ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 8-9 เม.ย.2565
“จริงๆแล้ว ถ้าไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องโดนด่าเละจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอย่างหนักในเวลานี้”
เรื่องที่ 994 เพราะทุกวันนี้ประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 2.5 หมื่นคนต่อวัน ส่วนกระบวนการรักษานั้น รัฐบาลได้ใช้มาตรการเจอ แจก จบ คือผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการรุนแรง ให้รับยาแล้วรักษาที่บ้าน รวมถึงเลือกรักษาตามสิทธิที่มีอยู่ของแต่ละคน ไม่มีเปิดโรงพยาบาลสนามเหมือนที่เคยทำมาก่อน
ตัวเลขแบบนี้ ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ ที่ไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. รัฐบาลจะต้องโดนถล่มอย่างหนัก โทษฐานที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการติดเชื้อมากมายขนาดนี้
โดยพบผู้ติดเชื้อสะสมย้อนหลัง 7 วันอยู่ที่อันดับ 9 ของโลก ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อมีการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ความสนใจของประชาชน และสื่อมวลชนจึงโฟกัสไปที่การเลือกตั้งเป็นหลัก เรื่องอื่นๆถือว่าเป็นรอง ทำให้รัฐบาลรอดตัวไปในเวลานี้
เปรียบได้ว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ช่วยยืดอายุรัฐบาลต่อไปอีก 3 เดือน ช่วยให้ประชาชนลืมหันมามองปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เช่น สถานการณ์โอวิด-19 ซึ่งจะส่งผลต่อคนไทยในระยะยาวอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว แม้แต่การศึกษา นั่นเป็นสิ่งที่คนไทยจะต้องเผชิญต่อไปอีกหลายปี
เรื่องที่ 995 ข่าวดีเรื่องราคาน้ำมันมาแล้วเมื่อ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ประกาศจะไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมันเป็นเวลา 10 วัน ระหว่างวันที่ 9-18 เม.ย.2565 ถึงแม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น โดย “จิราพร ขาวสวัสดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โออาร์ ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวเพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้บริโภคและอำนวยความสะดวกผู้เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และถ้าราคาน้ำมันลงก็จะปรับลงตามตลาดโลกด้วย
อย่างไรก็ดี แต่สิ่งที่ บก. ชวนคุยอยากให้จับตามากกว่าประเด็นเรื่องการตรึงราคาดังกล่าวก็คือ หลังเทศกาลสงกรานต์ไปแล้วราคาน้ำมันจะถูกปรับพุ่งขึ้นมาอีกกี่รอบ เพราะประสบการณ์จากช่วงปีใหม่ที่ผ่านมากับแคมเปญเดียวกันนี้ยังหลอกหลอนไม่หายจนถึงทุกวันนี้ โดยหากจำกันได้ตอนนั้นหลังหมดแคมเปญตรึงราคาน้ำมัน 11 วันช่วงปีใหม่ ราคาจำหน่ายน้ำมันในประเทศก็ถูกปรับขึ้นรัวๆ เลยจ้า
เรื่องที่ 996 โดยปกติแล้ว เดือนเม.ย.ของทุกๆ ปี กระทรวงการคลังจะไม่ค่อยมีข่าวโยกย้ายหรือเปลี่ยนแปลงสับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงบ่อยครั้งนัก แต่ปีนี้ แปลกกว่าทุกปี เนื่องจากอธิบดีกรมสรรพากรที่ชื่อ “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” ดำรงตำแหน่งอธิบดีครบ 4 ปี เดือนเม.ย.นี้ ถึงคราวที่กระทรวงการคลังจะต้องเสนอ ครม.ไฟเขียวให้ “อธิบดีเอก” อยู่ต่อเป็นปีที่ 5 หรือไม่ เพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบบังคับ ประเด็นนี้ ถ้าสอบถาม “เอก” ตรงๆ คงไม่มีคำตอบอย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้ เขาไม่พูดกัน
แต่ได้ยินมาจาก คนรอบข้าง “อธิบดีเอก” เต็ม 2 รูหูว่า “เอก” พร้อมทุกเมื่อ ถ้าถูกย้าย แต่คนที่ไม่พร้อมคือ “ข้าราชการกรมสรรพากร” ตอนนี้ มีแรงเชียร์เยอะ ขอบอกตรงๆ มีคนลือบอกว่า “รักอธิบดีคนนี้กันมาก” เพราะ 1.ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก 2.โปร่งใส 3.ตรงไป ตรงมา 4.ไม่รับผลประโยชน์ 5.มีความรู้และการศึกษาดี 6.เข้าใจโครงสร้างภาษี และที่สำคัญ 7.ข้าราชการเก่งๆ ได้รับมอบหมายงานตรงกับที่ตัวเองถนัด และ8.ข้อนี้ คือผลลัพธ์ ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรใน ช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ สูงกว่าประมาณการถึง 70,000 ล้านบาท ทั้งที่ยังไม่เก็บภาษีหุ้น และคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)
ส่วนคนที่เหมาะสมจะนั่งแทน “อธิบดีเอก” ก็มีคนดีๆ ให้เลือกเยอะนะครับ เช่น
“อธิบดีหม่อง-พชร อนันตศิลป์” อดีตอธิบดีหลายกรม ธนารักษ์และสรรพสามิต ล่าสุดได้ยินว่า จะขอนั่งพักที่ศุลกากรให้ครบ 2 หรือ 3 ปี แล้วค่อยว่ากัน ย้ายกลางเดือนเม.ย.แบบนี้ ไม่ค่อยถนัด “บัด-ลวรณ แสงสนิท” อดีตผอ.สศค. ปัจจุบันอธิบดีกรมสรรพสามิตได้ปีเดียว ตอนนี้ เพิ่งทำรถอีวีเสร็จ และกำลังแก้ปัญหาหวยแพงขอนั่งครบ 2 ปีก่อน แล้วค่อยคุยกัน เพราะชอบงานยากๆ ง่ายๆ ไม่ท้าทาย ไม่เอา
“ดร.อุ๋ย-กุลยา ตันติเตมิท” อดีตผอ.สศค. ปัจจุบันอธิบดีกรมบัญชีกลาง ยังมีภารกิจแก้ไขงานที่กรมบัญชีกลาง ให้ปลัดพี่ตู่ก่อนเกษียณอีกเยอะ “โป๊ะ-พรชัย ฐีระเวช” ผอ.สศค.เพิ่งขึ้นรับตำแหน่งสมใจนึกได้ไม่กี่เดือน ชอบอยู่ที่เย็นๆ ไม่ชอบที่ร้อนๆ คนสุดท้าย “แพต-แพตริเซีย มงคลวนิช” ผอ.สบน.ก็มีสิทธิ์ลุ้นอธิบดีกรมสรรพากรเหมือนกัน แต่ต้องไม่ลืมว่า “อธิบดีเอก” ก็มีของดีเหมือนกัน (เป็นอันจบ) ส่วน 2 คนสุดท้าย “ประภาศ คงเอียด” อธิบดีกรมธนารักษ์ เกษียณเดือนก.ย.นี้ ได้รับหมวกหลายใบหลังเกษียณมีใบการันตีเยอะ นั่งปรึกษาบริษัทเอกชน รับเงินเดือนละหลายแสนบาทก็พอใจแล้ว
คนสุดท้ายคือ “พี่หนุ่ย-ปานทิพย์ ศรีพิมล” ผอ.สคร.ยินดีไม่มีปัญหา ขอเกษียณที่นี่ ปี2566 เพราะดิฉันเกิดปลายปี 2505 ได้ทำงานอีก 1 ปี นะคะ!!
อ่านจบแล้ว บอกตรงๆ ถ้าฟ้าไม่ผ่าลงที่กรมสรรพากร อธิบดี (แถวแรก) ไม่น่ามีโยกย้ายสับเปลี่ยน รองปลัด (แถวที่2) น่าจะรอย้ายใหญ่เดือนก.ย. ส่วนผู้ตรวจถือว่า แถวที่ 3 ยังเงียบและเงียบสนิท!! ต่อไป
โดยนพวัชร์