กกร.ปรับอัตราส่งออกปี62 ลงมาที่-1%ถึง1%
การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3 สถาบัน (กกร.) มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี2562 ในช่วง5เดือนแรกของปี ชี้เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณอ่อนแรง สะท้อนจากการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนหดตัวและการท่องเที่ยวขยายตัวต่ำ
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกร. มองครึ่งปีหลังช่วงท้ายขาดปัจจัยหนุน และความเป็นไปได้น้อยสหรัฐอาจเก็บภาษีจากจีน อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเงินบาทไทยแข็งค่าก็ยังกระทบการส่งออก โดยแม้ว่าการส่งออกอาจกลับมาฟื้นตัวได้บ้างจากปัจจัยฐาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกไทย ทำให้แนวโน้มการส่งออกทั้งปี 2562 อาจมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ขยายตัว
ที่ประชุม กกร. จึงปรับกรอบประมาณการอัตราเติบโตของการส่งออกในปี2562 ลงมาที่-1%ถึง1% จากเดิมที่3.0-5.0% และแม้ว่ารัฐบาลใหม่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลัง แต่ กกร. ก็มองว่าอาจไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลจากการส่งออกที่ลดลงท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงและทิศทางเงินบาทที่แข็งค่า ดังนั้น กกร. จึงปรับกรอบประมาณอัตราการขายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี2562ลงมาที่2ดวง.9-3.3%จากเดิมที่3.7-4.0%สำหรับอัตราเงินเฟ้อปี2562 ยังคงกรอบเดิมที่ 0.8-1.2%
กกร. ได้ทำข้อเสนอเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายคุณภาพแรงงานไทย ประกอบด้วย 1. การปรับขึ้นค่าจ้างตามความเห็นชอบของอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดไตรภาคี 2.การเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานและการพัฒนาฝีมือแรงงาน 3.การเพิ่มกำลังคนทดแทน ทั้งนี้ กกร. ยังห่วงค่าเงินบาท ต้องหาทางผลักดัน แบงค์ชาติเพราะตัวเลขที่เราประมาณการลดลง ค่าเงินของเราแข็งค่ามา 6% เป็นเรื่องที่น่าห่วงเพราะเราแข็งค่าสกุลเงินเดียว หลังจากนี้ กกร. จะเข้าไปหารือกับผู้ว่าแบงค์ชาติเพื่อให้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เราจะทำสรุปเบื้องต้นภายในเดือนนี้ น่าจะมีรัฐบาลใหม่ซึ่งเราหวังว่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ หลังจากนี้. กกร. จะทำการประเมินเศรษฐกิจไทยทุก3เดือน.