พรรค ‘ซูจี’ อ้างได้คะแนนพอตั้งรัฐบาลใหม่
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ระบุว่า ทางพรรคได้คะแนนเสียงจากประชาชนชาวเมียนมาในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย.มากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้
“ เราได้ที่นั่งในสภามากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล หรือบางทีอาจมากกว่าที่ต้องการก็ได้” โฆษกพรรค NLD กล่าวให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 9 พ.ย.
แม้จะยังไม่มีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เขายืนยันว่า นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรค NLD และประธานที่ปรึกษาแห่งรัฐประสบความสำเร็จในการรักษาที่นั่งส.ส.ในสภาล่างไว้ได้ในเขตกอมู
ขณะที่ประธานาธิบดีวิน มินต์ ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรค NLD ในการเลือกตั้งเขตตามเวของนครย่างกุ้ง ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งได้เช่นกัน
การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เมียนมาเปลี่ยนระบบการปกครองจากระบบเผด็จการทหารในปี 2554 และมีประชาชนให้การสนับสนุนเลือกพรรค NLD อย่างถล่มทลายเหมือนครั้งก่อน และคาดว่าพรรคจะได้เป็นพรรครัฐบาลเหมือนเดิม
ภายใต้ระบบการปกครองในปัจจุบันที่มีการแบ่งกับอดีตกลุ่มผู้นำทหาร จะมีการจัดสรรที่นั่งในสภาให้ทหาร 25% และบรรดาผู้นำทหารจะครองตำแหน่งในกระทรวงกลาโหม มหาดไทย และกิจการข้ามพรมแดน
ย้อนไปในการเลือกตั้งปลายปี 2558 พรรค NLD ได้ที่นั่งเกือบ 80% ทั้งในสภาสูงและสภาล่าง แต่ยังคงสร้างความผิดหวังให้กับพันธมิตรชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย ซึ่งพยายามที่จะชนะในการเลือกตั้ง
มีการยกเลิกการเลือกตั้งในบางพื้นที่ รวมถึงรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกองทัพยังคงทำสงครามกับกลุ่มกองทัพยะไข่
เพื่อชดเชยกับการเลือกตั้งที่ถูกยกเลิกไป พรรค NLD จำเป็นต้องชนะอย่างน้อย 322 ที่นั่งในสภา เพื่อให้สามารถบริหารประเทศได้โดยไม่ต้องแต่งตั้งทหาร หรือตัวแทนจากทหารคือพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา
การเลือกตั้งมีขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 1,420 รายในเมียนมา ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสูงถึง 61,377 ราย จนถึงคืนวันที่ 8 พ.ย. มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 1,000 รายต่อวัน
แม้กกต.จะถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการตัดสินใจที่ไม่โปร่งใสก่อนการเลือกตั้ง แต่บรรดาผู้สังเกตการณ์ระบุว่า สถานการณ์การเลือกตั้งมีความยุติธรรม
People’s Alliance for Credible Electronics องค์กรในนครย่างกุ้งเผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ว่า การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสงบ แม้จะอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาด
“ โดยภาพรวม กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสงบ และไม่มีสถานการณ์ความรุนแรงใดๆ ”