ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 12-13 เม.ย.2565
“บรรยากาศสงกรานต์ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ แบบไทยๆ ปีนี้ สนุกสนาน หัวเราะครื้นเครงกันพอสมควร หลังจากคนไทยไม่ได้เฉลิมฉลองสงกรานต์มานานกว่า 2 ปี เพราะการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด19 แม้ในเดือนเม.ย.นี้ เจ้าไวรัสจะยังไม่หยุดยั้งก็ตาม แต่สัญญาณที่รัฐบาลส่งถึงประชาชน บอกให้รู้ว่า จากนี้ไปคนไทยต้องอยู่คู่กับโควิด เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจไทยให้รอดพ้นจากหายนะนั่นเอง”
เรื่องที่ 1,004 การที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกโรงป้อง อุ้ม “แรมโบ้” หรือเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และประธานคณะอนุกรรมการแก้สลากเกินราคา ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ เอง
เพราะหากยังจำกันได้ ในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจเต็มตามมาตรา 44 สั่งข้าราชการท้องถิ่นหยุดปฏิบัติหน้าที่กันระนาว หลังได้รับเรื่องร้องเรียนทุจริต แม้จะยังไม่มีการตรวจสอบก็ตาม แต่กับกรณี “แรมโบ้” แม้จะยังไม่มีการตรวจสอบก็จริง แต่การปรากฎคลิปเสียงฉาว สนทนากับ “จุรีพร สินธุไพร” ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นั่นเท่ากับว่ามีมูลเหตุส่อเค้ากระทำความผิดแล้ว”
แต่ท่าทีของ “พล.อ.ประยุทธ์” กลับแสดงอาการปกป้องลูกน้อง โดยบอกว่าแรมโบ้มาเล่าให้ฟังแล้วว่าพูดเล่นกัน และเห็นว่าแรมโบ้มีความตั้งใจทำงาน จึงให้โอกาสทำงานต่อ
จึงจะไม่แปลกใจเลย ถ้าคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จะตก เพราะออกตัวป้อง “แรมโบ้” ในครั้งนี้
เรื่องที่ 1,005 เรียกว่างานดีจริงๆ สำหรับกระทรวงอุตสาหกรรมยุคนี้ทั้งขยันผลิตผลงานตามภารกิจ และจัดระเบียบการส่งข่าวประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชนกัน เพื่อความมีประสิทธิภาพในการสื่อสารต่อสาธารณะชน นอกจากนี้ ยังเทรนด์ตามกระแส เมื่อเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ทั้งทีก็ไม่พลาดที่จะออกการ์ดอวยพรให้กับพี่น้องสื่อมวลชนโดยท่าน รมว. อุตสาหกรรม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ซึ่งมีทั้งรูป และข้อความ “สงกรานต์วิถีใหม่ ร่วมสืบสานประเพณีไทย ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ” อีกทั้งนี้ยังมีของท่านปลัดกระทรวงฯ อย่าง “กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์” ตีคู่มาพร้อมกันด้วย ใส่ใจทุกรายละเอียดขนาดนี้ไม่รักก็คงไม่ได้แล้วครับผม
เรื่องที่ 1,006 สรุปว่า ใครถูกหรือผิด ระหว่างขุนคลัง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” กับ “ปลัดพี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ปลัดกระทรวงการคลัง กรณีเก็บหรือไม่เก็บภาษีจากการขายหุ้น เพราะก่อนหน้านี้ ปลัดพี่ตู่บอกว่า ไม่เก็บ เพราะอาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน ตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ล่าสุด ขุนคลัง ประกาศชัดดังก้องสองรูหู เก็บแน่นอน 0.1% จะให้กระทรวงการคลังมีรายได้เพิ่มไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท เมื่อได้ยินแล้วโปรดทราบโดยทั่วกัน
ส่วนปลัดพี่ตู่นั้น ไม่ได้มีเจตนาร้าย หรืองัดข้อกับ รมว.คลัง แต่อย่างใด เพียงแต่สัญญาณจาก รมว.คลัง ส่งมาช้ากว่าที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวเท่านั้นเอง จากนี้ไป นักข่าวคงหาตัวปลัดพี่ตู่ยากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ยากอยู่แล้วจะยิ่งลำบากมากขึ้น ส่วนโฆษกและทีมโฆษกกระทรวงการคลังนั้น สงสัยต้องแนะนำตัวต่อสาธารณะอีกครั้ง เพราะช่วงหลังนี้ จำชื่อไม่ค่อยได้ อ่านข่าวที่ไร ยังนึกว่า “อุ๋ย-ดร.กุลยา ตันติเตมิท” เป็นโฆษกคลังเหมือนเดิมทุกครั้งไป
เรื่อง 1,007 สรุปแล้วตอนนี้ ไม่มีใครตาย!! แต่มีคนขอสู้ตายเยอะมาก และมีบางคนขอเอาตำแหน่งเป็นประกัน หากไม่สามารถแก้ไขสลากเกินราคาได้ ล่าสุด “ท่านหนุน-พ.ท.หนุน ศันสนาคม” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ คนปัจจุบัน ประกาศขอสู้ตายแล้วหนึ่ง ขณะที่ “คุณพี่ชาญกฤช เดชวิทักษ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ขอประกาศสู้ตายเหมือนกัน เป็นคนที่สอง ตอนนี้ อยากรู้มากเลยว่า จะมีใครประกาศสู้ตายอีกหรือไม่ หรือจะยกบอร์ดสำนักงานสลากฯ มาทั้งคณะ “กรีดเลือดสาบานสู้ในศึกครั้งนี้” ก็เป็นไปได้ อย่างกะพริบตา!!
โดยนพวัชร์