ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 30-31 ส.ค.2564
“จับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และอีก 5 รัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบัน ระหว่าง วันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย.นี้ รวมระยะเวลา 58 ชั่วโมง 30 นาที คือ ฝ่ายค้าน 40 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 18 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งรวมเวลาของ ครม.ชี้แจง 14 ชั่วโมง ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องติดตามตลอดทั้งสัปดาห์ เพราะเช้าวันเสาร์ที่ 4 ก.ย. จะเป็นวันลงมติไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ”
เรื่องที่ 156 แว่วๆ ว่า พรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เกิดการขย่มเก้าอี้รัฐมนตรีกันอีกครั้ง โดย เฉพาะ เก้าอี้ของ 2 รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายคือ “สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน” จับกัง 1 และ “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ถูกมองว่าทำงานไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชนเท่าที่ควร
งานนี้คงวัดกันที่ผลโหวตลงมติไว้วางใจไม่ได้ เพราะคาดว่าคะแนนไว้วางใจจะมาอย่างท่วมท้น โหวตฝั่งรัฐบาลชนะอย่างแน่นอน จากจำนวน ส.ส.ในสภา 482 คน เป็นของรัฐบาล 270 คนมากกว่าครึ่ง แต่ในจำนวนรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ใครได้คะแนนไว้ว่างใจน้อยที่สุด มีโอกาสหลุดเก้าอี้สูงมากที่เดียว
งานนี้ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ใช่ม้ามืดอีกต่อไป เพราะหมายมั่นจะเอาเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการฯ มาครอบครองให้จงได้ สมกับตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มือดีล มือหนึ่งของรัฐบาล และยังมือขวาของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อีกด้วย ซึ่งหลังเสร็จศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว การปรับ ครม.ก็จะเกิดขึ้นเหมือนทุกครั้ง กลายเป็นสูตรตายตัวของการเมืองไทยไปแล้ว
เรื่องที่ 157 คนในวงการธุรกิจประกันภัย เริ่มระอาใจกับพฤติกรรมของฝั่งประกันวินาศภัย เหตุทำชื่อเสียงภาพรวมเสีย หายถี่ และบ่อยไปหน่อย โดยเฉพาะกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยโควิดฯ “เจอ จ่าย จบ” รายที่ยังไม่ทันออกข่าว “เลิกสัญญาประกันภัยโควิด” คงแอบคิดในใจ… ยื้อได้เป็นต้องยื้อจ่ายเงินชดเชย ทั้งที่ ก่อนหน้านี้ แย่งกันออกผลิตภัณฑ์ฯ “เจอ จ่ายจบ” หลายค่ายไม่ทันคิด! ยอดติดเชื้อโควิดในไทย จะพุ่งทะลุหลักล้าน ในจำนวนนี้ คิดเป็นสักหมื่นหลักแสนคนที่ทำประกันเอาไว้ แค่รายละแสน…ยอดเคลมน่าจะพุ่งระดับหมื่นล้านบาทแล้ว
มิน่า…ข่าวร้องเรียนถึง คปภ. ในฐานะ “คนคุมเกมประกันฯ” ถึงร้อนเป็นไฟ! เหตุบริษัทประกันภัยบางแห่ง จ่ายเคลมประกันภัยโควิด แบบโคตรช้าสุดๆ จนนายทะเบียนที่ชื่อ “สุทธิพล ทวีชัยการ” เลขาฯ คปภ. ต้องออก 3 มาตรการแก้ปัญหานี้ 1.เข้าตรวจสอบบริษัท เพื่อประเมินความเสี่ยงฯ 2. ใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการกับ บริษัทประกันวินาศภัยที่มีปัญหานี้ตั้งแต่ 100 เรื่องขึ้นไป และ 3. มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียน
หากข้ามฝากไปดูทางฝั่ง “ประกันชีวิต” ที่ได้ “สาระ ล่ำซำ” คัดท้ายในฐานะ “นายกสมาคมฯ” แทบไม่เจอ หรือถ้าจะเจอ…ปัญหาก็น้อยมาก เพราะส่วนใหญ่ การดูแลผู้ป่วยโควิดที่เป็น “ผู้เอาประกันภัย” ของบริษัทประกันชีวิต ถูกควบรวมอยู่ในสัญญาหลัก หรือกรมธรรม์หลักอยู่แล้ว อีกทั้งวงเงินซื้อประกันยังสูงมากพอจะนำไปถัวเฉลี่ยกับการรักษาโควิด ปัญหาจึงไม่เกิดเหมือนกับที่ คปภ.เจอในกลุ่มประกันวินาศภัย
เรื่องที่ 158 ธุรกิจกำลังไปได้สวย…ยิ่งฝนตกมาก น้ำมาก การผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำก็เพิ่มมากขึ้น “วันแสง วันนะวง” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen สปป.ลาว ถึงกับยิ้มกริ่ม พออก พอใจกับรายได้ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพราะได้รับอานิสงส์จากปรากฎการณ์ลานีญา น้ำท่ามีมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรจากการผลิตไฟฟ้าเติบโตถึง 1,707 % และยังคาดว่า ในไตรมาส 3ปีนี้ จะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาอีกด้วย
เรื่องที่ 159 เมื่ออนาคตกำลังสดใส EDL-Gen ก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาไปเปล่าๆ เสนอขายหุ้นกู้ สะเลย 2 ชุด อายุ 3 ปี และ 4 ปี ที่ไม่ธรรมดาก็คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.90 % และ 6.50 % ถือว่าสูงมากทีเดียว ใครสนใจก็เตรียมตังค์ไปจับจอง เพราะได้กำหนดวันเปิดให้จองซื้อ 20 – 22 ก.ย.นี้เท่านั้น “วันแสง วันนะวง” ยังย้ำว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของ EDL-Gen ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบโควิด-19 แถมยังมีปัจจัยเกื้อหนุนของสภาพอากาศ ทำให้มีรายได้และกำไรเติบโตดี …เชื่อหัวอ้ายเรืองสิว่า สิ้นปีนี้ น่าจะฟันกำไรบานตะเกียง
แต่ที่ไม่ชอบน้ำ น่าจะเป็น นิคมอุตสาหกรรมบางปู เรื่องที่ 160 พอดี เนื่องจากโดนฝนพันปีถล่ม เมื่อวันก่อน ท่วมไปทั้งจังหวัดสมุทรปราการ นิคมอุตสาหกรรมบางปูก็ไม่รอด น้ำท่วมสูงเป็นเมตร แรงงานติดค้างในโรงงานเพียบ ต้องนำรถ บรรทุกมาช่วยลำเลียงพนักงานออกมา และหยุดเดินเครื่องการผลิตชั่วคราว โรงงาน 374 โรง ที่อยู่ในนิคมฯ ถูกน้ำท่วมรวม 80% แต่หนักสุดอยู่ในเขตประกอบการเสรีเขตส่งออก ล่าสุด สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางปู (สนป.) ได้ประสานไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ประสานไปยังกรมชลประทาน เพื่อปรับระดับน้ำในคลองให้ลดลง และทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขังระบายน้ำออกสู่ทะเลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ระดับน้ำลดลง แต่ความเสียหายยังประเมินได้ ผู้ว่าฯกนอ.”วีริศ อัมระปาล” รีบรุดลงพื้นที่หารือแนวทางป้องกัน แม้ตอนนี้ยังไม่ได้คำตอบ แต่บอกได้คำเดียวว่า “หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์”
เรื่องที่ 161 โยกย้ายคลัง ตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ที่ว่างลง ยิ่งนานวัน ยิ่งเงียบ มีข่าวลือผสมข่าวปล่อยเล็กๆ น้อย ให้ได้ลุ้นกระชุ่มกระชวย เอาไปเม้าท์ให้สนั่นลั่นทุ่งได้อีกหนึ่งสัปดาห์ แต่งานนี้ ถ้าไม่ลึกจริงหลีกไป เพราะสืบมาว่า ตอนแรกกะ จะเข้า ครม.วันนี้ (30 ส.ค.) แล้วนะพี่น้อง แต่ลืมไปว่า ปฏิทินวันที่ 30 ก.ย. “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง ยังมีหมวกอีกใบในฐานะประธานกรรมาธิการงบประมาณปี65 ต้องนั่งหัวโต๊ะรับฟังคำชม หรือ ติติง จากท่านสว.ในสภาฯ จึงขอลากิจท่านนายกฯ ไม่ร่วมประชุม ครม. ส่วนคนที่อยู่ในวง ครม.ก็ไม่กล้าเสนอชื่อ เพราะช่วงหลังแม้ จะตัวใหญ่เหมือนเดิม แต่หัวเล็กลงไปเรื่อยๆ เกรงใจตัวจริงที่คุม พปชร.จึงไม่กล้าแสดงตัวเป็น “มือพิฆาต รมว.คลัง” อีกสมัย
แต่ที่พลิกล็อกมโหฬาร กรณี ครม.มีมติแต่งตั้ง “เฉลิมพล เพ็ญสูตร” รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ แทน “เดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา” หรือดีซี ที่เกษียณในเดือนก.ย.นี้ แทนที่จะเป็น “ณัฐจารี อนันตศิลป์” จบกัน แต่ที่ยังต้องลุ้นคือ ตึกใหม่ของสำนักงบประมาณ (ปากซอยราชครู) ผ่านพ้นมา 2 ผู้อำนวยการแล้ว “สมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ” จนถึงดีซี หวังว่า ผอ. ท่านใหม่ จะได้ใช้ตึกสมกับตำแหน่งเสียที
สั้นๆ ก่อนจากกัน ช่วงนี้ อยากซื้อสลากกินแบ่งราคา 80 บาท หวยก็ใกล้ออกเต็มที่แล้ว งวดวันที่ 1 ก.ย.นี้ เดินไปทุกตลาด ยังไม่เจอราคา 80 บาทสักฉบับ ขอตั้งคำถามไปถึง ผอ.สลากท่านใหม่ “พันโทหนุน ศันสนาคม” ว่า ยังคงเดินหน้าแผนบันได 3 ขั้นของ “เสธแดง” พอ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งครั้งหนึ่งมานั่งขัดตาทัพ ในตำแหน่งประธานสำนักงานสลากฯ ปราบหวยแพง แม้จะปราบไม่หมดครบทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ยังเห็นราคา 80 บาทอยู่บ้าง งานนี้ฝากสะกิดถึง “เสธหนุน” จะทำอะไรก็รีบๆ เถอะ เพราะนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ของ คสช.ข้อแรกๆ เลย ถ้าจำกันได้คือ “ปราบสลากเกินราคา”.
โดย นพวัชร์