จาการ์ตาล็อกดาวน์อีกรอบ

ชาวกรุงจาการ์ตาหลายคนรู้สึกท้อแท้ ไม่พอใจและวิตกกังวลกับอนาคต หลังคำประกาศของกรุงจาการ์ตาที่มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 10 ล้านคนว่าจะมีมาตรการล็อกดาวน์อีกเป็นครั้งที่สอง โดยเริ่มตั้งแต่ 14 ก.ย.เป็นต้นไปเนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง
สถานบันเทิงถูกสั่งปิด ร้านอาหารและคาเฟ่จะให้บริการเฉพาะเดลิเวอรีและสั่งกลับบ้าน และพนักงานที่ทำงานในภาคส่วนที่ไม่สำคัญจะทำงานอยู่ที่บ้าน
โดยมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งมีชื่อเรียกในประเทศว่า มาตรการ PSBB เริ่มมีการบังคับใช้ครั้งแรกในวันที่ 10 เม.ย. เป็นมาตรการรับมือจากความกังวลเรื่องการติดเชื้อ
แต่ในช่วงเวลานี้ ประชาชนจำนวนมากหวังว่าอานีส บาสวีแดน ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาจะยกเลิกมาตรการที่จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ
อ็อกกี ซาเทรีย ผู้ชายซุปปลาวัย 27 ปี กล่าวกับสื่อว่า “ ผมรู้สึกเหมือนลูกปิงปอง คือกระเด้งไปข้างหน้าแล้วก็ถอยกลับมาอีก”
“ ทำไมเราต้องเจอเรื่องนี้อีก คนในประเทศอื่นไม่เห็นมีเลย รัฐบาลควรยกเลิกไปตลอดดีกว่า” เขาระบุ
เขารู้สึกโกรธ ส่วนใหญ่กับคนที่ละเลยมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมทั้งรัฐบาลที่ไม่เข้มงวดกับผู้ที่ละเมิดกฎ
“ผมเกลียดคนที่ไม่สวมหน้ากาก พูดตามตรง ผมไม่เสิร์ฟอาหารให้คนที่ไม่มีหน้ากาก คนพวกนี้ทำผิดที่สุด” อ็อกกีระบุ โดยเขาคาดว่าธุรกิจจะดิ่งเหวอีกครั้ง
เขาเล่าว่า รายได้ของเขาเพิ่งกลับมาดีขึ้นได้เพียงสองสัปดาห์ แม้จะได้เพียงครึ่งเดียวของรายได้ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม “ผมผิดหวังมาก รัฐบาลควรเข้มงวดกว่านี้”
กรุงจาการ์ตาเริ่มคลายล็อกดาวน์ในวันที่ 4 มิ.ย. แต่ยังคงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมไว้
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. สองวันหลังจากประกาศมาตรการรอบใหม่ ผู้ว่าฯ อานีสโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “ โปรดเตรียมพร้อมให้ดี”
“ ถึงเวลาที่เราต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียวและทำงานด้วยกันเพื่อสู้กับไวรัส” เขาเสริม
จนถึงตอนนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยสะสมจากโควิด-19 ถึง 214,746 ราย โดยเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อในกรุงจาการ์ตา 52,840 ราย มีผู้ป่วยเสียชีวิต 8,650 รายทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิต 1,386 รายในกรุงจาการ์ตา
ผู้ว่าฯอานีสถูกบีบให้ต้องใช้มาตรการคุมเข้มอีกครั้ง หลังจากมีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในกรุงจาการ์ตามากขึ้น และเป็นภาระหนักกับบุคลากรทางการแพทย์
วิกฤตโควิด-19 ทำให้มีคนตกงานหลายล้านคนในอินโดนีเซีย และเศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองทศวรรษ
สื่อได้ไปสำรวจมัสยิด ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดสดพบว่าทุกที่ยังเป็นตามปกติ ไม่เหมือนเดือนเม.ย. คือไม่มีสัญญาณความตื่นตระหนกของประชาชน โดยในเวลานั้น สินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตหมดเกลี้ยงทั้งชั้น โดยเฉพาะบะหมี่สำเร็จรูป น้ำดื่ม และอาหารอื่นๆ
“เราเคยผ่านล็อกดาวน์มาแล้ว ผมมั่นใจว่าทุกอย่างจะเหมือนปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำไมต้องตื่นตกใจด้วย ?” นักช้อปในร้านชื่ออากุสให้ความเห็น