Skip to content
Sat. Nov 8th, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • PHOTO STORIES

ตลาดคาร์บอนไทยกับความท้าทายสำคัญที่มองข้ามไม่ได้

07/04/2023 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,123

ตลาดคาร์บอนเครดิตในไทยกำลังเป็นที่จับตามอง แม้ว่าบริษัทต่าง ๆ จะมุ่งดำเนินการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ก็ยังมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกบางส่วนที่ไม่สามารถลดได้อยู่ คาร์บอนเครดิตจึงเป็นกลไกสำคัญในการมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและ Net zero

ภายใต้กระแสที่มาแรงของตลาดคาร์บอนเครดิตไทย ซึ่งเป็นตลาดคาร์บอนเครดิต ภาคสมัครใจ (Voluntary Carbon Market) ยังมีความเสี่ยงของตลาดที่ต้องเผชิญ ในหลายประการ ก่อนที่ผู้ลงทุนจะทำการซื้อ/ขายคาร์บอนเครดิต โดยมีความเสี่ยง ทั้งทางด้านอุปสงค์ อุปทาน ราคา และช่องทางในการซื้อ/ขาย เป็นต้นความเสี่ยงทางด้าน Demand จากความไม่แน่นอน อันเนื่องมาจากคาร์บอนเครดิตที่มีลักษณะเป็นภาคสมัครใจไม่ใช่ทางเลือกแรกที่ผู้ซื้อใช้ และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ มุ่งเน้นในด้านการทำโครงการลดการปล่อยคาร์บอนก่อนความเสี่ยงทางด้าน Supply อันเนื่องมาจากตลาดคาร์บอนเครดิตของไทยเป็นไปในลักษณะที่เหมาะกับผู้ลงทุนรายใหญ่มากกว่าผู้ลงทุนรายย่อย และยังมีความไม่แน่นอน ความไม่สมํ่าเสมอของปริมาณการซื้อขาย ประกอบกับตลาดยังอยู่ในช่วงการพัฒนา จึงทำให้การซื้อขายเป็นไปในลักษณะผู้ซื้อ และผู้ขายตกลงกันเองความเสี่ยงทางด้านราคา เนื่องจากตลาดยังอยู่ในช่วงการพัฒนาไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจน เช่น และตลาดคาร์บอนไทยยังไม่มีระบบในการรักษาเสถียรภาพของ Demand และ Supply ดังนั้น ความผันผวนด้านราคา หรือโอกาสที่ราคาคาร์บอนจะตกตํ่า จึงมีความเป็นไปได้ผู้มีความสนใจในการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ควรศึกษาข้อมูลประกอบการลงทุน ด้านคาร์บอนเครดิตด้วยวิธีต่าง ๆ และเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังก้าวขึ้นมามีบทบาท ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น พร้อมกับมองหาทางเลือกอื่นเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Net zero ที่ยั่งยืนต่อไป

การใช้คาร์บอนเครดิตเพื่อมาชดเชย (Offset) การปล่อยคาร์บอนจากกิจกรรมที่ไม่สามารถลดการปล่อยให้เป็นศูนย์ได้ เป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้โลกบรรลุเป้าหมาย Net zero ได้
ภายใต้ข้อตกลงปารีสปี 2015 เกือบ 200 ประเทศได้รับรองเป้าหมายระดับโลกในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยไว้ที่ไม่เกิน 2.0 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม หากโลกจะบรรลุเป้าหมายนี้ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกจะต้องลดลง 50% ของระดับปัจจุบันภายในปี 2030 และลดลงเป็นศูนย์สุทธิภายในปี 2050

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยใช้เทคโนโลยีปัจจุบันนั้นมีต้นทุนในการลงทุนสูง แม้ว่าต้นทุนของเทคโนโลยีเหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะลดลงตามเวลา แต่ในบางธุรกิจ ไม่สามารถกำจัดได้คาร์บอนได้ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การผลิตปูนซีเมนต์ในระดับอุตสาหกรรมมักเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมีการเผาไหม้ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของการปล่อยคาร์บอนในภาคซีเมนต์ เป็นต้นการซื้อคาร์บอนเครดิตเป็นวิธีหนึ่งสำหรับบริษัทในการจัดการกับการปล่อยมลพิษที่ไม่สามารถกำจัดได้ คาร์บอนเครดิตเป็นใบอนุญาตชนิดหนึ่งที่แสดงถึงคาร์บอนไดออกไซด์ 1 ตันที่ถูกดึงดูดออกจากชั้นบรรยากาศ (Removal) หรือคาร์บอนไดออกไซด์ 1 ตันที่ไม่ถูกปล่อย (Avoidance) โดยผู้ปล่อยคาร์บอนสามารถซื้อ เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มาจากกระบวนการผลิตและการดำเนินธุรกิจได้

ปัจจุบันตลาดคาร์บอนทั่วโลกสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

ตลาดคาร์บอนบังคับ (Compliance market/Mandatory market/Regulated market) : ตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีผลผูกพันทางกฎหมายหรือสอดคล้องกับความมุ่งมั่นระหว่างประเทศ หากไม่สามารถปฏิบัติตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จะถูกลงโทษ หรือหากปฏิบัติตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จะสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ หรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับการบัญญัติกฎหมาย จึงมีความเข้มงวดในเรื่องการบังคับใช้อย่างมาก

ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ (Voluntary Carbon Market) : ตลาดที่สร้างขึ้นโดยไม่มีการบังคับใช้กฎหมายตลาดมักจะจัดตั้งขึ้นจากความร่วมมือโดยสมัครใจในภาคเอกชนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผู้เข้าร่วมในตลาดอาจมีเป้าหมายของการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยสมัครใจซึ่งมีเป้าหมายที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย และดำเนินการซื้อหรือขายคาร์บอนเครดิตและค่าเผื่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อชดเชย
การปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีหลายมาตรฐานของคาร์บอนในตลาดนี้

สำหรับในบทความนี้จะพูดถึงตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจเท่านั้น  เนื่องจากไทยดำเนินการในรูปแบบตลาดคาร์บอนแบบภาคสมัครใจ (Voluntary Carbon Market) โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) หรือ Thailand Greenhouse Gas Management Organization (Public Organization : TGO)  ได้ริเริ่มการให้การรับรองโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction : T-VER) ขึ้น เพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศโดยความสมัครใจ 

ถึงแม้ว่าตลาดคาร์บอนจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่ตลาดคาร์บอนเครดิตยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายด้านที่สำคัญดังนี้

ความเสี่ยงด้าน Demand : ตลาดคาร์บอนเครดิตในไทย ยังขาดความต้องการที่ชัดเจน

Demand ของคาร์บอนเครดิตของไทย ยังเป็นไปในลักษณะเพื่อความสมัครใจ Voluntary Carbon Markets (VCMs) ด้วยความเป็นตลาดภาคสมัครใจ จึงต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนอื่น ๆ นอกเหนือจากกฎระเบียบในการทำให้เกิดความต้องการใช้ เช่น เทรนด์ความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม หรือความต้องการอยู่ใน Supply chain ของลูกค้าที่มีความให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม

ณ ปัจจุบันแรงขับเคลื่อนที่สำคัญคือเป้าหมาย Carbon neutrality และ Net zero ขององค์กรต่าง ๆ ในประเทศโดยกว่า 28 บริษัทในไทยได้ตั้งเป้าหมายCarbonneutrality/Net zero แล้ว ซึ่งจะทำให้ Demand คาร์บอนเครดิตมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ความต้องการซื้อคาร์บอนเครดิตที่มีลักษณะเป็นภาคสมัครใจไม่ใช่ทางเลือกแรกที่ผู้ซื้อใช้ การชดเชยคาร์บอนของผู้ประกอบการไทยเกิดขึ้นภายหลังจากความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมทางธุรกิจก่อน เช่น การประหยัดพลังงาน การใช้วัสดุ หรือวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทดแทน หรือการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดก่อน

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมปล่อยคาร์บอนในระดับสูงย่อมคิดค้นเทคโนโลยีและหาวิธีในการลดการปล่อยคาร์บอนที่มีความยั่งยืนมากกว่าการซื้อคาร์บอนเครดิตเป็นครั้ง ๆ ไป เช่น สมาคมอุตสากรรมปูนซีเมนต์ไทย เร่งนำปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มอก.2594 ที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก เข้าสู่การใช้งานแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท 1 ทั้งหมด ในปี 2023 ซึ่งจะทำให้ลดก๊าซเรือนกระจกได้ไม่น้อยกว่า 1,000,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 122 ล้านต้น โดยทางด้านผู้ผลิตเตรียมพร้อมยกเลิกการผลิตปูนซีเมนต์ชนิดเดิมที่ปล่อย CO2 สูง ในต้นปี 2024

สำหรับภาคธุรกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง อย่างภาคการบิน แม้ว่าจะต้องการคาร์บอนเครดิตชดเชยจำนวนมาก แต่เนื่องจากยังไม่มีกฎระเบียบข้อบังคับ สายการบินบางรายจึงนำเสนอการซื้อคาร์บอนเครดิตให้เป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคที่ต้องการจะลดผลกระทบจากการเดินทางของตนเองเท่านั้น  ดังนั้น จึงไม่อาจระบุได้แน่ชัดว่าความต้องการใช้คาร์บอนเครดิต จะต้องมีมากน้อยเพียงใด

ในด้านการส่งออกและการค้าระหว่างประเทศ มาตรการทางภาษี CBAM ของสหภาพยุโรปเป็นมาตรการที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม แรงขับเคลื่อนตลาดคาร์บอนเครดิตในไทยจากมาตรการดังกล่าวยังคงมีความไม่แน่นอน เนื่องจากคาร์บอนเครดิตในภาคสมัครใจไม่สามารถใช้ทดแทน CBAM Certificate ที่ผู้นำเข้าในสหภาพยุโรปต้องซื้อได้ เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่ไม่สอดคล้องกันและสามารถเทียบเคียงกันได้

ความเสี่ยงด้าน Supply : ตลาดคาร์บอนเครดิตของไทยเหมาะกับผู้ลงทุนรายใหญ่มากกว่าผู้ลงทุนรายย่อย และยังมีปัญหาด้านความไม่แน่นอน ความไม่สม่ำเสมอของปริมาณการซื้อขาย

การขายคาร์บอนในตลาดจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการตรวจมาตรฐาน จึงจะเป็นคาร์บอนที่เป็นที่ยอมรับและขายได้ในตลาด ทำให้ภาค Supply เหมาะกับผู้ลงทุนขนาดใหญ่มากกว่า

ตัวอย่างของค่าใช้จ่ายที่จะต้องเตรียมสำหรับการลงทุนปลูกป่า ศักยภาพในการดูดคาร์บอนอยู่ที่ราว 1.2-1.4 ตันต่อไร่เพื่อขายคาร์บอนเครดิตตามโครงการ ค่าดำเนินการในการเริ่มการขายคาร์บอนตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction : T-VER) โดยจะต้องมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ตั้งแต่ 10 ไร่ขึ้นไปตามสเกลขั้นต่ำที่ T-Ver จะรับตรวจ ต้องมีค่าใช้จ่ายดังนี้

การขอขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER 3,000 บาทต่อโครงการต่อครั้ง

ค่าปลูกป่าและค่าบำรุงรักษา จะมีความแตกต่างกันไปตามชนิดของป่า เช่น ป่าบกจะอยู่ที่ราว 4,300 บาทต่อไร่ (ข้อมูลจาก T-ver ต่อไร่ต่อปี ป่าชายเลน จะอยู่ที่ราว 6,390 บาทต่อไร่ต่อปี (ข้อมูลจากกองมาตรฐานงบประมาณ สำนักงบประมาณ เดือนมกราคม 2018) ดังนั้น ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำอยู่ที่ 43,000 บาท ต่อ 10 ไร่

ค่าใช้จ่ายในการประเมินคาร์บอน อยู่ที่ราว 1,200 บาทต่อไร่ หรือ 1.2 ล้านบาทต่อเนื้อที่ 1,000 ไร่ ตลอดโครงการระยะเวลา 10 ปี (ตามระยะเวลาการคิดคาร์บอนเครดิตของ T-ver และขอต่ออายุโครงการได้ครั้งละ 10 ปี) โดยจะไม่รวมค่าปลูกและค่าบำรุงรักษา ดังนั้น ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำอยู่ที่ 12,000 บาท ต่อ 10 ไร่ ค่าประเมินคาร์บอนเครดิตมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง การวัดก็ต้องมีเทคโนโลยีอย่าง GPS ภาพถ่ายดาวเทียมและโดรน เป็นต้น

การขอรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนเครดิต) 3,000 บาท ต่อโครงการต่อครั้ง ดังนั้น สเกลเล็กที่สุดสำหรับการขายคาร์บอนเครดิตจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราว 43,000+12,000 +3,000 +3,000 = 61,000 บาท เป็นอย่างน้อย โดยศักยภาพในการดูดคาร์บอนได้ที่ 14 ตันคาร์บอน ตัวอย่างการปลูกป่า 10 ไร่ข้างต้น เป็นสเกลที่เล็กมากเมื่อเทียบกับการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมอย่าง

การวัดค่าคาร์บอนเครดิตมีทั้งมาตรฐานไทยและมาตรฐานสากล ที่มีความเข้มข้นไม่เท่ากันระหว่างมาตรฐาน และยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานกลางสำหรับนานาชาติ

สำหรับมาตรฐานไทยที่เป็นมาตรฐานปกติคือ T-ver และเพิ่งปรับปรุงมาตรฐานใหม่ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลมากขึ้นในชื่อ Premium T-Ver เพื่ออ้างอิงให้สอดคล้องกับ มาตรฐานสากลโลกอย่าง Verra, Gold Standard อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่สามารถซื้อขายคาร์บอนเครดิตข้ามมาตรฐานกันได้

ต้องใช้ระยะเวลาระหว่างการลงทุนนานจึงจะนับและเก็บคาร์บอนขึ้นทะเบียนได้ ความหมายคือ มีช่วงระยะห่างระหว่างการลงทุนสำหรับการลงทุนในโครงการปลูกป่า โดยต้องใช้เวลา 3-5 ปี ที่เป็นระยะเวลาให้ป่าโต ซึ่งผู้ลงทุนต้องมีการพิจารณาให้รอบด้าน เนื่องจาก 3-5 ปี เป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรที่จะทำให้เทคโนโลยีทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะมีต้นทุนที่ลดลงจนทำให้มีความดึงดูดกว่าการซื้อคาร์บอนเครดิตเป็นครั้ง ๆ ไป

นอกจากนี้ โครงการในการลดคาร์บอนอื่นนอกจากการปลูกป่าใช้ระยะเวลาสั้นกว่าและลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า แต่ได้ Co-benefit น้อยกว่าการปลูกป่า อาจเข้ามาแข่งขันในตลาดคาร์บอนได้เร็วกว่า จึงเป็นสิ่งที่ผู้ต้องการขายคาร์บอนต้องพิจารณาเลือกระหว่างโครงการคาร์บอนเครดิตที่ใช้ระยะเวลานานกว่าจะเก็บเกี่ยวคาร์บอนเครดิตได้อย่างการปลูกป่า แต่ต้องรับกับความเสี่ยงของเทคโนโลยีลดคาร์บอนอื่น ๆ ที่อาจก้าวเข้ามาในระยะ 3-5 ปีนี้ หรือจะเลือกลงทุนในโครงการที่สามารถคิดคาร์บอนเครดิตได้ไว แต่ให้ประโยชน์ร่วมอย่างอื่นน้อยกว่าการปลูกป่า

ความเสี่ยงด้านราคา : ราคาคาร์บอนเครดิตที่สูงเกินไป จะทำให้เทคโนโลยีลดคาร์บอนที่เคยมีต้นทุนสูง เริ่มมีความน่าสนใจและน่าลงทุนมากกว่า

ราคาคาร์บอนเครดิตในตลาดคาร์บอนภาคบังคับที่ผ่านมามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเทคโนโลยีอื่น
ที่เคยมีอุปสรรคทางด้านต้นทุนที่สูงสามารถก้าวขึ้นมาแข่งขันกับการซื้อคาร์บอนเครดิตได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดของสหภาพยุโรป ราคาคาร์บอนของสหภาพยุโรปในปัจจุบันอยู่ที่ระดับจุดคุ้มทุนสำหรับเทคโนโลยี Green hydrogen ที่ 2 USD/kg

ในขณะเดียวกัน การลงทุนเพื่อการจัดเก็บคาร์บอน CCS/CCUS ของสหรัฐฯ  ที่ราคา California carbon price ณ เดือนกันยายน 2022 ขณะนี้มีความสามารถในการแข่งขันกับการซื้อคาร์บอนเครดิตได้แล้ว จึงทำให้ภาคธุรกิจเริ่มมีการเปรียบเทียบการลงทุนในระยะยาว อย่าง CCS หรือ Green hydrogen ที่มีความคุ้มทุนและยั่งยืนกว่าการซื้อคาร์บอนเครดิตเป็นครั้งคราวไป

สำหรับตลาดคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจ ราคาคาร์บอนเครดิตในแต่ละตลาดหรือแต่ละมาตรฐานจะมีความแตกต่างกัน ปัจจุบันราคาคาร์บอนเครดิตโลกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันคาร์บอน ฝั่งเอเชียอย่างเกาหลี ปัจจุบันราคาคาร์บอนเครดิตโลกอยู่ที่ประมาณ 18 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันคาร์บอน ขณะที่ราคาคาร์บอนเครดิตไทยเฉลี่ยล่าสุดปี 2022 อยู่ที่ 107 บาท หรือประมาณ 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันคาร์บอน ซึ่งยังเป็นราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับราคาในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาซื้อขายในตลาดคาร์บอนเครดิตไทย ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอีกหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาคาร์บอนเครดิต มีโอกาสผันผวนได้สูง เนื่องจากมาตรฐานต่าง ๆ ยังไม่นิ่ง ตลาดจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Demand หรือ Supply เพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับการกำหนดกฎระเบียบ มาตรฐานใหม่ ๆ อีกด้วย ตัวอย่างเช่นตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจที่ใช้ในองค์การการบินระหว่างประเทศ และคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจในหมวดเกษตรกรรม จะเห็นว่าราคาตลาดมีความผันผวนเป็นอย่างมากและมีโอกาสปรับตัวลงมาเหลือเพียงราว 1 ดอลลาร์สหรัฐ

ราคาได้ปรับตัวลงมาเนื่องจากความไม่ชัดเจนของกฎระบียบ และการกำหนดคุณภาพของคาร์บอนเครดิต ผู้เล่นต่างหวังว่าจะเห็นผู้แทนของ COP27 จะตัดสินใจว่าโครงการประเภทใดจะได้รับอนุญาต และคำจำกัดความที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ถือเป็นคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูง แต่เนื่องจากผู้แทนของ COP27 เห็นว่าจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นในการตัดสินใจและพิจารณา

ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบนี้ การฟื้นตัวขึ้นอยู่กับความชัดเจนว่าอะไรทำให้คาร์บอนเครดิตเป็นเครดิตที่มีคุณภาพดี รวมถึงเมื่อบริษัทต่าง ๆ ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในตลาดคาร์บอนโดยสมัครใจโดยไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกกล่าวหาว่า Greenwashing

ดังนั้น ประเด็นทางด้านราคาคาร์บอนที่ผู้ลงทุนขายคาร์บอนเครดิตต้องตระหนัก คือ ความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอนของตลาดคาร์บอนเครดิตภาคบังคับ กับภาคสมัครใจ มีความเข้มข้นแตกต่างกัน เสถียรภาพของราคาแตกต่างกัน และสำหรับในไทยยังไม่มีเครื่องมือในการช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาได้เหมือนบางตลาด

นอกจากนี้ ราคาคาร์บอนถูกกำหนดเพดานราคาด้วยเทคโนโลยีทางเลือกในการลดการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่กำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทขึ้นเรื่อย ๆ และมีแนวโน้มราคาลดลงจาก Scale ที่ใหญ่ขึ้น

ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม : การสร้างความยั่งยืนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างแท้จริง ยังเป็นสิ่งที่ควรมุ่งเน้นมากกว่าการซื้อคาร์บอนเครดิต

นอกจากนี้ ประเด็นที่สำคัญคือ ตลาดการซื้อขายคาร์บอนในปัจจุบันของไทย ยังเป็นตลาด (OTC) Over The Counter เป็นการซื้อขายกันโดยตรง ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย แสดงว่าผู้ซื้อผู้ขายจะทราบแหล่งที่มาของการปล่อยคาร์บอนและการลดคาร์บอนที่แท้จริงเมื่อใดก็ตามที่ตลาดถูกพัฒนาไปเป็นตลาดรอง คือมีตลาดกลาง ย่อมทำให้เกิดความยากในการติดตามการปล่อยคาร์บอน คือ กิจกรรมที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกเกิดขึ้นตรงส่วนใด กระทบกับชุมชนในพื้นที่ใด ควรทำให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในบริเวณรอบ ๆ นั้น หากซื้อขายในตลาดรองก็จะไม่ทราบแหล่งที่มาของคาร์บอนเครดิต ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความใส่ใจมากขึ้น และเริ่มต่อต้านมากขึ้น นั่นคือประเด็นของ Greenwashing ซึ่งหมายถึง การที่ผู้ผลิตไม่ได้มีความพยายามในการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง แต่อ้างว่ามีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะในด้านกิจกรรมการดำเนินงาน แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ หรือใช้แก้ปัญหาแบบฉาบฉวย เช่นการที่องค์กรและบุคคลต่าง ๆ ยังคงปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แล้วพยายามชดเชยมลพิษที่ตนเองสร้างขึ้น โดยการจ่ายเงินให้กับบริษัทอื่น ๆ เพื่อนำมาทดแทนในส่วนที่ตัวเองผลิตคาร์บอนมากเกินไป

การลงทุนสำหรับคาร์บอนเครดิต ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?

ธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิตเกิดจากความตั้งใจที่ต้องการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นธุรกิจใหม่สำหรับประเทศไทย ซึ่งมีโอกาสเติบโตได้ดีทั้งในด้านราคาและปริมาณ เนื่องจากยังมีผู้เล่นในตลาดน้อย อย่างไรก็ตาม จากมุมมองในแง่ความเสี่ยงของภาคตลาดคาร์บอนเครดิต  จะเห็นได้ว่ายังมีความเสี่ยงอีกหลายประการ เนื่องจากเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่ ความไม่แน่นอนค่อนข้างสูงทั้งทางด้าน Demand และ Supply รวมถึงความผันผวนของราคา และประเด็นทางสิ่งแวดล้อมตามที่กล่าว ดังนั้น การลงทุนในตลาดคาร์บอนเครดิตจึงอาจเป็นเพียงทางเลือก ไม่ใช่กลไกหลักสำหรับการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมาย Carbon neutral/Net zero ผู้ประกอบการจะต้องมีการติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนที่สุด

คำถามที่ว่า มีโอกาสที่ตลาดคาร์บอนเครดิตในไทยจะพัฒนาต่อไปได้ดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของการวัดคาร์บอนเครดิต และการมุ่งมั่นสู่เป้าหมายด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงเป็นสิ่งสำคัญ การยกระดับมาตรฐานคาร์บอนของไทยให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล จนเกิดการยอมรับอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดความสำเร็จในตลาดคาร์บอนเครดิตของไทยในอนาคต

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: Net Zero ก๊าซเรือนกระจก ตลาดคาร์บอน

Continue Reading

Previous: องค์กรชั้นนำดีเด่นที่ยกระดับสวัสดิการให้พนักงานในองค์กร
Next: ออมสิน สืบสานประเพณีสงกรานต์

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025

07/11/2025
EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน

31/10/2025
BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

30/10/2025
IMG_4504 คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท. 1 min read
  • PHOTO STORIES

คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท.

30/10/2025
เมืองไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง 1 min read
  • PHOTO STORIES

เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง

28/10/2025
ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 1 min read
  • PHOTO STORIES

ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5

27/10/2025
ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิงรับทุนรวม 8.6 แสน ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิง รับทุนรวม 8.6 แสนบาท 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิง รับทุนรวม 8.6 แสนบาท

27/10/2025
BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาสจังหวัดชุมพร BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดชุมพร 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดชุมพร

27/10/2025
VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics 1 min read
  • PHOTO STORIES

VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics

22/10/2025
IMG_3579 EXIM BANK ต้อนรับดีบีเอส แบงค์ ลิมิเต็ด ฉลองความสำเร็จเงินกู้ร่วมดอลลาร์สหรัฐ 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK ต้อนรับดีบีเอส แบงค์ ลิมิเต็ด ฉลองความสำเร็จเงินกู้ร่วมดอลลาร์สหรัฐ

21/10/2025
กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568 กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568

20/10/2025
ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI

20/10/2025

China News

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม.

21/10/2025
LINEแชร์เลย! รถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดในโลก CR450 เริ่มการทดลองใช้งานก่อนเปิดให้บริการบนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของจีน โดยสามารถทำความเร็วได้สูงสุดต่อขบวนถึง 453 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หนังสือพิมพ์ไซแอนซ์แอนด์เทคโนโลยีเดลี (Science... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

07/11/2025
AIS ขายหุ้นกู้ 7 ปี ดอกเบี้ย 2.29% วันที่ 10-12 พ.ย.2568 AIS ขายหุ้นกู้ 7 ปี ดอกเบี้ย 2.29% วันที่ 10-12 พ.ย.2568
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

AIS ขายหุ้นกู้ 7 ปี ดอกเบี้ย 2.29% วันที่ 10-12 พ.ย.2568

06/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

06/11/2025
GC เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ 4.40% เตรียมขาย 27 พ.ย.–3 ธ.ค.นี้ GC เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ 4.40% เตรียมขาย 27 พ.ย.–3 ธ.ค.นี้
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

GC เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ 4.40% เตรียมขาย 27 พ.ย.–3 ธ.ค.นี้

05/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.45-32.70 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.45-32.70 บาท/ดอลลาร์

05/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

AIS ขายหุ้นกู้ 7 ปี ดอกเบี้ย 2.29% วันที่ 10-12 พ.ย.2568

AIS ขายหุ้นกู้ 7 ปี ดอกเบี้ย 2.29% วันที่ 10-12 พ.ย.2568

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

GC เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ 4.40% เตรียมขาย 27 พ.ย.–3 ธ.ค.นี้

GC เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ 4.40% เตรียมขาย 27 พ.ย.–3 ธ.ค.นี้

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.45-32.70 บาท/ดอลลาร์

Energy Force

กองทุนน้ำมันติดลบลดวูบจากแสนล้านเหลือหลักหมื่น กุองทุนน้ำมันติดลบลดวูบจากแสนล้านเหลือหลักหมื่น 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

กองทุนน้ำมันติดลบลดวูบจากแสนล้านเหลือหลักหมื่น

05/11/2025
LINEแชร์เลย! “กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” ฟื้นตัว ! ฐานะติดลบต่ำสุดในรอบ 3 ปี เชื่อมั่นชำระหนี้เงินกู้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมเดินหน้าตามนโยบาย... อ่านต่อ

Politics

คนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวคนรุ่นใหม่ “พรรคประชาธิปัตย์” 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

เปิดตัวคนรุ่นใหม่ “พรรคประชาธิปัตย์”

07/11/2025
เชลยศึก-กัมพูชา สะพัด! ไทยเตรียมปล่อย 18 เชลยกัมพูชา 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

สะพัด! ไทยเตรียมปล่อย 18 เชลยกัมพูชา

06/11/2025
558941943_1352503642899358_6096589712166660892_n “โรม” บี้ “อนุทิน” ปลด ธรรมนัส พ้น ครม. 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

“โรม” บี้ “อนุทิน” ปลด ธรรมนัส พ้น ครม.

06/11/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

“ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68 “ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

“ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68

05/11/2025
CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ย 7.25% เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • BUSINESS MOVEMENT

CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68

27/10/2025
คปภ. ลงพื้นที่กระบี่ ดันประกันภัยเชิงรุก “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน" คปภ. ลงพื้นที่กระบี่ ดันประกันภัยเชิงรุก “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน” 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

คปภ. ลงพื้นที่กระบี่ ดันประกันภัยเชิงรุก “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน”

24/10/2025
ออมสิน จัดใหญ่ “GSB SAVINGS FORUM 2025" โปรโมทวันออมแห่งชาติ ออมสิน จัดใหญ่ “GSB SAVINGS FORUM 2025″ โปรโมทวันออมแห่งชาติ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ออมสิน จัดใหญ่ “GSB SAVINGS FORUM 2025″ โปรโมทวันออมแห่งชาติ

22/10/2025

Recommend

รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่ รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่ 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่

30/10/2025
"คนละครึ่ง พลัส" วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง “คนละครึ่ง พลัส” วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“คนละครึ่ง พลัส” วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง

29/10/2025
ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต

25/10/2025
คนไทยลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว คนไทยลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

คนไทยลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว

20/10/2025

Photo Stories

กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025

07/11/2025
EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน

31/10/2025
BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

30/10/2025
IMG_4504 คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท. 1 min read
  • PHOTO STORIES

คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท.

30/10/2025
เมืองไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง 1 min read
  • PHOTO STORIES

เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง

28/10/2025
ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 1 min read
  • PHOTO STORIES

ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5

27/10/2025
ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิงรับทุนรวม 8.6 แสน ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิง รับทุนรวม 8.6 แสนบาท 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิง รับทุนรวม 8.6 แสนบาท

27/10/2025
BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาสจังหวัดชุมพร BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดชุมพร 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดชุมพร

27/10/2025
VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics 1 min read
  • PHOTO STORIES

VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics

22/10/2025
IMG_3579 EXIM BANK ต้อนรับดีบีเอส แบงค์ ลิมิเต็ด ฉลองความสำเร็จเงินกู้ร่วมดอลลาร์สหรัฐ 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK ต้อนรับดีบีเอส แบงค์ ลิมิเต็ด ฉลองความสำเร็จเงินกู้ร่วมดอลลาร์สหรัฐ

21/10/2025
กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568 กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568

20/10/2025
ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI

20/10/2025
CEO SAM คว้ารางวัลบุคคลตัวอย่าง ภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จาก มสวท. CEO SAM คว้ารางวัลบุคคลตัวอย่าง ภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จาก มสวท. 1 min read
  • PHOTO STORIES

CEO SAM คว้ารางวัลบุคคลตัวอย่าง ภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จาก มสวท.

20/10/2025
"เอกนิติ" ลงพื้นที่ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย “เอกนิติ” ลงพื้นที่ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย 1 min read
  • PHOTO STORIES

“เอกนิติ” ลงพื้นที่ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย

18/10/2025
ธอส. เปิดการแข่งขัน G H BANK เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 ธอส. เปิดการแข่งขัน G H BANK เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ธอส. เปิดการแข่งขัน G H BANK เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568

18/10/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM