ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 21-22 ธ.ค. 2564
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/12/7-17.jpg)
“ไม่เอาการเมืองแล้วครับ หยุดแค่นี้ก็พอแล้วครับ ถ้าคนไม่เลือกจะอยู่ต่อได้ไง กลับไปเลี้ยงลูกดีกว่า พอแล้วครับ ผมก็จะ 55 (หัวเราะ) แล้ว และเราไม่ได้มีความมุ่งหมายไปสู่การเมืองใหญ่ เพราะมันเหนือความสามารถของเรา!! นั่นเป็นคำพูดของ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ตอบคำถามสื่อมวลชน หากไม่ได้รับการเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.วางอนาคตตัวเองไว้อย่างไร โดยชัชชาติ พูดอย่างชัดเจนว่า หากไม่ได้เป็นผู้ว่าฯเมืองหลวงคราวนี้ เห็นทีจะต้องวางมือทางการเมือง กลับบ้านเลี้ยงลูก
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/12/13690755361369075550l.jpg)
เรื่องที่ 627 ดังนั้น การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ สำหรับ “ชัชชาติ” แล้ว จึงจะเป็นการเดิมพันสูง ชี้ชะตาอนาคตทางการ เมืองของเขาเอง ว่าจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ “ชัชชาติ” ในวัย 55 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อ 9 ปีก่อน ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนจะสร้างชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จัก และเป็นผู้ที่พรรคเพื่อไทย เลือกให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในปี 2562 ถามว่า เหตุใดเขาจึงไม่กลับไปพรรคเพื่อไทย ถ้าหากชวดผู้ว่าฯ กทม.เพราะโอกาสในพรรคเพื่อไทยสำหรับเขานั้น ถือว่าเปิดกว้าง “ชัชชาติ” กล่าวว่า “ไม่คิดหรอกครับ อิสระก็อิสระ กลับไปกลับมา คนก็ไม่ไว้ใจเรา ถ้าได้ก็จะทำให้ดีที่สุด ถ้าไม่ได้ก็จะกลับไปดูลูกทำธุรกิจ เกษตรไม่แน่”
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/12/1592453788280-1024x683.jpeg)
เรื่องที่ 628 นอกจากเทคโนโลยีจะเข้ามาเป็นตัวเร่งให้เกิดการปฏิรูป หรือเปลี่ยนแปลง (Disruption) ทางธุรกิจให้ต้องขยับตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว เจ้าโควิด-19 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งชั้นดีให้ธุรกิจต้องเฟ้นหาช่องทางการทำธุรกิจใหม่ที่ฉีกออกไปจากรูปแบบเดิมๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคสร้างรายได้ ล่าสุดองค์กรยักษ์ใหญ่ที่ขยับตัวอีกแห่งคือ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป โดยหัวเรือใหญ่อย่าง “เทพรัตน์ เทพพิทักษ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ระบุว่า เพื่อเป็นการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีบล็อกเชนและแพลตฟอร์มซื้อขายพลังงาน รองรับการเข้าสู่ยุคกระจายศูนย์ของธุรกิจพลังงาน พร้อมสร้างระบบนิเวศของธุรกิจพลังงานไฟฟ้าอย่างครบวงจร ยักษ์ใหญ่ยังขยับแล้วยักษ์เล็กล่ะอย่ามัวแต่คิดจะช้าจนไม่ทันการณ์
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/12/DJI_0195_retouch-resize.jpg)
เรื่อง 629 เพิ่งมีข่าวปิด “มหากาพย์” การเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณกันไปนานสำหรับบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.กับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด (เชฟรอนประเทศไทย) วันนี้ (21ธ.ค.)ทางเชฟรอนได้เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ในการส่งมอบแหล่งเอราวัณให้กับ ปตท.สผ. เข้าไปดำเนินการต่อ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเม.ย.64 เรียกว่า บทเร็วก็เร็วอย่างเหลือเชื่อ ต่างกับช่วงยื้อยุดฉุดกระชากกันที่กินเวลาไปมากกว่า 2 ปี
เรื่องที่ 630 ส่วนนี่ก็คิดเร็วทำเร็วสำหรับ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (อินโนบิก) บริษัทย่อยของ ปตท. ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเพื่อมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ Life Science (ชีววิทยาศาสตร์) ล่าสุดร่วมมือกับบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภาย ใต้ชื่อบริษัท แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศไทย : Plant & Bean (Thailand) ผลิตสินค้าโปรตีนจากพืชให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการด้านอาหาร โดยนำเทคโนโลยีการผลิตโปรตีนจากพืชชั้นสูงจากอังกฤษมาตั้งไว้ที่ไทยเลย ต้องบอกว่าเจาะธุรกิจได้ทันสมัยจริงๆ เพราะเวลานี้ใครๆเค้าก็หันมารักสุขภาพกันหมดแล้ว
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/12/562000012717101.jpg)
เรื่องที่ 631 เรื่องของขวัญปีใหม่ เข้า ครม.วันนี้ (21 ธ.ค.) เยอะจนล้น ล้นทะลักและล้นอีก นับเล่น น่าจะมีเกิน 100 มาตรา การ นับเป็นปีแห่งความสุขของ “บิ๊กตู่” จริงๆ เพราะทุกมาตราการที่ออกมาล้วนแต่เบาหวิว มีน้ำหนักทางเศรษฐกิจเพียง 0.7% ของจีดีพีเท่านั้น ขณะที่ รัฐบาลต้องใส่เงิน หรือสูญเสียได้ จากมาตรการต่างๆ เหล่านี้ ไปถึง 42,000 ล้านบาท ฟันดูแลไม่น่าแปลกใจ เพราะ “อาคม เติมพิทยาไพสิษฐ์” รมว.คลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยผ่านพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว ในปีหน้า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ทำให้ความจำเป็นการให้ในฟื้นฟูเศรษฐกิจจึงมีความแตกต่างกัน เริ่มจากปีที่แล้ว และปีนี้ คือ บรรเทาทุกข์และเยี่ยวยา
ขณะที่ปีหน้าคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้จะมีไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ ชื่อ “โอไมครอน” เข้ามาถึงเมืองไทยแล้วก็ตาม แต่คลังยังมีความมั่นใจว่า การแพร่ระบาดไม่รุนแรง และรัฐบาลโดย สธ.สามารถควบคุมได้ จีดีพีที่ถูกปั่นขึ้นไปจึงมีน้ำหนักเพียง 0.7% ไม่ได้แรงอย่างที่คิด ถือว่างานนี้ไม่มีหมัดน็อก ได้แค่ออกหมัดแย็บแล้วถอยฉาก อย่างนี้เรียกว่า “มวยเชิง” หรือ “มวยหลบ” ต้องติดตามกันต่อไปว่า ขึ้นปีใหม่2565 แล้ว เศรษฐกิจไทยจะพุ่งทะยานจากปีนี้ ขยายตัว 1% ขึ้นเป็น 4% ได้ตามความหวังใจที่ตั้งใจหรือไม่
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2021/12/88l.jpg)
เรื่องที่ 631 ส่วนประเด็นเก็บภาษีหุ้น 0.1% ที่เป็นกระแสข่าวใหญ่โตในเวลานี้ ในที่สุด “อาคม” ก็เฉลย เพราะตนเป็นสั่งให้กรมสรรพากรศึกษาความเป็นไปได้ในการเก็บภาษีใหม่ เพื่อนำรายได้มาเพิ่มงบประมาณให้แก่รัฐ ซึ่งปัจจุบันในต่างประ เทศ มีการจัดเก็บภาษีจากตลาดทุน 3 รูปแบบ คือ 1. Financial Transaction Tax หรือเก็บภาษีจากการซื้อหรือขายหุ้นทุกรายการ 2.Capital gains tax หรือเก็บภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ และ3.อาการสแตมป์ หากผลการศึกษาออกมาสำเร็จกระทรวงการคลังจะเสนอให้รัฐบาลออกเป็นพระราชกฤษฎีกา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันที ส่วนจะนำมาใช้เมื่อไหร่ ตอนนี้ ขออุบไต๋เอาไว้ก่อน
สำหรับเก็บภาษีซื้อขายหุ้น Financial Transaction Tax ถูกยกเว้นมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี 2535 หลังจากประเทศไทยเปลี่ยนระบบการเก็บภาษี จากภาษีการค้ามาเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อขาย หรือซื้อหุ้น แล้ว ไม่ต้องเสียภาษีทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมในระบบภาษีเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ที่เสียภาษีอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เช่น บ้านและรถยนต์ ทั้งที่ตลาดทุนเป็นกลุ่มผู้ที่มีขีดความสามารถในการออม หรือจัดอยู่เป็นกลุ่มที่มีรายได้สูง ก็ควรเสียภาษีเหมือนกัน.
โดยนพวัชร์