ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 4-5 ส.ค.2564
“หลังมติ ครม.แต่งตั้ง สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยแล้ว ฐานะความร่ำรวยก็สร้างความฮือฮาในหมู่ข้าราชการอย่างมาก เพราะนอกจากจะดีทั้งครอบครัวแล้ว ยังดำรงตำแหน่งสูงที่สุดในชีวิตข้าราชการอีกด้วย ถ้ามองย้อนกลับมาแล้ว ก็หวนคิดถึงปลัดกระทรวงการคลังว่า มีใครบ้างที่ขึ้นทำเนียบความร่ำรวยกับเท่าว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ ตำแหน่งนี้ หนีไม่พ้น “พี่แป๋ง” สมใจนึก เองตระกูล เจ้าของที่ดินเกือบ 1,000 ไร่ ณ ทุ่งรังสิต คิดเป็นมูลค่าเท่า ไหร่ต้องไปคำนวณเอาเอง แต่ยังมีที่อีกแปลงเจ้าของก็มีชื่อ “สมใจนึก เองตระกูล” เหมือนกันคือ ตลาดศรีดินแดง คิดเอาเองแล้วกัน”
เรื่องที่ 31 ขอเริ่มต้นที่กระทรวงการคลังก่อนครับ ใกล้เกษียณเข้าไปทุกวัน “ยุทธนา หยิมการุณ” ยังทำงานเต็มร้อย สมกับเป็นข้าราชการน้ำดีของกระทรวงการคลัง เท่านั้น ยังไม่พอ ล่าสุด เดินสายแจกยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร พร้อมสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เตรียมไว้สู้โควิดฯ ให้กับชุมชนบนที่ราชพัสดุในเมืองหลวงแล้ว พร้อมเสนอคลังงดเว้น! จัดเก็บค่าเช่าฯ ตลอดทั้งปีงบประมาณ2564 แหม! อย่างนี้ อยากต่ออายุราชการให้จริงๆ ถ้าไม่ได้ “สนใจการเมืองไหมครับ”
เรื่องที่ 32 อีกไม่ช้า…เราคงได้เห็น “นักรบส่งออก” จากซีกเอสเอ็มอีขยายวงกว้างขึ้น เพราะในจำนวนเอสเอ็มอี 3.1 ล้านราย มีความสามารถส่งออกได้จริง ไม่ถึง 1% ต่ำกว่า 3 หมื่นราย ก็สมควรที่ EXIM BANK ยุคของ “รักษ์ วรกิจโภคาทร” จะดันสัดส่วนให้เพิ่มขึ้น! ขยับเป็น 5-10% ในเร็ววัน หลายคนอาจสงสัย ทำได้จริงหรือ! ขอบอก…ทำได้แน่นอน หากแผน 1 : 500 หรือดึงผู้ส่งออกระดับซูเปอร์บิ๊ก 1 ราย ดูแลช่วยเหลือให้คำปรึกษากลุ่มซัพพลายเชน 500 รายสำเร็จ
เรื่องที่ 32 เทคโนโลยีสื่อสารของบรรดาค่ายประกันแล้ว ยกให้ค่ายเมืองไทยฯ…เขาเลย! สมดั่งม็อตโต้ “บริษัทของคนหัวคิดทันสมัย” เห็น Presentation ที่สมาคมประกันชีวิตไทยในยุคของ “สาระ ล่ำซำ” ซีอีโอ เมืองไทยประกันชีวิต เสนอให้บรรดาสื่อมวลชนสายประกันภัยดู ระหว่างร่วมชมการแถลงข่าว ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี64 “ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิต” เมื่อวันก่อน ขอบอก…ล้ำ! เหลือ
แค่กราฟฟิกสรุปประเด็นสำคัญในผลการดำเนินงานก็เยี่ยมแล้ว ทว่ารูปแบบการนำเสนอผ่านระบบ ZOOM และการเตรียมการ สอดประสานระหว่างการแถลงข่าวของ นายกฯและบรรดากรรมการสมาคมฯ รวมถึงการถาม-ตอบฯ ถือว่า…ดีมากๆ ในระดับที่ไม่ค่อยจะได้เห็นจากสมาคมประกันชีวิตไทยมากนัก หรือเพราะ…พิษของโควิดฯ ทำให้ทุกอย่างต้อง ล้ำ! และล้ำในแบบ “คนหัวคิดทันสมัย”
เรื่องภาพรวมของยอดเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 6 เดือนแรก ทะลุ 8.37 หมื่นล้าน หรือโตขึ้นเกือบ 10% ยังไม่น่าสนใจเท่ากับสัดส่วนการเติบโตของช่องทางขายประกันชีวิต ผ่าน…แบงก์และอินเทอร์เน็ต ที่อย่างหลัง ถึงส่วนแบ่งตลาดจะต่ำมาก แต่สัดส่วนที่เติบโตก็พุ่งพรวด แน่นอนช่องทางตัวแทนฯ ยังนำโด่ง แต่สัดส่วนที่เติบโตก็ต่ำ แถมตัวแทนฯหน้าใหม่ หายไปพร้อมกับโควิดซะอีก!
เรื่องที่ 33 มาติดตามแวดวงคนพลังงานกันบ้าง เพราะกลัว “โลกลืม” เหมือน รมว.พลังงาน จำไม่ได้ว่า ท่านชื่ออะไรแล้ว เพราะเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ยังวิกฤติ CEO บีไอจี “ปิยบุตร จารุเพ็ญ” ก็ยังไม่หยุดให้การสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์และอุปกรณ์ปรับลดแรงดัน วันก่อน ยังชวน ลูกน้อง ทีมงาน หอบออกซิเจนทางการแพทย์ ไปมอบให้ โรง พยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ที่นอนป่วย ด้วยตนเอง หากหน่วยงานไหนต้องการก็กริ๊งกร๊างไปได้ ทีมงานบีไอจี บอกมาว่ายินดีให้บริการ…
เจ้านี้ก็เดินหน้า แจกน้ำมันปันสุข เป็นเรื่องที่ 34 “สมโชค เดชะ” บอสใหญ่ คลังน้ำมัน ออสซี่ออยล์ ร่วมกับ องค์กรบริหารส่วนจังหวัด 50 จังหวัดทั่วประเทศ จัดทำโครงการแจกน้ำมันปันสุขให้กับเกษตรกรที่ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุด ได้ร่วมกับกองทุนหมู่บ้านตำบลมาบตาพุด จ.ระยอง จัดทำโครงการฯ เดินหน้าแจกน้ำมันให้กับเกษตรกร เยี่ยมจริงๆ
เรื่องที่ 35 สำหรับคอการเมือง ต้องอ่าน!! เอาไว้เล่าให้เจ้านายฟัง!! ล่าสุดสองพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อไทยและก้าวไกล เกิดรอยร้าวขึ้นอีกครั้ง เมื่ออยู่ๆ ก้าวไกล หาว่า เพื่อไทย จับมือพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) โหวตโอนงบประมาณที่ตัดได้จากกองทัพเรือ จำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท เข้างบกลาง เท่ากับเปิดช่องให้ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้จ่ายได้แบบไม่ต้องมีใบเสร็จ
ก้าวไกล มองว่า งบที่ตัดออกมา 1.8 หมื่นล้านบาท ควรจะนำเข้ากระทรวงสาธารณสุข หรือ ตั้งไว้แก้ไขปัญหาโควิด-19 โดยเฉพาะ เพื่อรับประกันว่า งบประมาณดังกล่าวนี้ จะถูกใช้แก้ไขปัญหาโควิดจริงๆ ไม่ใช่วันดีคืนนี้ บิ๊กตู่ จะอนุมัติให้กองทัพไปซื้ออาวุธ ได้อย่างหน้าตาเฉย
“โจ้” ยุทธพงษ์ จรัสเสถียร พรรคเพื่อไทย โต้กลับพรรคก้าวไกลว่า การโอนงบเข้างบกลางมันผิดตรงไหน ทั้งยังเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะงบกลางใช้จ่ายได้ทันสถานการณ์ ตรงกับความต้องการในช่วงโควิด-19 นอกจากนี้ ยังเตือนพรรคก้าวไกลว่า “อย่าเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น”
สิ่งที่น่าจับตาคือ กลางเดือนนี้ ทั้งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีหมัดเด็ดเหมือนกันคือ การบริหารจัดการโรคโควิด-19 ที่ล้มเหลวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันว่า ตอนนี้รัฐบาลตกอยู่ในสภาวะลำบาก
แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น หากความสัมพันธ์ระหว่าง 2 พรรคร่วมฝ่ายค้านยังเป็นเช่นนี้ เห็นที “บิ๊กตู่” คงยิ้มรับ สู้ศึกซักฟอกอย่างสบายๆเป็นแน่แท้ 555
โดย นพวัชร์