แสนสิริ ยืนหนึ่งอสังหา โชว์ผลงานปิดขาย “ไทเกอร์ เลน”
แสนสิริ ยืนหนึ่งอสังหา โชว์ผลงานปิดขาย “ไทเกอร์ เลน” พร้อมจ่อคิวปิดขาย เดอะ โมนูเมนท์ ทองหล่อ ดันยอดขายพุ่งทะลุ 2,500 ลบ.ใน 2 สัปดาห์เขย่าวงการอสังหาฯ ประกาศปรับเป้าไตรมาส 2 เป็น 10,000 ล้านบาท
- แสนสิริก้าวแกร่ง ยืนเบอร์หนึ่งอสังหาฯ โชว์ผลงานปิดการขาย “ไทเกอร์ เลน” ลักซ์ชัวรีโฮมออฟฟิศ บนที่สุดของทำเลทอง ไพร์มโลเคชันตำแหน่งฮวงจุ้ยท้องมังกรที่หายากใจกลางย่านเสือป่า สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมขายและโอน ในราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท เผยมีดีมานต์จากความคุ้มค่าในการลงทุนจากทรัพย์สินที่ส่งต่อให้ลูกหลานได้ รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการขยับขยายที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงกับทำเลเดิมซึ่งเปรียบเสมือน ทรัพย์สมบัติที่เพิ่มมูลค่าบนทำเลที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้โครงการประสบความสำเร็จ
- จ่อคิวปิดขาย “เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของทองหล่อ สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ จากจุดเด่นโครงการที่มีคุณค่าเหนือกาลเวลา บนทำเลที่เป็นมรดกที่มีคุณค่าของกรุงเทพฯ สะท้อนดีมานต์ระดับบนยังมีต่อเนื่อง ด้วยยอดขาย 95% เผยได้รับการตอบรับสูงจากกลุ่มเป้าหมาย ทั้งซื้อเพื่อลงทุนและอยู่อาศัยเองในสัดส่วน 50 : 50
- ชี้ศักยภาพของราคาที่ดินโซนเยาวราช ติดอันดับ Top 10 ราคาที่ดินที่สูงสุดในประเทศไทย โดยโซนเสือป่า-เยาวราชมูลค่าที่ดินสูงขึ้น 3.5% ต่อปี ขณะที่ราคาที่ดินย่านทองหล่อสูงขึ้นต่อเนื่องในทุกปี ล่าสุดเพิ่มขึ้นถึง 200% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้ง 2 โครงการได้รับการตอบรับที่ดี จากความคุ้มค่า และศักยภาพของทั้งโครงการและตัวทำเลที่ตั้งโครงการ
- เผยลูกค้ายังเร่งตัดสินใจซื้อในช่วงนี้ จากการเป็นช่วงเวลาที่เหมาะต่อการลงทุนในโครงการคุณภาพซึ่งเป็นที่สุดในทุกรายละเอียด ทั้งในแง่การพัฒนาโครงการและบริการเพื่อการอยู่อาศัย รวมถึงการสร้างคุณค่าทางจิตใจ เพิ่มมูลค่าในการลงทุนให้กับผู้ที่ได้ครอบครอง รวมถึงราคาทิ่ดินยังเพิ่มขึ้นทุกปี
- ดันยอดขายไตรมาส 2 พุ่งทะลุ 2,500 ล้านบาทภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์
- ขณะที่ลูกค้ายังเข้าชมโครงการต่อเนื่องจากความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยสูงสุด ในการเข้าเยี่ยมชมโครงการ ที่คุมเข้มด้วยมาตรการ “Sansiri Care… เพราะเราห่วงใย” พร้อมยกการระดับดูแลเต็มขั้นในทุกสถานการณ์
- สร้างปรากฎการณ์ สะเทือนวงการอสังหาฯ จากแนวโน้มยอดขายที่ดีตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส ล่าสุดประกาศปรับเป้ายอดขายไตรมาส 2 จาก 8,500 ล้านบาท ทะยานสู่ 10,000 ล้านบาทแล้ว
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 2,500 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ของต้นไตรมาสที่ 2 โดยสามารถปิดการขาย “ไทเกอร์ เลน” ลักซ์ชัวรีโฮมออฟฟิศ บนที่สุดของทำเลทอง ไพร์มโลเคชัน ตำแหน่งฮวงจุ้ยท้องมังกรที่หายากใจกลางย่านเสือป่า ที่เปิดขายพร้อมเข้าอยู่ในราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท จากศักยภาพของทำเลที่เหมาะสมกับการทำธุรกิจการค้า นับเป็นทำเลที่สำคัญและเป็นที่ต้องการมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพราะเป็นทั้งศูนย์กลางทางวัฒนธรรมเก่าแก่และพื้นที่ธุรกิจการค้าที่สำคัญของไทยมานานกว่า 200 ปี ทั้งยังเป็นย่าน CBD ของชาวไทยเชื้อสายจีน แห่งแรกในประเทศไทย ปัจจุบันติดอันดับ Top 10 ราคาที่ดินที่สูงสุดในประเทศไทยด้วยมูลค่าที่ดินสูงขึ้น 3.8% ต่อปี และราคาที่ดินโซนเสือป่า-เยาวราช มูลค่าที่ดินสูงขึ้น 3.5% ต่อปี (ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย)
นอกจากนี้ ความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ยของชาวจีน ทำเลที่ตั้งของโครงการยังอยู่ในตำแหน่งท้องมังกร ที่มีความโดดเด่นในด้านการเดินทางและการค้าที่เสริมความเจริญรุ่งเรืองและอุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่คำนึงถึงศักยภาพเพื่อการต่อยอดธุรกิจ และมองเห็นความคุ้มค่าจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่ส่งต่อให้ลูกหลานได้ รวมทั้งความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยาย ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับทำเลเดิมที่เปรียบเป็นทรัพย์สมบัติเพิ่มมูลค่าขึ้น บนทำเลที่มีมูลค่าสูงอย่างไม่สิ้นสุด ส่งผลให้โครงการประสบความสำเร็จสามารถปิดการขายใน 11 ยูนิตในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีจากการเปิดตัวโครงการ
นอกจากนี้ปัจจัยสนับสนุนหลักยังมาจากกลยุทธ์ความแข็งแกร่งของแสนสิริ ในการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ในการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย รวมไปถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง มาตรฐานแสนสิริ พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่ ซึ่งเมื่อรวมกับการนำเสนอแคมเปญ ที่สามารถตอบรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ที่พัฒนามาจากความเข้าใจใน Customer Insight จากสถานการณ์อสังหาฯ ในภาวะปัจจุบัน ที่กลุ่มลูกค้ายังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยต่อเนื่องขณะที่มีการตัดสินใจที่มากขึ้น จากสถานการณ์ โควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทั้งหมดจึงส่งผลให้ประสบความสำเร็จปิดการขายโครงการและสร้างยอดขายที่ดีตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของไตรมาส 2
จากความสำเร็จที่สะท้อนดีมานต์ที่อยู่อาศํยระดับบนที่ยังมีต่อเนื่อง บริษัทยังคาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการ “เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ” หนึ่งในคอนโดมิเนียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยยูนิตพักอาศัยเพียงชั้นละ 4 ยูนิต จำนวนเพียง 127 ยูนิต บนที่ดินขนาด 2 ไร่ติดถนนเส้นหลักของทองหล่อ ทำเลที่เป็นมรดกทรงคุณค่าของกรุงเทพฯอันดับต้นๆ ซึ่งได้รับความสนใจทั้งจากกลุ่มนักลงทุนและซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงในสัดส่วน 50:50 % จากศักยภาพของทำเลทองหล่อ ที่ราคาที่ดินสูงขึ้นต่อเนื่องในทุกๆ ปี ล่าสุดเพิ่มขึ้นถึง 200% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ข้อมูลโดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้) นอกจากนี้ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ ยังแตกต่างจากโครงการอื่นในย่านเดียวกัน ในเรื่องเอกลักษณ์ที่เกิดจากความเข้าถึงและจุดเด่นของโครงการ ในการเป็นโครงการที่มีคุณค่าเหนือกาลเวลา ซึ่งพบว่ากลุ่มเป้าหมายของโครงการ ประกอบด้วย กลุ่มที่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่คุ้นเคยที่ต้องการการอยู่อาศัยที่เปรียบเหมือนบ้านแต่ชื่นชอบความสะดวกสบายในรูปแบบคอนโดมิเนียม
ด้วยยูนิตที่ใหญ่กว่าปกติ จึงตอบโจทย์ความต้องการและความชอบของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้จากการนำเสนอบริการ เทียบเท่าบริการจากโรงแรมชั้นนำเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์ในทุกด้าน เข้าใจไลฟ์สไตล์ และความต้องการเฉพาะบุคคล ด้วยทีม All Suite Butler ที่ผ่านการอบรมหลักสูตร British Butler Institute เพื่อตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์อย่างรอบด้านและ ทีมงาน PLUS Property ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลลูกบ้านกว่า 20 ปี และมีประสบการณ์ดูแลลูกบ้านระดับลักซ์ชัวรี่กว่า 5 ปี รวมถึงการมีบริการรถลีมูซีนสำหรับลูกบ้านที่สามารถเรียกใช้บริการได้แบบเป็นครอบครัว และบริการรับจอดรถยนต์ (Valet Parking) ยังส่งผลให้โครงการได้รับการตอบรับและมีอัตราผลตอบแทนในการลงทุนสูง โดยมีอัตราปล่อยเช่าสูงสุดถึง 1,200 ต่อตารางเมตร มียีลด์สูงถึง 5% ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการมียอดขายแล้วถึง 95% และคาดว่าจะปิดการขายโครงการได้ในเร็วๆ นี้
“ความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจที่เข้าใจและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี และความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ที่คุมเข้มด้วยมาตรการ “Sansiri Care… เพราะเราห่วงใย” พร้อมยกการระดับดูแลเต็มขั้นในทุกสถานการณ์ ที่ส่งผลให้ลูกค้ายังเข้าเยี่ยมชมโครงการต่อเนื่อง รวมถึงการรุกการขายในทุกช่องทางตอบโจทย์คนอยากมีบ้านในยุคโควิด ด้วยMulti-Channel ซื้อขายครบในทุกช่องทาง ซื้อและเยี่ยมชมโครงการง่ายแค่ปลายนิ้ว ได้แก่ ช่องทางที่1 : Sansiri Virtual Sales Gallery เยี่ยมชมโครงการเสมือนจริงบน www.sansiri.com, แสนสิริ ไลน์ ออฟฟิเชียล ช่องทางที่ 2 Line Official Account สนในโครงการไหน แชทคุยได้ตลอดที่ @Sansiriplc ช่องทางที่ 3 Facebook Sansiri PLC เกาะติดทุกข่าวสารทักผ่าน inbox ได้เลย ช่องทางที่ 4 Visit Site เยี่ยมชมโครงการแบบ private tour ที่ทั้งปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ช่องทางที่ 5 24 Hrs. Online Booking จองคอนโดออนไลน์ได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง และช่องทางที่ 6 Call Centre อยากรู้เรื่องไหน แสนสิริพร้อมดูแล ที่โทร 1685 ส่งผลให้บริษัทสร้างยอดขายได้ถึง 2,500 ล้านบาท ในระยะเวลาที่รวดเร็วเพียง 2 สัปดาห์ ทำให้บริษัทมองเห็นถึงแนวโน้มธุรกิจที่ดี ล่าสุดจึงได้มีการพิจารณาปรับเป้าหมายยอดขายไตรมาส 2 จากเดิมที่ตั้งไว้ 8,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายใหม่ที่วางไว้” นายอุทัย กล่าว.