ผู้นำอินโดฯชี้ติดเชื้อพีคสุดเดือนก.ย.
อินโดนีเซีย – เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอินโดนีเซียจะพุ่งขึ้นถึงจุดพีคในเดือนก.ย.นี้ โดยเสริมว่าเขา “เชื่อมั่นมาก” ว่าจะมีวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพภายในสิ้นปีนี้
มีการประเมินเช่นนี้ เนื่องจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีการตรวจหาเชื้อไวรัสต่อจำนวนประชากรต่ำที่สุด มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงทำสถิติใหม่นานสามวันต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อน โดยเป็นอัตราการติดเชื้อ 11%จากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 177,571 ราย
โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของอินโดนีเซียอยู่ที่ 7,505 ราย สูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน
“ จากข้อมูลที่รวบรวมได้จนถึงเช้านี้ ผมคิดว่า จุดพีคจะยังคงเป็นเดือนก.ย.” ประธานาธิบดีโจโคกล่าวกับสื่อต่างชาติที่ทำเนียบประธานาธิบดี “หลังจากนั้น ตัวเลขก็จะลดลง”
แทนที่จะดูแต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด เขาระบุว่า ประชาชนควรให้ความสนใจกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 41,000 รายในวันที่ 31 ส.ค.
ผู้นำอินโดฯคาดการณ์ว่า ตัวเลขจะกลับมาเป็นบวกเพิ่มมากขึ้นในไตรมาสสุดท้าย และเศรษบกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในปีหน้า เนื่องจากมีการใช้จ่ายและการลงทุนเพิ่มขึ้น หลังจากเริ่มมีการฉีดวัคซีนในเดือนม.ค.
การแก้ไขกฎหมายสารพันของรัฐบาล ซึ่งตั้งเป้าจะคลายความเข้มงวดของกฎหมายด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อมลง
จะแล้วเสร็จในเดือนนี้ และจะช่วยหนุนการลงทุน โจโคระบุ
“ เมื่อเราได้รับความเห็นชอบจากสภา ความรู็สึกของผมคือการลงทุนจะเติบโตเพราะเราจะมีกฎหมายและบริการที่ดีขึ้นกว่าเดิมให้กับนักลงทุน” เขาระบุ
เมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงจาการ์ตาและเกาะท่องเที่ยวอย่างบาหลีได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากไวรัส และบาหลียังคงปิดไม่รับนักเดินทางต่างชาติจนถึงเดือนพ.ย. – ธ.ค.
“มาตรการคุมเข้มทางสาธารณสุขยังไม่พร้อมสำหรับสนามบิน โรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว” ประธานาธิบดีโจโคระบุ
โดยโจโคยังระบุว่า เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเกี่ยวกับการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนจีน และการเข้าถึงวัคซีนที่มีราคาไม่แพง
เขาคาดการณ์ว่าอินโดนีเซียจะเริ่มผลิตวัคซีนได้เองในเดือนม.ค.ปีหน้า และระบุว่า ประเทศมีข้อตกลงกับผู้ผลิตในจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจโคย้ำว่า อินโดนีเซียตั้งเป้าจะผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้เองถึง 290 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2564