ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 15-16 ก.พ.2565
“วันมาฆบูชา : ปีนี้ ตรงกับวันที่ 16 ก.พ. 2565วันสำคัญทางพุทธศาสนา เป็นวันที่พระภิกษุ 1,250 รูปมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย และยังเป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาติโมกข์เป็นครั้งแรกด้วย อย่าลืมเข้าวัดทำบุญด้วยนะครับ”
เรื่องที่ 809 วันนี้ ขอเริ่มต้นทางด้านเศรษฐกิจก่อน ไปเจาะลึกประเด็นการเมือง เนื่องจาก มติ.ครม. ลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถัน เกิน 0.005% โดยน้ำหนัก อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาทน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 0.005% โดยน้ำหนัก อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440
น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม ไม่เกิน 4% อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม เกิน 4% แต่ไม่เกิน 7% อัตราภาษีเดิม 5.990 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.200 บาท
น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมเกิน 7% แต่ไม่เกิน 9% อัตราภาษีเดิม 5.930 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.170 บาท ทั้งนี้ อัตราภาษีใหม่ จะมีผลตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 20 พ.ค.2565 จากนั้นตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.2565 จะกลับสู่อัตราภาษีเดิม
“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง กล่าวว่า อัตราภาษีใหม่จะทำให้น้ำมันดีเซลถูกลงลิตรละ 3 บาท ขณะที่รายได้ของกรมสรรพสามิตจะหายไป 17,100 ล้านบาท แต่ข้อดีคือ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
เรื่องที่ 810 สงสัยเครื่องยนต์ของ “พี่พงษ์-สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงานจะเริ่มติดแล้ว หลังจากออกงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อวาน (14 ก.พ.) ล่าสุดวันนี้ (15ก.พ.) ทำงานออกสื่อต่อเนื่องกับการเดินเครื่องหน่วยงานในสังกัดระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อร่วมกันลงทุนโครงการสร้างคลังจัดเก็บและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG Receiving Terminal แห่งที่ 2 หรือ LMPT2 โดยจะตั้งอยู่ที่ตำบลหนองแฟบ จังหวัดระยอง ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ระหว่างสองรัฐวิสาหกิจหลักของประเทศ โดยตั้งเป้าสูงหวังดันไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวในอาเซียนกันเลยทีเดียว นานๆ ฉายแสงแสดงศักยภาพทีก็ต้องเอาให้ปัง อลังการงานสร้างแบบนี้ละขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 811 ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมเครื่องยังฟิต และดูท่าจะไม่ดับง่ายๆแล้ว วันนี้ (15 ก.พ.) ถึงคิวของ “พี่เจี๊ยบ วรวรรณ ชิตอรุณ” รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมคนสวยออกโรงยกระดับพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและผ้าพื้นเมืองโดยสนับ สนุนให้สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรม สิ่งทอ หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอด้วยการออกแบบเชิงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมสู่อีสานแฟชั่น ซึ่้งเป็นโครงการระยะที่ 2 แล้ว โดยจะเน้นต่อยอดพัฒนาเทคนิคการผลิตผ้าไหมมัดหมี่ในรูปแบบใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มมากกว่า 50% สร้างลวดลายไม่ซ้ำในผืนผ้าในแบบมินิมอล สไตล์ (Minimal Style) หรือเรียกว่าแฟชั่นที่เน้นความธรรมดา เรียบง่าย ส่งออกสู่เวทีตลาดโลก งานนี่ก็ต้องบอกว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเลยขอรับกระผม
เรื่องที่ 812 ต้องชมเชยผลงานศุลกากรช่วงนี้ ทำคะแนนดีขึ้นมาก ล่าสุดจับกุมยาเสพติดเป็นโคเคนนำเข้าประเทศไทย 15.5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 46.5 ล้านบาท แม้ไม่ใช่ล็อตใหญ่ แต่จับได้เรื่อยๆ แบบกัดไม่ปล่อย ถือว่า ได้ใจกรรมการ โดย เฉพาะฝ่ายการเมืองซึ่งเป็นดำริของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ต้องการให้ไทยเป็นตัวกลางผ่านยาเสพติดข้ามประเทศ
วกเข้าประเด็นการเมือง ก่อนหยุดกลาง เรื่องที่ 813 สัปดาห์ที่แล้ว “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข นำ 6 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย บอยคอตการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยในการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว นำมาซึ่งความหวั่นวิตกว่า เสี่ยหนู อาจพาลูกพรรคภูมิใจไทย ทิ้งรัฐบาล “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”
นั่นเพราะลูกพรรคภูมิใจ ออกมาให้ข่าวว่า พร้อมเสมอกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ วันนี้พรุ่งนี้เลยก็ได้ ขอให้บอก แต่พรรคภูมิใจไทย ยืนยันในคำมั่น ไม่เอาด้วยกับการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว
มาสัปดาห์นี้ “อนุทิน” มาแบบใหม่ เอาใจเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อจนครบวาระ เพราะบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ว่า มี ส.ส.อย่างน้อย 260 คน สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ โดยไม่ต้องพึ่งพาเสียงของ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
แอคชั่นของเสี่ยหนู ในสัปดาห์นี้กับสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกว่า คนละเรื่องกันเลยทีเดียว เพราะสัปดาห์ที่แล้วยังแสดงแบบขึงขังพร้อมหักกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่มาวันนี้เล่นลูกเอาใจ พล.อ.ประยุทธ์
นี่คือความซับซ้อนของเกมการเมืองภูมิใจไทย สวัสดี!!
โดย นพวัชร์