กระทรวงอุตฯ จัดการระบบการจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ผ่าน i-Industry
กระทรวงอุตสาหกรรม ยกระดับการใช้งานระบบจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน ผ่านระบบทะเบียนลูกค้ากระทรวงอุตสาหกรรม (i-Industry) มีผล 1 พ.ย. 2566
นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยกระดับการใช้งานระบบจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานให้เป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ ผ่านระบบทะเบียนลูกค้ากระทรวงอุตสาหกรรม หรือ i-Industry สอดคล้องกับการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการกากอุตสาหกรรมตาม “ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566” รวมถึงกฎหมายลำดับรองเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ จะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 1 พ.ย. 2566 โดยยกเลิกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548 เพื่อยกระดับการกำกับดูแลโรงงานให้ถูกต้อง รวดเร็ว น่าเชื่อถือ ลดความซ้ำซ้อนจากการเก็บข้อมูลของแต่ละหน่วยงาน และอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government)
สำหรับโรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator: WG) และผู้รับดำเนินการ (Waste Processor: WP) ต้องขออนุญาตและดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วตามที่กฎหมายกำหนด ทางระบบจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานให้เป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ ผ่านระบบ i-Industry (https://i.industry.go.th) ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป ซึ่งผู้ประกอบการที่ยังไม่เคยลงทะเบียนการใช้งานระบบ i-Industry จะต้องลงทะเบียนก่อน จากนั้นเพิ่มข้อมูลกิจการ/ข้อมูลโรงงาน และยืนยันตัวตน ครั้งแรกเพียงครั้งเดียว เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการกากอุตสาหกรรม ทั้งการขออนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน (กอ.1) การแจ้งรายละเอียดแสดงการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน (กอ.2) และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “ศูนย์บริการให้คำแนะนำการใช้ระบบกากอุตสาหกรรม” ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0 2430 6980 เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถขออนุญาตและส่งรายงานเข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตามนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม “MIND ใช้หัวและใจ ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน” ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างสมดุลและยั่งยืน