ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 10-11 ส.ค.2564
“ใกล้ถึง “วันแม่แห่งชาติ – 12 สิงหาฯ” กิจกรรมดีๆ ระดับประเทศ ที่ภาครัฐและเอกชนเคยจัดใหญ่ให้ลูกๆ ได้รำลึกถึงพระ คุณมารดา ปีนี้คงต้องหยุด! ไม่ต่างจากปีก่อน เพราะพิษโควิดฯแท้ๆ แม้แต่จะจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ภายในครอบครัว ยังไม่ง่าย เพราะสถิติมันฟ้อง! ญาติสนิท คนใกล้ชิด มิตรใกล้ตัว ต่างพร้อมจะแพร่เชื้อโควิดฯให้กันและกันได้ตลอดเวลา”
แต่งานนี้ ถือเป็น “ไฟต์บังคับ” อนุญาตขึ้นเป็นเรื่องที่ 63 ต้องจัดใหญ่ และอสังการสุดๆ ให้สมกับที่ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง อุตส่าห์คุยเสียงดังมาตั้งแต่ต้นปีกับงานเปิดตัว “สวนป่าเบญจกิติ-เฟส 2” กระทรวงการคลัง ต้นสังกัดกรมธนารักษ์ เจ้าของโปรเจ็กต์ และการยาสูบฯ เจ้าของพื้นที่ ได้ยึดเอาวันเฉลิมพระชนมพรรษา “12 สิงหาฯ” ของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นฤกษ์งามยามดี เปิดพื้นที่ปอดใหญ่ๆ แห่งใหม่กลางกรุงฯ กว่า 300 ไร่
เหนื่อยหน่อย…คงไม่พ้น “ยุทธนา หยิมการุณ” อธิบดีกรมธนารักษ์ กับ “ภาณุพล รัตนกาญจนภัทร” ผู้ว่าการการยาสูบฯ ที่จำต้องทำหน้าที่ “โต้โผ-จัดงานฯ” แบบประกาศตน…ออกตัวไม่ได้ เดี๋ยวจะข้ามหน้าข้ามตาฝ่ายการเมือง และหากไม่มีอะไรผิดพลาด! นอกจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณ รองนายกรัฐมนตรี อาจได้เห็นครบ “พี่น้อง 3 ป.” นำโดย “ลูงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นำทีม ครม.มาร่วมงานครบครัน
ส่วนทีมนักข่าว…หากไม่ใช่ระดับ “วีไอพี” แล้ว เจ้าภาพฝ่ายการเมืองขอ “ติดเบรก” ไว้ก่อน รอข่าวแจกพร้อมภาพบรรยา กาศไปแล้วกัน เหตุเพราะ “สันติ” แม่งานยังหวั่นใจ คราวเมื่อครั้งเดินทางตรวจราชการ เมื่อช่วงต้น เม.ย.ที่ผ่านมา เสี่ยงติดโควิดจากนักข่าว จนแทบคลั่ง รอบนี้ จึงจำต้องคัดเฉพาะคนที่ใช่เท่านั้น…ทราบแล้วเปลี่ยน!
เรื่องที่ 64 หลังจากประเมินแล้วว่า อุตสาหกรรมน้ำตาลไทยต้องสูญเสียรายได้ส่งออกกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี จากมาตรการอุดหนุนการส่งออกน้ำตาลอินเดีย “ปราโมทย์ วิทยาสุข” ประธาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย จึงเดินหน้าเรียกร้องขอให้รัฐบาลไทย ช่วยผลักดันให้อินเดียยกเลิกมาตรการอุดหนุนและให้ปฏิบัติตามกฎกติกาของ WTO คนร้องก็ร้องไปจน เจ็บคอเรื่องก็ยังเงียบเหมือนเดิม…
เรื่องที่ 65 จับมือกัน ช่วยพัฒนากัญชงสู่อุตสาหกรรมอย่างเป็นทางการ ระหว่าง สพว.- สวพส.-สวก. – “ธนนนทน์ พรายจันทร์” ผอ.สพว.บอกมาว่า ภาคเอกชนไทยมีความต้องการใช้กัญชงเป็นวัตถุดิบเพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มในระดับอุตสาหกรรมมานานแล้ว พอกฎหมายปลดล็อก ภาคอุตสาหกรรมก็เดินคล่องเตรียมต่อยอดพัฒนาสู่อุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ยกให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และพืชมูลค่าต่ำอื่น ๆ อีกด้วย
เรื่องที่ 66 การเมืองช่วยแรง บอกไม่ถูก หากรัฐบาลตั้งรับไม่ทันระหว่างจะขาเป๋ เดินขาเดียวแถไปวันๆ อย่างเช่นเรื่องนี้ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมออก พ.ร.ก.กำหนดจำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. …. มีเจตนารมณ์ที่จะให้ผู้รับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการ การจัดบริการทางแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานโควิด-19 ตลอดจนผู้เจรจาซื้อวัคซีน ไม่ต้องกังวลกับความรับผิดต่างๆ หากเป็นการกระทำโดยสุจริต
อีกนัยหนึ่ง ร่างกฎหมายนี้ถูกมองว่า เป็นการนิรโทษกรรมแบบเหมารวม ยกเข่งให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิด รวมถึงกระบวนการจัดหาวัคซีน ที่ไม่ว่าจะทำงานอย่างบกพร่อง ผิดพลาด ก็ไม่มีความผิดแต่อย่างใด
เหมือนกับที่ครั้งหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกคำสั่งมาตรา 44 ป้องกันการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแก่เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ทำคดีรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นโครงการในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยให้ความคุ้มครองแก่เจ้าหน้าที่รัฐ ในการทำคดีของฝ่ายตรงข้าม
อย่างไรก็ตาม นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุขยืนยัน กระทรวงสาธารณสุข ได้นำกฎหมายดังกล่าวไปพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกามาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งหาก ครม.เห็น ชอบ พ.ร.ก.ก็คงส่งมายังรัฐสภาให้พิจารณาได้ทันภายในสมัยประชุมนี้ แต่ไม่ทันไร “นพดล เภรีฤกษ์” โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ออกมาปฏิเสธว่า ร่างกฎหมายนี้ไม่ได้มีการเสนอมายังสำนักงานฯ เพื่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแต่อย่างใด แสดงว่า “กฤษฎีกา” ไม่ได้รู้เรื่อง อย่างนี้ ก็ไม่เหมือนกับที่คุยเอากันไว้นี่!!
เรื่องที่ 67 ขอวกเรื่องการเมือง อีกสัก 1 เรื่อง เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งยกเลิกข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าด้วยการห้ามนำเสนอข้อมูลข่าวสารอันอาจสร้างความหวาดกลัว ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการปิดปากสื่อ ปิดตาประชาชน ซึ่งอยากชูนิ้วโป้ง ยอมยกนิ้ว “ซูฮก” สื่อออนไลน์ เป็นยักษ์จิ๋วตัวจริง ที่ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน ยื่นร้องศาลแพ่งจนศาลให้ความคุ้มครองชั่วคราว และช่วยให้สื่อใหญ่ได้รับอนิสงฆ์ไปด้วย
ก่อนจะจบวันนี้ เรื่องโยกย้ายข้าราชการกระทรวงการคลัง ยังไม่เข้า ครม.นะครับ ยิ่งเวลายืดยาวออกไป การเมืองยิ่งได้เปรียบ เพราะจะได้เล็งเสนอย้ายใหญ่ ตามราคาหน้าตั๋วว่า ใครจ่าย ใครไม่จ่าย ใครจ่ายแทนใคร และใครจะวิ่งไปถึงไหน แต่งานนี้ “ใหญ่ทับใหญ่” ทำให้พวกเราต้องลุ้นต่อกันไปว่า ปีงบประมาณใหม่นี้ ใครจะมาเป็นเจ้านาย
ส่วนประเด็นยาวๆ เสาร์-อาทิตย์นี้ ตึกใหม่ของกระทรวงการคลัง ยังไม่จบนะครับ ท่านปลัดกระทรวงการคลัง!!
โดย นพวัชร์