GISTDA ร่วมมือกับ “โครงการชีวานุรักษ์” นำเทคโนโลยีอวกาศติดตามนกกาฮัง

GISTDA หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนเพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ และทดสอบระบบรับและส่งข้อมูลพิกัด โดยใช้เทคโนโลยีจากระบบดาวเทียมนำร่อง GNSS ก่อนเตรียมติดตั้งที่ตัวนกกาฮังเพื่อฟื้นฟูประชากรนกกาฮังที่สูญหายไปจากป่าภาคเหนือนานกว่า 20 ปี โดยมีความร่วมมือกับ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหนาชน) และสวนสัตว์เปิดเขาเขียว องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้แผนงาน “โครงการชีวานุรักษ์ พันธะกิจเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ A mission for biodiverdity”
นกกาฮัง หรือ นกกก นกกะวะ นกอีฮาก มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น เป็นนกเงือกขนาดใหญ่ที่สุดที่พบในประเทศไทย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศอย่างมาก ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวและพฤติกรรมที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันใกล้จะสูญพันธุ์ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักดูนกและผู้สนใจธรรมชาติ มักพบบริเวณป่าดิบชื้น และป่าเบญจพรรณ จนถึงความสูง 1,600 – 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลซึ่งมีต้นไม้สูง ๆ มักอยู่กันเป็นฝูงเล็ก ๆ ฤดูผสมพันธุ์จะอยู่กันเป็นคู่ ๆ เวลาบินเสียงกระพือปีกจะมีเสียงดัง

ดร.ศิริลักษณ์ พฤกษ์ปิติกุล รองผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า โครงการชีวานุรักษ์ เป็นโครงการที่ GISTDA มีความร่วมมือกับ บางจาก เขาเขียว ภายใต้แผนงาน “โครงการชีวานุรักษ์ พันธะกิจเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ A mission for biodiverdity” โดยร่วมพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือ GNSS ในการติดตามนกกาฮังในพื้นที่ อช.เเจ้ซ้อน ครั้งนี้ ที่เดินทางไป เราจะไปศึกษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ และทดสอบการรับ-ส่งข้อมูลของ GNSS มีข้อจำกัด หรือติดปัญหาการรับส่งสัญญาณหรือไม่ ก่อนการติดตั้งที่ตัวนกจริงๆ โดยกำหนดจะปล่อยนก 1 คู่ ภายในเดือนสิงหาคม – กันยายน 2568

GISTDA ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนา อุปกรณ์ติดตามตัวสัตว์ที่มีน้ำหนักเบาและราคาประหยัด ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมและอวกาศ เพื่อติดตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตของนกกาฮัง โดยในวันที่ 24 เมษายน 2568 ได้นำแบบจำลองอุปกรณ์มาติดตั้งและทดสอบใช้งานกับนกกาฮังเพศผู้และเพศเมียจำนวน 2 ตัว เพื่อประเมินระดับการยอมรับของสัตว์ ก่อนเข้าสู่กระบวนการ soft release หรือการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง ซึ่งนับเป็นนกคู่ที่ 4 ที่เข้าร่วมโครงการทดลองปล่อยในภาคเหนือ เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าหายากครั้งสำคัญ ที่ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทยทุกภาคส่วนสามารถมีส่วนร่วมในภารกิจครั้งสำคัญนี้ เพื่อคืนชีวิตให้กับธรรมชาติและสัตว์ป่าไทย

การทดสอบอุปกรณ์ติดตามนกกาฮัง ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการทำงานของระบบรับและส่งข้อมูลพิกัด โดยอาศัยเทคโนโลยีจากระบบดาวเทียมนำร่อง GNSS (Global Navigation Satellite System) ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งบนพื้นโลกได้อย่างแม่นยำ โดยใช้โมดูลรับสัญญาณ GNSS ในการดึงข้อมูลพิกัด (Latitude และ Longitude) และทดสอบส่งข้อมูลเหล่านี้ผ่านทั้งระบบสื่อสาร เช่น Wi-Fi หรือ ระบบดาวเทียม ไปยังฐานข้อมูลปลายทาง เพื่อเป็นเพื่อใช้ในการประมวลผล วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลต่อไป รองผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : GISTDA ร่วมมือ University College Dublin ลงนามพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและกำลังคน