ส่วนจะมีแบงก์ไหนบ้าง และจำนวนเงินจะเป็นเท่าไหร่ ขอให้ฝ่ายบริหารดำเนินการ ส่วนบอร์ดไฟเขียวตั้งแต่ต้นทาง ไม่มีแดงอยู่แล้วครับงานนี้
โดยนพวัชร์