ผู้นำอินโดฯ เร่งตรวจมากขึ้น หลังติดเชื้อเกิน 7.5 หมื่น
จาการ์ตา – ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดแห่งอินโดนีเซียต้องการให้มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้มากขึ้นอีก 50% เป็น 30,000 รายต่อวัน เนื่องจากอินโดนีเซียมีผู้ป่วยสะสมเกิน 75,000 ราย
โดยประธานาธิบดีโจโค หรือที่มักนิยมเรียกกันว่า โจโควี่ ได้ให้คำแนะนำบรรดารัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ก.ค. เพื่อสนับสนุนให้มีการตรวจทดสอบหาผู้ติดเชื้อจากเป้าหมายเดิมคือ 20,000 รายต่อวันด้วยการเปิดแล็บมากขึ้น โดยเฉพาะใน 8 พื้นที่ซึ่งรวมถึงภูมิภาคกรุงจาการ์ตา และพื้นที่ใกล้เคียงอย่างชวาตะวันตกและชวาตะวันออก
“ผมอยากให้เราเร่งตรวจอย่างจริงจัง สอบสวนโรคและรักษาด้วยการให้ความสำคัญกับ 8 จังหวัดก่อน ” เขากล่าวกับสมาชิกคณะรัฐมนตรีก่อนการประชุม
โดยประธานาธิบดียังระบุว่า คาดการณ์ว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาจะถึงจุดพีคในเดือนหน้า หรือในเดือนก.ย. ช้ากว่าที่เคยคาดไว้ 2-3 เดือน จากการรายงานของสื่อเมื่อวานนี้
“ จากพื้นฐานของข้อมูล ประเมินว่าจะถึงจุดพีคในเดือนส.ค. หรือก.ย. ซึ่งเป็นการประเมินล่าสุดที่ผมได้รับ แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่าง ตัวเลขอาจแตกต่างจากนี้ ” ผู้นำอินโดนีเซียกล่าว จากรายงานข่าวของสื่อ
ที่ปรึกษารัฐบาลระบุในเดือนเม.ย.ว่า โควิด-19 มีแนวโน้มจะระบาดสูงสุดในเดือนพ.ค. หรือมิ.ย. โดยคาดการณ์ว่าการติดเชื้อจะสูงถึงประมาณ 95,000 ราย
ประธานาธิบดีโจโคระบุว่า เขาผลักดันให้รัฐมนตรีทำงานหนักขึ้นเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อ 76,981 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3,656 ราย
เมื่อสัปดาห์ก่อน คลัสเตอร์การติดเชื้อผุดขึ้นในโรงเรียนทหารในชวาตะวันตก โดยมีนักเรียนและครูฝึกถูกตรวจพบว่าติดเชื้อมากถึง 1,262 ราย
ในเดือนมิ.ย. โจโคระบุว่าเขาพร้อมจะปรับคณะรัฐมนตรี หรือแม้แต่ยุบหน่วยงานรัฐที่เขารู้สึกว่าทำงานได้ไม่ดีพอในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกัน รัฐบาลกำลังพิจารณาบทลงโทษสำหรับผู้ที่พบว่าละเมิดมาตรการสาธารณสุข เช่น ไม่สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ
กรุงจาการ์ตาขยายเวลาการคลายล็อกดาวน์เพิ่มอีกสองสัปดาห์จนถึงกลางเดือนนี้ เนื่องจากเมืองมีผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายร้อยคนต่อวัน และพุ่งขึ้นอีกในวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยโจโคระบุว่า โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบกับอินโดนีเซียมากกว่าช่วงเกิดวิกฤตการเงินในปี 2540 สร้างความเสียหายกับธุรกิจทั้งรายเล็กและรายใหญ่
นายอัคมัด ยูริอันโต ผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุขระบุในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ว่าในรอบ 24 ชม. มี 6 จังหวัดคือ จาการ์ตา ชวาตะวันตก ชวากลาง ชวาตะวันออก สุลาเวสีใต้ และปาปัว มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงมาก
โดยในวันที่ 9 ก.ค. อินโดนีเซียรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ทำให้ผู้นำอินโดนีเซียเรียกสถานการณ์นี้ว่าเป็น “สัญญาณระดับสีแดง”
ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกขอให้อินโดนีเซียมีการตรวจหาเชื้อประชาชนที่ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อมากขึ้น