ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 7-8 ก.ย.2564

“วันที่ 7 ก.ย.2564 ถือเป็นวันดี!! “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประ ชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเป็นการประชุมแบบเต็มคณะครั้งแรก หลังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ผ่อนปรนมาตรการ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการประชุมในรูปแบบออนไลน์ร่วมหลายเดือน”
เรื่องที่ 195 ความพิเศษของการประชุม ครม.ครั้งนี้ คือเป็นการพบหน้ากันครั้งแรกของคณะรัฐมนตรี หลังผ่านพ้นศึกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเกิดรอยร้าวขึ้นในรัฐบาล โดยเฉพาะระหว่าง “ร.อ.ธรรมนัส พหรมเผ่า” รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมส.กลาโหม โดยมีข่าวว่า “ผู้กองธรรมนัส” ดื้ออยากครองตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

เพื่อสยบข่าวรอยร้าว ในการประชุม ครม.ครั้งนี้ “ร.อ.ธรรมนัส” ปรี่เข้าไปสวัสดี “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย พร้อมกับจับไม้จับมือแสดงความเคารพอย่างอ่อนน้อม หวังลบภาพความไม่ลงรอยระหว่างตนกับ บิ๊ก 3 ป ที่มีข่าวไม่สู้ดีนักมาเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ แล้ว
บรรยากาศในการประชุม ครม.ครั้งนี้ ยังได้เห็นภาพของความชื่นมื่น เช่น “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พูดคุยอย่างถูกคอกับ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.เกษตรและสหกรณ์ คาดว่า เมาท์มอย หลังจากที่ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ได้คะแนนไว้วางใจเป็นอันดับหนึ่ง เหนือว่ารัฐมนตรีอีก 5 คน ขณะที่เสี่ยหนู-อนุทิน มีแววจะได้ ส.ส.เพิ่มหลายเก้าอี้
กระนั้นก็ตาม ภาพที่เห็นอยู่นี้ เป็นแต่เพียงเบื้องหน้า ส่วนเบื้องหลังจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อ

อย่ามองข้ามความประมาท ขอเป็นเรื่องที่ 196 กบข.หรือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เพราะต้องดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน จนถึงวันเกษียณมากกว่า 1 ล้านคน ฝากความหวังได้รับเงินก้อนไปใช้หนี้ เอาไปลงทุนหรือนอนกอดฝันหวานมีเงินล้านอยู่ในบัญชีให้ได้ใช้อย่างสบายไปตลอดชีวิต
กบข.จึงต้องจัดเป็นองค์กรแห่งคุณภาพ และโปร่งใส ทั้งในแง่การนำเงินของสมาชิกไปลงทุน สร้างผลตอบแทนในอัตราสูง ดังนั้น กบข.ยุค “แป๊ด” “ศรีกัญญา ยาทิพย์” ล่าสุด เปิดโพยการดำเนินงานครึ่งแรกของปี2564 ฟันผลตอบแทนมาชโลมใจสมาชิกฯ ได้ถึง 3.68% มากกว่าดอกเบี้ยเฉลี่ยเงินฝากของแบงก์มัดรวมกัน 5 แห่ง โดยมีสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนการลง ทุนสูงเรียงตามลำดับ ตั้งแต่สินค้าโภคภัณฑ์ ตราสารทุนโลกและตราสารทุนไทย บวกกับมุมมองโลกสวย เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะไหลลื่นตามเศรษฐกิจโลก เพราะเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจฟื้นตัวจากพิษโควิดกันถ้วนหน้า แต่หันมาดูเมืองไทยยังจมปลักกับ “3 เส้า” โควิด เศรษฐกิจและการเมือง ยังต้องลุ้นจนเหนื่อย ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะได้รองบ๋วย หรือบ๋วยของอาเซียน ยังไม่รู้เลยครับ

เรื่องที่ 197 ส่วนคนที่ไม่ใช่ ข้าราชการและไม่มีสิทธิ์ลุ้นผลตอบแทนระดับเดียวกับ กบข. หันมาทางนี้เลย ธนาคารออมสินเพิ่งเปิดตัว สลากพิเศษ 2 รอบใหม่ หลังจากรอบก่อนๆ มีนักลงทุนหลายคนเข้าไปซื้อไม่ทัน แล้วบ่นเป็นหมีกินผึ้ง! รอบนี้ “วิทัย รัตนากร” อธส.-ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สั่งเปิดขายแบบไม่อั้น…หน่วยละ 100 บาท ใครอยากลงทุน ลุ้นรางวัลใหญ่ ที่ 1 รับเงิน 5 ล้านบาท รางวัลที่ 2 น้อยหน่อยแค่ 1 ล้านบาท ใครอยากได้ต้องรีบก่อน 31 ธ.ค.นี้ แต่หากเงินทุนไหลจนทะลัก! ก็ไม่แน่ใจ อาจปิดจ๊อบเร็วกว่ากำหนดเดิม ดังนั้น ใครสนใจก็ต้องรีบซื้อเลย ลำพังแค่ดอกเบี้ย 0.01% ต่อหน่วย คงไม่น่าสนใจเท่ากับรางวัลก้อนโตแน่นอน

เรื่องที่ 198 เมื่อโจทย์ใหญ่ของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 กว่า 60% เกิดจากเครื่องยนต์ดีเซล ที่มีการเผาไหม้เชื้อ เพลิงที่ไม่สมบูรณ์ บริษัทน้ำมันหลายแห่ง ก็ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและคุณภาพน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 5 และได้นำออกมาจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งแล้ว.. แต่ราคาก็ยังสูงอยู่จึงยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไหร่นัก ล่าสุด บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ก็เป็นอีกหนึ่งที่ได้ควักเงินกว่า 13,000 ล้านบาท ปรับปรุงโรงกลั่นให้สามารถผลิตน้ำมันดีเซลได้ตามมาตรฐานยูโร 5 โดยมีกำหนดจะผลิตเชิงพาณิชย์ในปี2567 หรือ อีก 3 ปีหน้า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของประเทศที่กำหนดให้จำหน่ายน้ำมันดีเซล ตามมาตรฐาน ยูโร 5 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 เพื่อลดปัญหามลภาวะและฝุ่นละออง รวมถึงลดปัญหา PM 2.5 ถึงเวลานั้นเราคงหายใจได้สะดวกขึ้นกว่าปัจจุบัน ไม่ต้องกังวลเรื่องมลพิษในอากาศ เสียเงินเสียทอง หาซื้อหน้ากากกันฝุ่นอีกต่อไป ว่าแต่ โรงกลั่นเขาปรับตัวพร้อมแล้ว ค่ายรถยนต์ดีเซล หละ พร้อมกันรึยัง…
เรื่องที่ 199 เตรียมเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมอีก 3 แปลง กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ แอบแจ้งมาว่า ปีนี้ได้ ยังไงๆ ก็ต้องเปิดประมูลให้สิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยจำนวน 3 แปลง เพราะเจอโควิด-19 สกัด ทำให้กำหนดที่จะเปิดเดือน มี.ค.2563 ต้องเลื่อนออกไปโดยปริยาย ขณะนี้ สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว จึงเร่งปรับปรุงทบทวนรายละเอียดการประมูลอีกครั้ง และคงจะใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต(PSC) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการปิโตรเลียมที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ เป็นเกณฑ์หลัก หากสถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้นและนักลงทุนสามารถเดินทางเข้ามาศึกษาข้อมูลในประเทศไทยได้ กรมเชื้อเพลิงพร้อมเปิดประมูลในทันที เชื่อว่าปลายปีนี้น่าจะพอเป็นไปได้ ส่วนแหล่งก๊าซเอราวัณ ก็ให้เป็นไปตามสัญญา ทางแก้ปัญหาคือนำเข้าLNG ไม่อยากจะพูดถึง เพราะพูดที่ไร ปวดตับ ทุกที
เรื่องที่ 200 ขอแสดงความยินดีกับ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 บริษัท ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) “สมฤดี ชัยมงคล” บอก การดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG นี้ เป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของบ้านปู ตลอดระยะเวลาเกือบสี่ทศวรรษที่ผ่านมา และ “บ้านปู” ยังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและโปร่งใส ที่สำคัญมีนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ที่ชัดเจน รวมถึงมีระบบตรวจสอบและควบคุมภายในที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมกับดูแลประโยชน์ และ ผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง หุ้นถึงได้ปรับขึ้น เพราะเหตุนี้เอง

เรื่องสุดท้าย 201 ต้องจดจำประเด็นจากนี้ไปให้ดี เพราะคนชื่อ “ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์” ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็น เลขาธิการ ครม. ไม่ธรรดาอย่างแน่นอน เพราะนามสกุลเหมือนกับ “หม่อง” พชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เป๊ะ!! “ณัฐฏ์จารี” หรือ “นัท” ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นแม่ของลูกๆ ท่านหม่อง (ภรรยา) “นัท” จึงถือเป็นคนในกระทรวงการคลังด้วยเหมือนกัน เรื่องนี้ ถ้าไม่เขียนถึงถือว่า “ผิด”
“มาแตร์ ประสานมิตร ปทุมวัน จุฬาฯ” (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) คือดีกรีที่ผ่านมาแล้วทั้งหมด จำได้ผิด “นัท” เคยทำงานนั่งหน้าห้องให้กับรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณที่ชื่อ “อิสสราพันธุ์ เพ็ชรรัตน์” เพื่อนสนิทของขุนคลัง “ธารินทร์ นิมมานเหมินทร์” ก่อนที่จะย้ายไปนั่งทำเนียบ และได้โปรโมทให้เป็นเลขา ครม.ผู้หญิงคนแรก นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองปี2475 หรือ 89 ปีที่ผ่านมา เลขาธิการคณะรัฐมนตรี จำนวน 22 คน เป็นผู้ชายทั้งสิ้น
นับจากนี้ไป ใครรังแก “หม่อง” ต้องหันซ้ายมองขวาให้ดีๆ ก่อน ตัดสินใจ ถ้าไม่กลัวใคร ก็ขอให้นึกอยู่เสมอว่า ตำแหน่งเลขา ครม.คือ “คนสนิทของนายกรัฐมนตรี” แค่นี้คงพอจะเข้าใจแล้วนะ โดยเฉพาะคือชื่อ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง.
โดย นพวัชร์