เฮงเค็ล ประสบความสำเร็จในการรักษาโมเมนตัมการเติบโต ด้วยยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นถึงสองหลัก
เฮงเค็ล ประสบความสำเร็จในการรักษาโมเมนตัมการเติบโต ด้วยการทำยอดขายเพิ่มสูงขึ้นถึงสองหลักในไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 2565 มียอดขายกลุ่มราวๆ 6 พันล้านยูโร นับเป็นยอดขายรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีการเติบโตปกติเพิ่มขึ้นในอัตรา 11.3% โดยการเติบโตของยอดขายนี้ เกิดจากการปรับราคาสินค้าในทุกหน่วยธุรกิจและในทุกภูมิภาค ปริมาณการขายลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเพราะเป็นธุรกิจของผู้บริโภค ในเชิงตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 17.3%
“ด้วยสภาพแวดล้อมของตลาดที่ยังคงมีความท้าทายอย่างมาก เราได้ดำเนินกลยุทธ์เพื่อให้ได้บรรลุเป้ายอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นถึงสองหลัก นี่เป็นสิ่งที่เราต้องขอบคุณทุกหน่วยธุรกิจและทุกภาคส่วนอย่างมาก ที่ได้มีส่วนช่วยในการดำเนินงานเพื่อธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นถึงสองหลักจากหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาว ในไตรมาส 3”
“คาร์สเทน โนเบล” ประธานกรรมการบริหาร เฮงเค็ล กล่าว
“การเติบโตของยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นถึงสองหลักในไตรมาส 3 ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ในระยะยาวถึงศักยภาพของพอร์ตโฟลิโอที่ทั้งสมดุลและแข็งแกร่งของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จและเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม นอกจากนี้เราได้ขับเคลื่อนการวางแผนดำเนินการเรื่องมาตรฐานในการบริหารพอร์ต โดยการบริหารจัดการราคาอย่างเข้มงวดและดูแลเรื่องการพัฒนาศักยภาพ อีกทั้งเราได้รวมกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าด้วยกันและเรากำลังดำเนินการวางแผนในการทำโครงสร้างใหม่ การดำเนินงานที่แข็งแกร่งนี้ เป็นความสำเร็จของทีมเราทั่วโลก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวของเฮงเค็ลในช่วงเวลาที่แสนจะท้าทายนี้”
ผลการดำเนินยอดขาย
การเติบโตของยอดขายถึงสองหลักในไตรมาส 3 ของเฮงเค็ลนั้น ขับเคลื่อนหลักๆโดยหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาว ทุกหน่วยธุรกิจได้มีการเพิ่มยอดขายที่มีนัยสำคัญและยอดขายปกติก็เพิ่มถึงสองหลัก การดำเนินงานนี้ได้รับการขับเคลื่อนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายดังกล่าวในทุกภูมิภาค รวมถึงการสนับสนุนจากหน่วยธุรกิจบรรจุภัณฑ์ สินค้าผู้บริโภค ธุรกิจยานยนต์และโลหะ
หน่วยธุรกิจบิวตี้แคร์ บรรลุเป้าในการเพิ่มยอดขายเป็นบวกสำหรับไตรมาส 3 ผลิตภัณฑ์สำหรับผมมีการเติบโตอย่างมั่นคง ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมีการเติบโตถึงสองหลักซึ่งค่อยๆฟื้นตัวมาจากในไตรมาสก่อนที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ผลประกอบการมีความมั่นคงทั้งในส่วนธุรกิจทำสีผมและธุรกิจบำรุงผม โดยขับเคลื่อนจากการขยายตลาด ในไตรมาสที่ 3 ผลิตภัณฑ์สำหรับช่างมืออาชีพสามารถสร้างผลประกอบการที่ดีในช่วงครึ่งปีแรกและมีการเติบโตของยอดขายที่ดีโดยเพิ่มขึ้นเป็นสองหลักในตลาดเกิดใหม่
หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน ทำให้การเติบโตของยอดขายเติบโตอย่างมีนัยสำคัญโดยการเติบโตหลักๆเกิดจากหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้าง
แนวโน้มในอนาคตของเฮงเค็ล
“เรามองการณ์ไกลไปถึงเดือนต่อๆไปในปีงบประมาณ 2565 เรากำลังดำเนินธุรกิจอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดและอยู่บนความไม่แน่นอน แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่อัตราเงินเฟ้อและค่าวัตถุดิบกับพลังงานเพิ่มขึ้น เรายังคงมีการดำเนินการทางธุรกิจที่มั่นคงในช่วง 9 เดือนแรก แม้ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อธุรกิจเรา เรายังคงมีแนวทางที่จะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายและเพิ่มกำไรตลอดทั้งปี 2565” คาร์สเทน โนเบลกล่าว
เฮงเค็ล คาดหวังยอดขายในระดับกลุ่มไว้ที่ +7.0% ถึง +8.0% ในปีงบประมาณ 2565 (ก่อนหน้านี้อยู่ที่ +5.5% ถึง +7.5%) และผลตอบแทนจากการขายที่ปรับแล้ว (EBIT margin) อยู่ในช่วง 10.0% ถึง 11.0% (ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 9.0% ถึง 10.0%)
นอกจากนี้เฮงเค็ลยังมีเป้าหมายในปี 2565 ดังนี้
ปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายในช่วง 450 ถึง 500 ล้านยูโร (ไม่เปลี่ยนแปลง)
เงินสดจ่ายสำหรับการลงทุนทั้งทรัพย์สิน โรงงานกับอุปกรณ์และสินทรัพย์ไม่มีตัวตนให้อยู่ที่ราวๆ 650 ล้านยูโร (ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 700 ล้านยูโร)
แนวทางดังกล่าวนั้นจะเกิดขึ้นจริงในกรณีที่ไม่ได้เกิดการปิดธุรกิจหรือระงับการผลิตจากการแพร่ระบาดของโรคระบาดทั้งในอุตสาหกรรมและการขายปลีก และธุรกิจต้องไม่ได้รับผลกระทบในทางลบจากสงครามในยูเครน นอกจากนี้แนวทางของเราจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อไม่มีการระงับการผลิตในอุตสาหกรรมอันเนื่องมาจากการขาดแคลนก๊าซในยุโรป