ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 19-20 ม.ค.2565
“ประกาศศักดา ด้วยการเปิดตัวพรรคน้องใหม่ล่าสุด “สร้างอนาคตไทย” วันนี้ 19 ม.ค. ฤกษ์ดี เวลา 13.30 น. มีแต่กว้าหน้าที่ไม่คำว่า ถอยหลัง ก็คือ 2 ขุนพลผู้ก่อตั้งพลังประชารัฐ (พปชร.) และนี่ก็คือ 2 ขุนพล คนเดียวกันที่ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย คนที่หนึ่ง “อุตตม สาวนายน” อดีต รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคนที่สองชื่อ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีต รมว.พลังงาน อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ”
เรื่องที่ 717 “นพวัชร์” นั่งฟันตั้งแต่จนจบ ขอบอกเลยว่า วันนี้ ไม่ใช่เปิดตัวพรรคใหม่ เพราะไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นประเด็นข่าวใหม่ก่อนหน้านี้ แต่น่าจะเป็นวันเปิดเจตนารมณ์ในการก่อตั้งพรรค เพื่อเปิดตัวเองให้นักการเมืองทั้งฝั่งรัฐบาลและไม่ใช่รัฐบาล รับทราบว่า พรรคการเมืองที่ชื่อ “สร้างอนาคตไทย” ได้ปรากฎตัวอย่างเป็นทางการ ไม่เป็นอีแอบอีกต่อไป และก่อน ที่ “อุตตม” จะพูดทิ้งท้ายไว้ว่า “ไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง ไม่โกงและไม่ปล้นชาติ” ภารกิจที่สำคัญคือ ดูแลและฟื้นฟูเศรษฐกิจ!! ประเด็นนี้ น่าจะกระทบใครในรัฐบาลบ้าง ซ.ต.พ.(ซึ่งต้องพิสูจน์) กันต่อไป
เรื่องที่ 718 วันที่ 19 ม.ค.เปิดประชุมสภาวันแรกของปี 2565 หลังจากหวาดผวาโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน “ท่านประ ธานชวน หลีกภัย” สั่งปิดประชุมตั้งแต่ก่อนปีใหม่ เป็นต้นมา สำหรับการประชุมวันแรก ต้องนั่งลุ้นนาทีต่อนาที ว่าองค์ประชุมจะครบหรือไม่ เนื่องด้วยผู้แทนหลายคนติดโควิด-19 และหลายคนต้องกักตัว เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นต้นว่า พรรคประชาธิปัตย์ กักตัวเป็น 10 คน เพราะหลังจากลุ้นผลการเลือก ตั้งซ่อมเขต 1 สงขลา ปรากฎว่า “เดชอิศม์ ขาวทอง” ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคฯ ดูแลภาคใต้ ติดโควิด ทำเอาเพื่อนร่วมพรรคตั้งกักตัวไปตามๆกัน
เช้า 19 ม.ค. “เสี่ยตี๋-สาธิต ปิตุเตชะ” รมช.สาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางถึงอาคารรัฐสภาตั้งแต่เช้า เพื่อร่วมประชุมสภาเช่นกัน โดยเมื่อมาถึงก็เซอร์เวย์ จนพบร้านอาหาร เจ้าตัวจึงแวะเข้าไปนั่งรับประทาน และเมื่อกินจนอิ่มท้อง จึงทำการรีวิว โดยรัฐมนตรี “สาธิต” ถึงกับบอกว่า Unseen รัฐสภา พร้อมแนะเมนู “สุกี้แห้ง” ร้าน ครัวคุณอ้อย อยู่ตรงประตูทางเข้ารัฐสภา ราคาดีงาม 3 จาน พร้อมกาแฟ 160 บาท
เห็นไหมล่ะ ช่วงข้าวของแพงแบบนี้ ขนาดระดับรัฐมนตรี ยังต้องกินข้าวในราคาประหยัดเลย
เรื่องที่ 719 แม้ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม ยังไม่ออกโรงในช่วงนี้ แต่หน่วยงานในสังกัดก็ยังช่วยกู้หน้าทำงานปฏิบัติพันธะกิจให้ประชาชนได้เห็นผลงาน ล่าสุดกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) โดย “อธิบดีวันชัย พนมชัย” ได้เดินหน้าเร่งแก้ปัญหาการตรวจวัดกลิ่นรบกวนจากอุตสาหกรรม ผุดไอเดียเจ๋งเป้ง พัฒนาเครื่องตรวจวัดกลิ่นรบกวนในกลุ่มที่ไม่ใช้วิธีการตรวจวัดแบบคนดม ด้วยการใช้เทคโนโลยี E-nose จมูกอิเล็กทรอนิกส์ตรวจวัดระดับกลิ่นรบกวนด้วยเทคโนโลยีเคมีไฟฟ้า (electrochemistry) จำนวนเซ็นเซอร์หลายชนิดหลายประเภท มาตรวจวัดกลิ่นเลียนเทียบเคียงแบบการดมกลิ่นของมนุษย์ ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกับ SCGP หรือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) ,มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์และสถาบัน และเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เนื่องจากเห็นว่าในแต่ละปีจะมีข้อร้องเรียนเฉลี่ยถึง 300 ครั้ง เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ต้องขอปรบมือให้เสียงดังๆ ต่อท่านอธิบดี กรอ. ที่ไม่เพิกเฉยต่อปัญหาของประชาชนขอรับ
เรื่องที่ 720 ขึ้นอีกแล้ว แพงได้อีกอย่างสำหรับประเทศไทย เห็นทีจะเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพงโดยแท้ ประชาชนอย่างเราๆว่าเดือดร้อนกันแล้ว สำหรับกรณีที่ บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) พร้อมใจกันปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 0.50 สตางค์ต่อลิตร ส่วน E85 ปรับขึ้น 0.30 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่ดีเซลทุกชนิดขึ้น 10 สตางค์ แต่คนที่น่าจะเต้นอีกคนก็คงจะหนีไม้พ้น “พี่พงษ์-สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม เพราะคราวนี้เล่นปรับราคาน้ำมันดีเซลด้วย แม้จะขึ้นน้อยพอไม่ให้แตะเกิน 30 บาทต่อลิตร แต่ก็เหลือช่องว่างอีกเพียงแค่ 4 สตางค์เท่านั้นให้ได้หายใจ แบบนี้ท่านคงต้องเรียกประชุมทีมด่วนซะแล้ว!! เจ้านาย จะรับมือกันเยี่ยงไรดี เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก้เหลือไม่มาก ไอ้ที่จะกู้อีก 20,000 ล้านบาทมาช่วยเติมสภาพคล่องก็ยังไม่ได้ งานเข้าอย่างจังแล้ว “พี่พงษ์”
เรื่องที่ 721 เรื่องสุดท้ายล่าสุด “หม่อง-พชร อนันตศิลป์” อธิบดีกรมศุลกากร ได้รับมอบหมายงานสำคัญอีกตำแหน่งคือประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ หลังต้องพ้นจากตำแหน่งประธานธนาคารออมสิน เพราะนั่งอยู่จนครบวาระ 3 ปีกว่าเกือบๆ 4 ปี พร้อม “พี่เล็ก-บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์” หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง ก่อนไปเป็นกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ด้วย ส่วนตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารออมสินที่ว่างลง คาดว่า จะเข้าครม.อังคารหน้าคือ“พี่ภาศ-ประภาศ คงเอียด” อธิบดีกรมธนารักษ์ เพราะได้รับความไว้วางใจจาก ขุนคลัง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ให้นั่งตำ แหน่งใหญ่ก่อนเกษียณเดือนก.ย.นี้
ส่วนกระแสข่าวเบื้องลึก ยืนยันไม่มีอะไรก่อไผ่ เพราะตำแหน่งนี้ “พี่ภาศ” จองมา และนอนมาตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ครับน้องรัก!!
โดยนพวัชร์
