เคอรี่ โลจิสติคส์ รายได้โตสวนกระแสติดต่อกัน 2 ปีซ้อน
เคอรี่ โลจิสติคส์ ปลื้มรายได้เติบโตต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน สวนกระแสเศรษฐกิจซบ โชว์ผลประกอบการ ปี 2565 รายได้โต 32% สูงกว่าเป้าหมาย ในขณะที่ปี 64 โต 22% เปิดแผนปี 2566 เดินหน้ารุกธุรกิจเต็มสูบ ตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 25% พร้อมปิดกว้างหาพันธมิตรหวังต่อยอดธุรกิจ จ่อขยายคลังสินค้าเพิ่มเตรียมพร้อมรับลูกค้าทุกอุตสาหกรรม มั่นใจศักยภาพมาตรฐานการให้บริการคลังสินค้า และมีเครือข่ายทั่วโลก ตอบโจทย์ลูกค้า
นายพงศ์ศิริ ศิริธร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทเคอรี่ โลจิสติคส์(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในกลุ่ม Kerry Logistics Network Limited หรือ KLN ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานของบริษัทในปีรอบ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เติบโตสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจในปี 2565 บริษัทมีรายได้เติบโต 32% สูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ที่ 30% โดยมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการคลังสินค้า 76% และการให้บริการด้านขนส่งสินค้า 24% ส่วนในปี 2564 รายได้เติบโต 22%
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 25% โดยเฉพาะในส่วนของการให้บริการด้านคลังสินค้า ที่ได้เตรียมการขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการขยายฐานลูกค้าใหม่ในทุกอุตสาหกรรมเพื่อให้มีความหลากหลาย โดยยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตสูง
นายพงศ์ศิริ กล่าวอีกว่า หลังจากสถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลาย และมีการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้แนวโน้มของอุตสาหกรรมคลังสินค้าและขนส่ง มีการเติบโตสูง ในขณะเดียวกันการแข่งขันก็สูงขึ้นด้วย ซึ่งบริษัทมั่นใจในศักยภาพในการแข่งขัน ด้วยความพร้อม ในมาตรฐานการให้บริการ และในขณะเดียวกันบริษัทยังพร้อมเปิดกว้างรับพันธมิตรทางธุรกิจในลักษณะ M&A ที่สามารถช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขัน และต่อยอดธุรกิจร่วมกันในทุกๆด้าน
“การให้บริการคลังสินค้า และขนส่ง กลับมาแข่งขันสูงขึ้นหลังเปิดประเทศ ซึ่งบริษัทสามารถฟันฝ่ามาได้ จากผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา เคอรี่ โลจิสติคส์ มีรายได้สวนกระแส เติบโตกว่าเป้าหมาย ด้วยจากประสบการณ์ด้านการให้บริการอย่างมีศักยภาพ บุคลากรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีประสบการณ์สูง คลังสินค้าของเรามีความทันสมัย มีมาตรฐาน มีเครือข่ายการบริการทั่วโลก จึงมั่นใจคุณสมบัติและความพร้อมของบริษัท เป็นจุดแข็งที่สามารถแข่งขันและเพิ่มลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมได้” นายพงศ์ศิริ กล่าว