ศก.ฟิลิปปินส์ถดถอยในรอบ 29 ปี
มะนิลา : เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ดิ่งฮวบลงเกินคาดในไตรมาส 2 เข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 29 ปี โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจถูกกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดและยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. สำนักสถิติแห่งชาติระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มอาเซียนแห่งนี้หดตัวลงถึง 16.5% ในไตรมาสเดือนเม.ย.- มิ.ย. เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นจีดีพีประจำไตรมาสที่ทรุดตัวครั้งใหญ่ที่สุด เป็นประวัติการณ์ย้อนหลังไปถึงปี 2524
โดยตัวเลขจีดีพีของฟิลิปปินส์ หดตัวลดลงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของโพลรอยเตอร์ที่ระบุว่าจะติดลบ 9% และแย่กว่าตัวเลขปรับแก้ในไตรมาสแรกที่หดตัวลง 0.7% โดยจีดีพีที่ปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลลดลง 15.2% ในไตรมาส 2 จากไตรมาสแรกของปีนี้
เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 อาจเลวร้ายลงอีกเมื่อรัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์กรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียงนาน 2 สัปดาห์ตั้งแต่ 4 ส.ค.เป็นต้นไปเนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นมาก
“ เศรษฐกิจฟิลิปปินส์หดตัวดิ่งลงสู่ภาวะถดถอย จากจีดีพีไตรมาส 2 ที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบด้านลบจากมาตรการล็อกดาวน์ที่มีต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริโภค” นิโคลัส อันโตนิโอ มาปา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำ ING ระบุ
“ คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในหลายเดือนข้างหน้านี้ เราไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในส่วนพฤติกรรมการบริโภค เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อจากโควิด-19 ยังคงสูงขึ้น”
โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของฟิลิปปินส์มีปฏิกิริยาขานรับกับข้อมูลนี้เล็กน้อย
มีการสั่งปิดบางธุรกิจและห้ามไม่ให้มีการเดินทางอีกครั้ง จากมาตรการล็อกดาวน์กรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีจำนวนประชากรคิดเป็น 1 ใน 4 ของประเทศ และเป็นพื้นที่ซึ่งมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากที่สุด
จนถึงวันที่ 5 ส.ค. ฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยยืนยันสะสมจากโควิด-19 ถึง 115,980 ราย รองลงมาจากอินโดนีเซียที่มีผู้ป่วยสะสมถึง 116,871 ราย มากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซีย
นักวิเคราะห์ระบุว่า ธนาคารกลางยังมีพื้นที่ที่จะผ่อนคลายนโยบายหากจำเป็น คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะลดลงตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ ธนาคารกลางของฟิลิปปินส์ลดอัตราดอกเบี้ยลงไปจนต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์คือ 2.25%