ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 2-3 มี.ค.2565
“ความพยายามกระจายอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข อาจโดนขวางโดย ส.ว. ข่าววงในแจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิ การการสาธารณสุข วุฒิสภา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พิจารณากรณีการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)”
เรื่องที่ 865 กรรมาธิการ ส.ว.เห็นว่า การดำเนินการถ่ายโอนโดยไม่มีการเตรียมความพร้อม อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา 3 ประเด็น คือ 1.เช่น การถ่ายโอนได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านแล้วหรือไม่
2.ด้านการบริหารจัดการงบประมาณให้ รพ.สต. จะเบิกจากผ่านหน่วยงานใด เนื่องจากเดิมผู้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้บุคลากรในสังกัด รพ.สต. จะมาจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งคำนวณรวมค่าใช้จ่ายด้านการรักษารายหัวของประชาชนรวมอยู่ด้วย ทำให้ยังมีความซับซ้อนด้านการเบิกจ่าย
และ3.ด้านทรัพยากรบุคคลสังกัด รพ.สต. สำหรับ อบจ.ที่มีศักยภาพไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าหากเป็น อบจ. ขนาดเล็ก ยังไม่พบความชัดเจน ซึ่งหากโอนย้ายไปแล้วเกิดปัญหากับบุคลากรเกิดขึ้นจะแก้ไขอย่างไร
สุดท้าย ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ได้มีมติเห็นควรให้ดำเนินการจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการถ่ายโอน รพ.สต. โดยรวบรวมข้อมูลที่ได้รับจาการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง การจัดสัมมนา และการลงพื้นที่ศึกษาดูงาน เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนชะลอการถ่ายโอนโดยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันหารือและออกแบบระบบการให้บริการ โดยอาจให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปด้านสาธารณสุข ที่อยู่ระหว่างการปฏิรูปเขตสุขภาพนำร่องให้เกิดความเชื่อมโยงกันในลักษณะเครือข่ายบริการในแต่ละเขตสุขภาพ
เรื่อง 866 คงต้องยกให้เป็นเจ้าพ่อโปรเจคอีกคนสำหรับ “สุพันธุ์ มงคลสุธี” ผู้รั้งตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประ เทศไทย (ส.อ.ท.) และวันนี้ (2 มี.ค.) ก็ยังพ่วงตำแหน่งประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. อีก โดยวันนี้ประเด็นสำคัญที่ถกกันก็จะเกี่ยวเนื่องกับกัญหาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทย ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีไอเดียบรรเจิดในการเรียกร้องให้รัฐบาลใช้ดูแลเศรษฐกิจในประเทศอีก คราวนี้ท่านประธานสุพันธุ์ จัดเต็มแนะรัฐกู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาทเพื่อดูแลเศรษฐกิจในภาพรวม โอ้วแม่เจ้า!! จะให้ไปเอาเงินมาจากไหน และต้องเป็นหนี้กันไปอีกเท่าไหร่ครับเจ้านายถึงจะเพียงพอ แต่ที่พอจะสบายใจได้อยู่อย่างก็คือ ข้อเสนอจาก “คุณสุพันธุ์” ส่วนใหญ่มักไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล เพราะถ้าไล่ย้อนกลับไปดูก็มีทั้งขอให้เพิ่มเงินโครงการคนละครึ่งเป็นไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท และเพิ่มวงเงินช็อปดีมีคืนเป็น 100,000 บาท เห็นแล้วก็ไม่น่าแปลกใจเพราะแต่ละข้อเสนอมีแต่เรื่องใช้เงินล้วนๆเลยขอรับกระผม
เรื่อง 867 ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมก็ยังคงเดินหน้าสร้างผลงานออกมาให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็เป็นหน่วยงานในสังกัดอย่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศเทศไทย (กนอ.) ที่ “อาจารย์หน่อง วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าการ กนอ. ออกมายืนยันว่านักลงทุนญี่ปุ่นยังให้ความสนใจเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (EEC) จากผลการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยของหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ (JCCB) หลังจากที่ กนอ. ได้หารือกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เรียกว่าไทยยังคงเนื้อหอมสำหรับญี่ปุ่นเสมอครับผม
เรื่องที่ 868 มาติดตามเรื่องร้อนๆ ของโลกกัน ล่าสุด กลยุทธ์หาพันธมิตรร่วมของ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้ลงนามเอกสารเพื่อยื่นขอสมาชิกภาพของยูเครนใน EU ล่าสุดไม่ได้รับการตอบสนอง หลังจากนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เธอกล่าวระหว่างการประชุมรัฐสภายุโรปว่า ต้องยุติความขัดแย้งลงก่อนจึงจะมีการหารือถึงการสมัครเข้าร่วม EU ของยูเครน แม้ขณะนี้สหภาพยุโรปและยูเครน จะมีความใกล้ชิดกันมากกว่าเดิมก็ตาม อียู แจ้งว่า หากยูเครนต้องการสมัครเป็นสมาชิกของอียู
ทางด้านฝั่งของรัสเซีย ล่าสุดกระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า ขณะนี้กองกำลังทหารของรัสเซียสามารถยึดเมืองเคอร์ซอน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของยูเครนได้เป็นผลสำเร็จแล้ว โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (2มี.ค.) มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียได้กระ จายกำลังอยู่ตามถนนของเมือง และนายกเทศมนตรีเมืองเคอร์ซอนประกาศว่า สถานีรถไฟและท่าเรือถูกยึดไว้ได้แล้ว
ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) พุ่งขึ้นมากถึง 8 ดอลลาร์ แตะที่ 113.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2557 ก่อนปรับตัวลงสู่ 111.75 ดอลลาร์ ณ เวลา 15.04 น.ของวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย ส่วนราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐทะยานขึ้น 7.24 ดอลลาร์ หรือ 7% แตะที่ 110.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังก่อนหน้านี้พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2556 ขณะที่ ราคาทองคำบ้านเรา วันนี้ (2มี.ค.) เปลี่ยน แปลง 12 ครั้งปรับขึ้น 300 บาทต่อน้ำหนักทองคำ 1 บาท
เรื่องที่ 869 “สนั่น อังอุบลกุล” ประธานสภาหอการค้าไทย ประเมินว่า ถ้าหากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอาจขยับไปสู่ระดับ 120 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกบ้านเรา แพงขึ้น ราคาน้ำมันทุกๆ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับขึ้น จะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร หากราคาน้ำมันดิบขึ้นไปอยู่ที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จริง ราคาขายปลีกของไทยที่อาจต้องขึ้นไปอีก 6 บาท/ลิตรโดยเฉลี่ย
“สนั่น อังอุบลกุล” ย้ำว่า ราคาน้ำมันที่แพงขึ้น จะมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตภาพรวมของไทย ขณะเดียวกัน ผลของสงครามยังทำให้ข้าวสาลีที่เป็นวัตถุดิบการผลิตอาหารสัตว์เกิดภาวะขาดแคลน ซึ่งยูเครนและรัสเซียเป็นผู้ส่งออกหลัก
โดยนพวัชร์