ผู้นำอินโดฯประณามเหตุก่อการร้ายในฝรั่งเศส
จาการ์ตา – เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดแห่งอินโดนีเซียกล่าวประณามเหตุโจมตีที่เกิดจาก “ผู้ก่อการร้าย” ในฝรั่งเศส แต่ยังเตือนถึงคำพูดของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงว่าเป็นการ “ดูหมิ่นอิสลาม” และ “ทำลายเอกภาพของชาวมุสลิมทุกหนแห่ง”
องค์การอิสลามอนุรักษ์นิยมในอินโดนีเซีย ( ซึ่งเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดใลก) เรียกร้องให้มีการประท้วงและบอยคอตฝรั่งเศส ด้วยการแชร์ภาพของมาครงเป็นหอยทากที่มีตาสีแดงเหมือนปีศาจ
“เสรีภาพในการแสดงออกที่ทำลายความบริสุทธิ์ที่สูงส่ง คุณค่าความศักด์สิทธิ์ และสัญลักษณ์ของศาสนาเป็นสิ่งที่ผิดมาก ไม่ควรมองว่าเรื่องนี้เป็นความชอบธรรมและควรต้องหยุด” ผู้นำอินโดนีเซีย ระบุในแถลงการณ์
อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า “ การเชื่อมโยงศาสนากับการก่อการร้ายถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมาก เพราะผู้ก่อการร้ายก็คือผู้ก่อการร้าย ”
มือมีดชาวตูนีเซียตะโกนว่า “อัลเลาะห์ อัคบาร์” หรือ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ หลังฆ่าตัดศีรษะหญิงคนหนึ่ง และสังหารอีกสองคนในโบสถ์ที่เมืองนีซเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีมาครงรับปากว่าจะยืนหยัดเพื่อต่อต้านการโจมตีคุณค่าของประเทศฝรั่งเศส และเสรีภาพของความเชื่อ แต่ความเห็นของเขาบางส่วนทั้งก่อนและหลังการโจมตี รวมถึงการเรียกศาสนาอิสลามว่าเป็น “ ศาสนาที่อยู่ในวิกฤตทั่วโลก” ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้ง
ผู้นำอินโดนีเซียไม่ได้เจาะจงว่า ความเห็นใดของมาครงที่เขาอ้างถึงในการให้สัมภาษณ์วันที่ 31 ต.ค.นี้
ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซียระบุเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ว่า กระทรวงได้เรียกประชุมกับเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในวันที่ 3 พ.ย. เกี่ยวกับคำพูดของมาครงที่กระทรวงระบุว่า เป็นการดูหมิ่นอิสลาม และความจริงที่ว่าเขาอนุญาตให้มีการตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนนี้
ทั้งนี้ ชาวมุสลิมหลายหมื่นคนในปากีสถาน บังคลาเทศ รัสเซีย และปาเลสไตน์ได้มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านฝรั่งเศสในวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา