คปภ. เผย 7 เดือนเบี้ยประกันโต 3.26%
คปภรายงานยอดขายประกันชีวิต 7 เดือน มีเบี้ยรับ 4.3 แสนล้านบาท ขยายตัว 3.26% ช่องทางขายประกันสุดฮิต ผ่านตัวแทน 48.43% มาเป็นอันดับหนึ่ง
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงการรับประกันภัยผ่านช่องทางการจำหน่าย ในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.59) ว่ามีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 437,430 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.26% โดยแบ่งเป็นเบี้ยจากธุรกิจประกันวินาศภัย 121,019 ล้านบาท ขยายตัวลดลง 0.21% และเบี้ยจากธุรกิจประกันชีวิต 316,411 ล้านบาท ขยายตัว 4.66% ซึ่งช่องทางการขายประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ การขายผ่าน “ ตัวแทน ” โดยมีเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 153,248 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 48.43% ของเบี้ยประกันชีวิตรับรวมทุกช่องทาง ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.83%
รองลงมาได้แก่การขายผ่าน “ ธนาคาร ” ( Bancassurance ) มีเบี้ยประกันชีวิตทั้งสิ้น 142,272 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 44.96% ขยายตัว 6.35% ตามมาด้วยการขายผ่าน “ นายหน้า ” มีเบี้ยประกันชีวิตทั้งสิ้น 8,454 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.67% ขยายตัวอย่างโดดเด่นที่ 59.47% โดยจำแนกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับ “ปีแรก” ขายผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้งสิ้น 66,404 ล้านบาท หดตัว 5.35% โดยช่องทางขายผ่าน “ ธนาคาร ” มีเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกสูงสุด 33,393 ล้านบาท ถือครองสัดส่วน 50.29% ของเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกรวมทุกช่องทาง หดตัว 10.64% ในขณะที่ช่องทางขายผ่าน “ ตัวแทน ” มีเบี้ยประกันชีวิตรับ 27,012 ล้านบาท ถือครองสัดส่วน 40.68% ของเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกรวมทุกช่องทาง หดตัว 0.88%
ในส่วนของเบี้ยประกันชีวิตรับ “ ปีต่อไป ” ขายผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 220,527 ล้านบาท ขยายตัว 7.75% โดยช่อง ทางขายผ่าน “ ตัวแทน ” มีเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปสูงสุด 121,369 ล้านบาท ถือครองสัดส่วน 55.04% ของเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปรวมทุกช่องทางขยายตัว 4.75% ในส่วนช่องทางขายผ่าน “ ธนาคาร ” มีเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป จำนวน 86,387 ล้านบาท ถือครองสัดส่วน 39.17% ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง ขยายตัว 11.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับ “ จ่ายครั้งเดียว ” ขายผ่านช่องทางต่างๆ มีจำนวนทั้งสิ้น 29,480 ล้านบาท ขยายตัว 7.20% โดยช่องทางขายผ่าน “ ธนาคาร ” มีเบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียวสูงสุด 22,492 ล้านบาท ถือครองส่วนแบ่งตลาด 76.29% ของเบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียวรวมทุกช่องทาง ขยายตัว 18.46% ในขณะที่ช่องทางขายผ่าน“ ตัวแทน ” มีเบี้ยประกันชีวิตจ่ายครั้งเดียวจำนวน 4,867 ล้านบาท ถือครองส่วนแบ่งตลาด 16.51% ของเบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียวรวมทุกช่องทาง หดตัว 17.76%.
ในขณะที่ช่องทางการขายประกันวินาศภัยที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ การขายผ่าน “ นายหน้า ” โดยมีจำนวนเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 67,543 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 55.81 ของเบี้ยประกันวินาศภัยรับรวม ทุกช่องทาง ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 2.51 รองลงมาได้แก่การขายผ่าน “ ตัวแทน ” มีเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งสิ้น 19,601 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 16.20 ขยายตัวร้อยละ 8.12 ตามมาด้วยการขายผ่าน “ ธนาคาร ” ( Bancassurance ) มีเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งสิ้น 15,795 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.05 หดตัวร้อยละ 6.91
ทั้งนี้ หากจำแนกตามผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางต่างๆ พบว่ามีเบี้ยประกันอัคคีภัยขายผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 6,261 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 4.66 โดยการขายประกันอัคคีภัยผ่านช่องทาง “ ธนาคาร ” มีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด 2,837 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45.31 ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง ขยายตัวร้อยละ 0.09 ในขณะที่เบี้ยประกันอัคคีภัยที่ขายผ่าน “ นายหน้า ” มีเบี้ยประกันภัยรับ 2,007 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.06 ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง หดตัวร้อยละ 1.74
ส่วนเบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่งขายผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 3,024 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 3.36 โดยช่องทางขายผ่าน “ นายหน้า ” มีเบี้ยประกันภัยรับ 2,159 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 71.39 ของ เบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง หดตัวร้อยละ 0.80 รองลงมาเป็นช่องทาง “ ตัวแทน ” มีเบี้ยประกันภัยรับ 344 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.39 ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง หดตัวร้อยละ 2.38
ในส่วนของเบี้ยประกันภัยรถขายผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 70,535 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 0.06 โดยช่องทางขายประกันภัยรถผ่าน “ นายหน้า ” มีเบี้ยประกันภัยรับ 43,379 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61.50 ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง ขยายตัวร้อยละ 0.46 และช่องทางขายประกันภัยรถผ่าน “ ตัวแทน ” มีเบี้ยประกันภัยรับ 15,965 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.63 ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง ขยายตัว ร้อยละ 8.83
สำหรับเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ดขายผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 41,199 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.49 โดยช่องทางขายประกันภัยเบ็ดเตล็ดผ่าน “ นายหน้า ” มีเบี้ยประกันภัยรับ 19,998 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 48.54 ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง ขยายตัวร้อยละ 8.13 และช่องทางขายประกันภัยเบ็ดเตล็ดผ่าน “ ธนาคาร ” มีเบี้ยประกันภัยรับ 7,301 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.72 ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกช่องทาง หดตัวร้อยละ 8.44 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่าสภาพสังคมปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตั้งแต่รูปแบบโครงสร้างของสังคมไทย รูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คน รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั้งเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ การพัฒนาของเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการสื่อสาร ส่งผลให้สภาพแวดล้อมตลาด และการแข่งขันมีการเปลี่ยนแปลงไป จากยุคก่อนๆ ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น Financial Technology : FinTech ตลอดจนทิศทางยุทธศาสตร์ของภาครัฐที่มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุค “ Thailand 4.0 ” ซึ่งถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว เศรษฐกิจจะขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรม ดังนั้น จึงถือเป็นเรื่องท้าทายสำหรับบริษัทประกันภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนกลางประกันภัย ทั้งตัวแทน/นายหน้า และธนาคาร ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่องทางการจำหน่ายที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคสูงสุด จำเป็นจะต้องมีการพัฒนาองค์ความรู้ ให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ ตลอดจนต้องให้ความสำคัญกับบริการหลังการขาย และหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างมาตรฐานการทำงานให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่วิชาชีพคนกลางประกันภัย ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ประกันภัยภัย ประชาชนควรศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครอง รายละเอียดและข้อยกเว้นให้เข้าใจเสียก่อน อีกทั้งควรประเมินความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยของตนเองเพื่อให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด