คาดมาเลเซียได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ปีหน้ากว่า 9 ล้านคน

กัวลาลัมเปอร์ : นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซินระบุว่า ชาวมาเลเซียประมาณ 9.6 ล้านคน หรือประมาณ 30% ของประชากรทั้งประเทศจะได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในปีหน้า
โดยนายกฯมาเลเซียย้ำว่า รัฐบาลได้ลงนามในข้อตกลงจัดหาวัคซีนโควิด-19 กับสองบริษัทผู้ผลิตไปแล้ว
นอกจากข้อตกลงที่ทำกับบริษัทไฟเซอร์ที่มีการประกาศเมื่อวันที่ 27 พ.ย. มูห์ยิดดินระบุว่า มาเลเซียได้ลงนามในข้อตกลงกับบริษัทโคแวกซ์เพื่อให้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชากร 10% ของประเทศ
มาเลเซียจะได้รับวัคซีนในหลายระยะตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2564 อ้างอิงจากถ้อยแถลงของเขาในการประชุมประจำปีของพรรค Parti Pribumi Bersatu Malaysia (Bersatu) ซึ่งเป็นการประชุมออนไลน์ในปีนี้จากสถานการณ์โควิด-19
มูห์ยิดดิน ซึ่งเป็นประธานพรรค Bersatu ระบุว่า เขามีความเชื่อมั่นว่า จากการเข้าถึงวัคซีนและการพยายามสกัดวงจรการติดเชื้อ มาเลเซียจะสามารถควบคุมแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ เขายังได้ย้ำถึงความสำคัญในการประสานความร่วมมือกับหลายประเทศในภูมิภาคเพื่อต่อสู้กับไวรัส และฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงการเข้าถึงวัคซีน
ในถ้อยแถลง นายกฯ เสริมว่า เขาหวังว่างบประมาณปี 2564 ซึ่งผ่านในขั้นตอนนโยบายแล้วเมื่อวันที่ 26 พ.ย. จะผ่านความเห็นชอบจากสภาล่างและวุฒิสภา เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้ตามเป้าหมาย
เขาเสริมว่า มาเลเซียจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อสิ้นสุดการระบาดแล้ว “ เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า เมื่อหมดโควิด-19 แล้ว เราจะจัดการเลือกตั้งทั่วไป”
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. มาเลเซียประกาศว่า ได้ตกลงซื้อวัคซีนโควิด-19 จำนวน 12.8 ล้านโดสจากบริษัทไฟเซอร์ กลายเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ประกาศดีลกับบริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ หลังจากมีการสั่งจองวัคซีนแม้จะมีประเด็นเกี่ยวกับการจัดเก็บวัคซีนในอุณหภูมิต่ำมาก
มูห์ยิดดินระบุว่า มาเลเซียจะเรียงลำดับความสำคัญของผู้ที่จะได้รับวัคซีนกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงก่อน คือกลุ่มผู้ที่ปฏิบัติงานในด่านหน้า ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจและเบาหวาน
มาเลเซีย ซึ่งตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนฟรี กำลังประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่านับตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นมา ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 63,000 รายจนถึงวันที่ 28 พ.ย