ฟิลิปปินส์ดับจากโควิด-19 สูงทุบสถิติ
มะนิลา : เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นเรื่องอันตรายและเป็นการตัดสินใจที่เร็วเกินไปของฟิลิปปินส์ที่จะลดระยะห่างทางสังคมลงเหลือ 30 ซม.ในขนส่งสาธารณะ เพราะประเทศยังคงมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงทำสถิติใหม่
โดยผู้เชี่ยวชาญและบรรดาแพทย์เตือนว่า การลดระยะห่างระหว่างผู้โดยสารแต่ละคนลงเหลือเพียง 1 ใน 3 ของหนึ่งเมตรอาจทำให้เกิดการติดเชื้อพุ่งขึ้นมาอีก และจะยิ่งทำให้ระยะเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกแรกยาวนานออกไปอีก ตั้งแต่ฟิลิปปินส์เริ่มต่อสู้รับมือกับการระบาดตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา
มีการประกาศผ่อนคลายมาตรการใหม่ในวันที่ 14 ก.ย. ซึ่งเป็นวันที่ฟิลิปปินส์รายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 259 ราย สูงสุดทำสถิติใหม่เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วัน ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 4,630 ราย โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสองเท่าใน 35 วันที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 265,888 ราย สูงที่สุดในอาเซียน
“ นี่จะทำให้มีความเสี่ยงสูง และทำให้ระยะเวลาที่จะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงยาวนานยิ่งขึ้น” แอนโธนี ลีชอน อดีตประธานวิทยาลัยแพทย์แห่งฟิลิปปินส์กล่าวกับสื่อ
“แม้ว่าคุณจะสวมเฟซชีลด์ และหน้ากากอนามัย แต่การลดระยะห่าง จะทำให้เกิดอันตราย” เขากล่าวโดยเสริมว่า ระยะห่าง 1 หรือ 2 เมตร เป็นมาตรฐานที่น้อยที่สุดของนานาชาติ
กฎใหม่ของกระทรวงคมนามคมลดระยะห่างทางสังคมลงเหลือ 75 ซม.ในวันที่ 14 ก.ย. ลดเหลือ 50 ซม.ในวันที่ 28 ก.ย. และลดเหลือ 30 ซม.ในวันที่ 12 ต.ค. และในปัจจุบัน ห้ามมีการพูดคุยสนทนากัน และพูดโทรศัพท์
กระทรวงสาธารณสุจขขอให้ประชาชน “ระมัดระวังตัวสูงสุด” กับสภาพเงื่อนไขในการเดินทาง และถ้าเป็นไปได้ ก็ให้เลือกการเดินทางประเภทอื่น
ระบบขนส่งมวลชนในกรุงมะนิลามีความแออัด ผู้โดยสารต้องเข้าคิวยาว และมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย
“มีแนวโน้มว่าเราจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวของเราจะชะลอตัวช้าลง หากเราทำเช่นนี้ ” แอนโทนีโอ แดนส์ นักระบาดวิทยาให้ความเห็น
โดยแดนส์เป็นสมาชิกของพันธมิตรบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งในเดือนส.ค.เรียกร้องให้มีการล็อกดาวน์กรุงมะนิลา
ซึ่งจะเป็นการเพิ่มเวลาให้กับโรงพยาบาลไม่ต้องรับภาระหนักเกินไป และขอให้ทบทวนเรื่องระยะห่าง 30 ซม.
แผนการนี้ตั้งเป้าหนุนตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลรายงานว่า หดตัวถึง 5.5% ในปีนี้ ซึ่งเป็นสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 35 ปี
“ การขับเคลื่อนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งจะไม่เกิดขึ้น หากยังควบคุมการติดเชื้อไม่ได้” ลีชอน อดีตที่ปรึกษาในการรับมือกับโควิด-19 ของรัฐบาลระบุ