ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 13-14 ก.ย.2564
“สัญญากันก่อนนะ จากนี้ไป ต้องมาเป็นแฟนตัวยงของ www.aec10 news.com หรือ สำนักข่าวเออีซี 10 นิวส์ เพราะเรื่องที่หลายคนยากรู้ และติดตามมากที่สุด ไม่ใช่ประเด็นการเมือง ไม่ใช่ข่าวสังคม หรือพิษภัยโควิด แต่ตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ยอดคนอ่านเว็บพุ่งทะลุแล้ว ทะลุอีก มาจากเรื่องโยกย้ายข้าราชการกระทรวงการคลัง ดังนั้น วันนี้ที่ทุกคนรอคอยคาดว่า จะมาถึงแล้ว ย้ำนะครับ “คาดว่า” แต่ข้อสรุปเป็นอย่างไร ยังไม่ขอบอกว่า “ใคร” จะขึ้นเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์ แต่ขอให้อ่านไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ และช่วยแชร์ออกไปยังเพื่อนๆ ข้าราชการที่อยู่ห่างไกล ทุกๆ วัน ถ้าไม่ได้จริงๆ ขอสม่ำเสมอก็ได้ เพื่อนๆ จะได้รับรู้ข้อมูลสารที่ถูกต้องจากเว็บดีๆ อย่างพวกเรา”
เรื่องที่ 224 “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผานมา นับเป็นไม่กี่ครั้งที่ นายกรัฐมนตรี ลุยงานในวันหยุด เพราะส่วนใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลาวันหยุดอยู่บ้านไม่ออกไปไหน ประเด็นนี้ ก็เป็นไปได้ที่ “บิ๊กตู่” ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองหลังพ้นศึกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดั่งที่บอกกับแกนนำรัฐบาลว่า จะพยายามพบปะประชาชนและผู้แทนของประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ก็ได้พบกับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐหลายคน ไม่ว่าจะเป็น กรุงศรีวิไล สุทินเผือก และกลุ่ม “อัศวเหม” ซึ่งครองพื้นที่นี้มายาวนาน
ในระหว่างการพบปะประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ทันได้ระวัง เผลอพลั้งปาก ไปบอกกับหญิงท่านหนึ่ง ว่า “ให้ลดความอ้วนด้วย” เพราะน้ำหนักตัวมากแล้ว เล่นเอง โซเชียลมีเดียวิพากวิจารณ์ยกใหญ่ ว่า “นายกฯ ไม่ควรที่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของประชาชน”
นอกจากนี้ ในการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเห็นความไม่พอใจของประชาชนที่แสดงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างชัดเจน โดยระหว่างเดินทักทายประชาชน ชายท่านหนึ่งนั่งไขว่ห้างต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินไปพูดคุยด้วยก็ไม่ยอมเอาเท้าลง จนที่สุดแล้วไม่ทราบว่ามีการพูดคุยอะไรกัน ชายคนดังกล่าว จึงยอมเอาเท้าลง
และนั่นก็เป็นการแสดงออกอีกอย่างหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่นัก เพราะนานๆครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จะลงพื้นที่พบปะประชาชนจริงๆเสียที
เรื่องที่ 225 สัปดาห์นี้ คงต้องจับตาโผโยกย้ายกระทรวงพลังงาน…หลังจาก ปลัดกระทรวงพลังงาน “พี่กบ” “กุลิศ สมบัติศิริ” นั่งส่องมองลอดแว่น อยู่หลายรอบ ก็ได้ข้อสรุปเรียบร้อย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ก็โอเคกับการปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่ง ผู้บริหารระดับสูง กระทรวงพลังงาน เพื่อความเหมาะสมในครั้งนี้ โดยจะนำเสนอ ครม.ขออนุมัติในวันอังคารนี้
โดยขยับ “ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ” อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ขึ้นเป็นรองปลัดกระ ทรวงพลังงาน และย้าย “นันธิกา ทังสุพานิช” อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน มานั่งอธิบดี พพ. เพื่อให้เข้ามาจัดทำแผนพัฒนาพลังงานทดแทน หรือ แผน AEDP ให้เป็นไปตามแผนพลังงานแห่งชาติที่เน้นลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมกับจัดทำหลักเกณฑ์อัตราค่าไฟฟ้าโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชน และแต่งตั้งรองปลัดกระทรวงพลังงาน “สมบูรณ์ หน่อแก้ว” ไปนั่ง อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ซึ่งก็เป็นสายถนัด เพราะ “สมบูรณ์ หน่อแก้ว” เติบโตมาจากกรมฯนี้ กระทั้งได้นั่งในตำแหน่ง รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ก่อนจะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงพลังงานในปัจจุบัน
ส่วน ผู้บริหารระดับสูง กระทรวงพลังงาน ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ มี 3 คน คือ นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน นายภูมี ศรีสุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงานและน.ส.ลักขณา สุมาบัติ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน คาดว่าข้าราชการจะเลี้ยงส่งเงียบๆ แบบ New Normal เพราะโควิด “ภูมี ศรีสุวรรณ” และ “ลักขณา สุมาบัติ” บอกขอพักผ่อนก่อนช่วงนี้ ส่วน “ประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ” ขอไปต่อ ด้วยการเข้าร่วมชิง บอร์ด กกพ.
ขออีกนิดหนึ่ง!! เรื่องที่ 226 ควันหลง หลังจากนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสมุทรปราการ ที่นอกจากจะไปตรวจ ความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ณ สะพานน้ำยกระดับ สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ แล้ว ยังไปตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ อ.บางพลี และแวะ ตรวจงาน กนอ.ต่อ สนับสนุนให้ขยายคลองรอบนิคมอุตสาหกรรมบางปู เพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วขึ้น และยังกำชับหน่วยงานช่วยกันดูแลอย่าให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา
ฮ๊อตของจริงๆ สำหรับโครงการ “บ้านล้านหลัง” เฟส 2 เรื่องที่ 227 หลังจาก “ครม.ลุงตู่” ไฟเขียวให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เดินหน้าภายใต้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท ปรากฏว่ามีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ นับแต่วันที่ 10 ก.ย.จนถึงช่วงสายๆ ของวันที่ 13 ก.ย.64 มีมากเกือบ 35,000 ราย นับเฉพาะวงเงินที่ยื่นขอกู้ในโครงการฯก็ทะยานทะลุ 40,000 ล้านบาทไปแล้ว หมายความว่า แค่เปิดให้แสดงความจำนง ก็เกินวงเงินไปแล้วเท่าตัว แต่ยังเหลือเวลาให้ยื่นอีกกว่า 3 เดือนครึ่ง เพราะกว่าจะปิดรับยอดจอง โน่นเลยครับ วันที่ 30 ธ.ค.2564 ดูทรงแล้ว มีแนวโน้มที่ ธอส. ยุคของ “ฉัตรชัย ศิริไล” ที่ขนทีมผู้บริหารฯ มาให้การต้อนรับคลื่นมหาชนที่แห่มายื่นเอกสารขอกู้อย่างเป็นทางการ ณ สำ นักงานใหญ่ พระรามเก้า รวมถึงสาขาอื่นๆ ทั่วไทย อาจต้องปิดรับจองก่อนกำหนดชัวร์ ส่วน ธอส. ที่ได้ประธานบอร์ดคนมีฝีมือและมากคอนเน็กชั่น อย่าง “ยุทธนา หยิมการุณ” จะชงเรื่องให้ กระทรวงการคลัง ส่งต่อครม. ไฟเขียวผุดเฟส 3 หรือ ไม่ ต้องลุ้น! ก็ถ้าหากความต้องการของคนไทยที่อยากจะมีบ้านเป็นของตนเองสูงมากมายขนาดนี้ ปล่อยรวดเดียวให้ครบ 1 ล้านหลังไปเลยครับ
อีกแบงก์รัฐที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน เรื่องที่ 228 ล่าสุด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายใต้การนำของ “ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์” หรือ “พี่หมู” เป็นเพื่อนกับทุกๆ คน ได้ฤกษ์จับสลากแจกรางวัลจากสลากออมทรัพย์ทวีโชคให้กับลูกค้าผู้โชค ดีทั่วไทย รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ต้องเลื่อนกันแล้วเลื่อนกันอีก เพราะเหตุจากพิษโควิด ระบาดรุนแรง คิดเล่นๆ ธ.ก.ส.จ่ายดอกเบี้ยแค่ 0.150 % มีลูกค้าซื้อสลากฯ ประเภทนี้ มากถึง 19.29 ล้านบัญชี คิดเป็นเงินกว่า 481,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 15 ส.ต.ต่อปี ถือว่าถูกมาก แต่ที่ประชาชนพากันซื้อ เพราะหวังจะลุ้นรางวัลข้างต้น ที่มีทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ และทองคำ ทำให้ต้นทุนในการระดมเงินของ ธ.ก.ส.ต่ำมากๆ กลายเป็นว่า ราง วัลที่จะจับสลากแจก สูงกว่าดอกเบี้ยจ่ายหลายเท่าตัว นับความเป็นความชาญฉลาดของคนคิดโครงการอย่างนี้ ไม่เพียงสร้างแรงดึงดูดใจให้กับประชาชนได้ออมเงินผ่านสลากออมทรัพย์ฯ แต่ยังหาช่องว่างกฎหมายจนถึงที่สุดแล้ว กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยอมให้มีการจัดแคมเปญลุ้นโชค! พ่วงไปกับการขยายสลากออมทรัพย์ นับถือ..นับถือ
เรื่องที่ 229 ไหนๆ จะพูดถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในสังกัด กระทรวงการคลังแล้ว ขออีกข่าวแล้วกัน งานนี้…เป็นข่าวดีของ ข้าราชการไทยใกล้ “พ้นพงหนาม” เหตุเพราะเกษียณ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ล่าสุด เลขาฯ กบข. “ศรีกัญญา ยาทิพย์” หรือ “พี่แป๊ด” ขอน้องๆ นักข่าว ประกาศเชิญชวนให้บรรดาสมาชิก กบข. รีบยื่นเรื่องขอรับเงินเกษียณคืนล่วงหน้าได้แล้ว จะใช้ช่องทางผ่าน ระบบ e-Filing หรือจะเลือกแจ้งความประสงค์ผ่านหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมกรอกแบบ กบข. รง 008/1/2555 ก็ได้ เท่าที่สำรวจ ตัวเลข ข้าราชการที่เกษียณอายุฯ และเป็นสมาชิก กบข.ปีนี้ มีสูงถึงกว่า 23,000 ราย แต่จำนวนมากขนาดนี้ กบข.เองก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะปีนี้…เตรียมพร้อมมากกว่าปีก่อนๆ ถึงขนาดรับปากผ่านสื่อกันไปแล้วว่า หากยื่นเรื่องเร็วและไม่มีเอกสารผิดพลาดขาดหายอะไรแล้ว ภายใน 7 วันหลังจากตรวจเอกสารเรียบร้อย กบข.จะรีบโอนเงินให้สมาชิกภายใน 7 วัน แต่อย่าลืม ส่งหน้าบัญชีสำหรับโอนเงินไปด้วย มากกว่านั้น สมาชิก กบข.ท่านใด ยังไม่มี “จุดหมาย” การลงทุน หรือไม่อยากกินดอกเบี้ยแบงก์ที่ต่ำโคตรๆ แล้วก็ไม่อยากเสี่ยงลงทุน เพราะเกรงจะสูญเงิน กบข. ก็ชวนให้ลงทุนด้วยกันต่อเลย สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1179 หรือเปิดดูเว็บไซต์ กบข. หรือจะเลือกช่องทางอื่นๆ ก็มีให้เลือกมากมาย
เรื่องสุดท้าย หมายเลขดี 230 “ประภาศ คงเอียด” อธิบดีกรมบัญชีกลาง ขอย้ายไปนั่งทำงานที่ “กรมธนารักษ์” แทน “พี่หยิม” ยุทธนา หยิมการุณ ที่เกษียณในเดือนก.ย.นี้ ขณะเดียวกัน ยังไม่มีคำตอบจากฝ่ายการเมืองว่า ใครจะขึ้นนั่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง แต่ที่แน่นอน “ท่านประภาศ” ของผมถูกเสนอชื่อให้เป็น “อธิบดีแดดเดียว” (กรมละปี)
แต่เพื่อความชัดเจน เดี๋ยวจะหาไม่เก่งจริง ถ้ามองตามรูปเกมนี้ “ประภาศ” เป็นอธิบดีกรมธนารักษ์ “อุ๋ย” “กุลยา ตันติเตมิท” ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) น่าเป็นอธิบดีกรมบัญชีกลางมากกว่า “แพต” “แพตริเซีย มงคลวนิช” ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เพราะเป็นเด็กสายปลัดกระทรวงการคลังโดยตรง โดยปีงบประ มาณ2565 กรมบัญชีกลางจะมีความโดดเด่นมาก โดยเฉพาะมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ และการติดตามมาตรการสำคัญๆ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการดูแลคนจน เป็นต้น ปลัดคลังจึงต้องส่งคนสั่งได้ไปนั่งทำงาน
ส่วนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไม่ต้องตกใจถ้าเห็น “โป๊ะ” “พรชัย ฐีระเวช” รองปลัดกระทรวงการคลังขึ้นเป็นผู้อำนวยการ สศค. ซึ่งเป็นโผเดิมที่เขียนไว้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เท่ากับเอาซี10 ขึ้นเป็น 10 ระดับผู้อำนวยการและอธิบดี ก็ไม่น่าเกลียด รองปลัดกระทรวงการคลังที่เหลือก็ไม่กล้าโวย เพราะผู้อำนวยการ สศค.เป็น “มันสมอง” ของกระทรวงการคลัง เด็กสายตรง (สศค.) เท่านั้นที่เหมาะสม รองปลัดกระทรวงการคลังอีก 2 คนคือ “ภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข” และ “จำเริญ โพธิยอด” “เด็กสายบู๊” จึงต้องอยู่เฉยไปอีก 1 ปี
ในรอบนี้ บอกตามตรงว่า “ขลุกขลิก” ไม่ได้ย้ายใหญ่ และก็ไม่ได้ย้ายเล็กตามตำแหน่งที่เกษียณ เพราะมีตำแหน่งอธิบดีกรมบัญชีกลางเข้ามาแซม โดยไม่แตะต้อง 3 กรมภาษีคือกรมสรรพากร กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต ทำให้เกิดสีสันตลอดทางทั้งหนักและเบาต้องขออภัย เพื่อนรักทุกๆ คน
ส่วนเรื่องโยกย้ายคลัง สรุปอีกครั้ง พรุ่งนี้ (14 ก.ย.) ก่อนเที่ยง ถ้าไม่มีข่าวในเว็บถือว่า ย้ายหลังคลังไม่เข้า ครม. (ดึงไว้นานมาก) ถ้ามีข่าวจะยิงขึ้นเว็บทันที จะตรงตามที่เขียน หรือไม่ถูกตามโผ ก็เหมือนซื้อหวยใต้ดิน 20 บาท ลุ้นตั้งแต่เช้า คุยกันไปทั้งตลาด เก็บเอาไปเล่าให้เจ้านายฟัง ลุ้น 2 ชั้น หรือ 4% ดีเปล่าครับ
โดย นพวัชร์