วิสาหกิจเพื่อสังคมออกแคมเปญชวนช่วยกันหยุดภาวะยากจน
วิสาหกิจเพื่อสังคม Thankyou ออกแคมเปญชวนช่วยกันหยุดภาวะยากจนขั้นรุนแรงผ่านการขอความร่วมมือจาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่พี แอนด์ จี และ ยูนิลีเวอร์
กรุงเทพฯ 29 กันยายน 2563 – ในวันนี้ Thankyou วิสาหกิจเพื่อสังคมในออสเตรเลียได้ประกาศเชิญชวน พี แอนด์ จี (P&G) และ ยูนิลีเวอร์ (Unilever) สองบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ระดับโลกและมีอิทธิพลมากที่สุด ให้มามีส่วนร่วมในการผลิตและกระจายสินค้าของ Thankyou ไปทั่วโลกเพื่อร่วมมือยุติภาวะความยากจนขั้นสุด ทาง Thankyou ได้เชิญชวนผู้คนทั่วโลกให้เข้ามามีส่วนร่วมและแสดงพลังอันเหนียวแน่นของกลุ่มคนมากมายที่เชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลงผ่านแคมเปญที่ชื่อว่า No Small Plan เพื่อโน้มน้าวใจบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ให้สนับสนุนการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ Thankyou นำเสนอสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายไปจนถึงของใช้สำหรับเด็ก โดยมีวัตถุประสงค์อันแน่วแน่ในการจัดหาเงินทุนให้กับโครงการที่เปลี่ยนแปลงชีวิตอีกมากมาย
Thankyou จัดตั้งขึ้นเพื่ออุดช่องว่างระหว่างประชากรกว่า 736 ล้านคน* ทั่วโลกที่ต้องประสบความยากจนข้นแค้น และเม็ดเงิน 63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ใช้จ่ายไปกับสินค้าอุปโภคบริโภคในแต่ละปี** โดย Thankyou จะนำผลตอบแทนทุกบาททุกสตางค์หลังจากหักต้นทุนทั้งหมดในการดำเนินการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพเยี่ยมให้แก่ผู้คนเพื่อการยุติภาวะยากจนขั้นรุนแรง โดย Thankyou หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถพลิกกระแสบริโภคนิยมได้ยั่งยืนตลอดไป
แดเนียล ฟลินน์ ผู้ก่อตั้ง Thankyou เมื่อปี 2551 ร่วมกับจัสทีน ฟลินน์ และจาร์ริด เบิร์นส์ กล่าวว่า “ขณะที่ผู้คนใช้จ่ายไปกับสินค้าอุปโภคบริโภคด้วยเงิน 63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละปี ก็ยังมีผู้คนอีก 736 ล้านคนที่ต้องจมปลักอยู่กับความยากจนสุดขีด เราเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจตามปกติมันไม่ปกติเลย แต่เรายังเชื่อมั่นว่าหากเราทุกคนร่วมมือกัน ทั้งผู้คนมากมายและบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ของโลกทั้งสอง เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงความยากจนข้นแค้นนี้ได้ โดยการระดมเม็ดเงินที่ใช้จ่ายไปกับสินค้าดังกล่าวไปช่วยยุติภาวะยากจนขั้นรุนแรงนี้”
ปัจจุบัน Thankyou วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ใน 2 ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกเท่านั้น ซึ่งก็คือออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แต่ด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้ตัวเลขความยากจนทั่วโลกเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับความต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เช่น เจลล้างมือ ทางบริษัทจึงตระหนักว่าถึงเวลาแล้วสำหรับการขยายธุรกิจ และต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วด้วย ทั้งนี้หาก พี แอนด์ จี และ ยูนิลีเวอร์ เลือกตอบรับคำเชิญของ Thankyou พวกเขาอาจพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และกำหนดเส้นทางของเม็ดเงินผู้บริโภคหลายล้านดอลลาร์เพื่อยุติความยากจนขั้นรุนแรง
ในส่วนของการจูงใจให้ พี แอนด์ จี และ ยูนิลีเวอร์ ตอบรับคำเชิญว่า “I’m in” และร่วมงานกับ Thankyou เพื่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ Thankyou เชื่อว่าสองบริษัทยักษ์ใหญ่ควรได้รับรู้ถึงเสียงส่วนรวมที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่จากผู้คนทั่วโลกที่มารวมตัวเคลื่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน เพื่อยุติภาวะความยากจนขั้นสุด ซึ่งคุณสามารถสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้กับ Thankyou ได้ด้วยการแชร์วิดีโอนี้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียโดยทำตามขั้นตอนดังนี้
- โพสต์รูปภาพหรือแชร์ข้อความของแคมเปญบนโซเชียลมีเดียว่า “I’m in, are you?”
- แท็ก @proctergamble และ @unilever
- ติดแฮชแท็ก #thankyoutotheworld
- แชร์วิดีโอของ Thankyou ให้กระจายออกไปอย่างแพร่พลาย
Thankyou จะมีการจัดประชุมออนไลน์ (Virtual Meetings) กับทางพี แอนด์ จี และ ยูนิลีเวอร์ เมื่อแคมเปญสิ้นสุดลง และในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ Thankyou จะประกาศว่าบริษัทใดตกลงจะ “ร่วมด้วย” ผ่านหนึ่งในจอดิจิทัลบิลบอร์ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ ไทม์สแควร์ ในมหานครนิวยอร์ก
แคมเปญของ Thankyou มีชื่อว่า “No Small Plan” เพราะการเปลี่ยนแปลงวิถีแห่งประวัติศาสตร์โดยการปรับเส้นทางของเม็ดเงินผู้บริโภคหลายล้านดอลลาร์ไปสู่การยุติภาวะความยากจนขั้นสุดในช่วงชีวิตนี้ไม่ใช่แผนการเล็กๆ อย่างแน่นอน