ฟิลิปปินส์ผ่อนปรนมากขึ้น
ฟิลิปปินส์เริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองของตัวเอง โดยห้างสรรพสินค้าให้เวลานักช้อปซื้อสินค้าได้นาน 1 ชม.
ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์อนุญาตให้บริษัทเปิดทำการได้ แต่มีจำนวนคนทำงานได้เพียงครึ่งของที่มีอยู่เดิม โดยห้างสรรพสินค้าเปิดได้ แต่ร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ยังคงปิดอยู่
มีภาพข่าวปลอมว่ามีคนแน่นห้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ทำให้จอนวิก เรมุลลา ผู้ว่าราชการจังหวัด Cavite ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่อยู่ทางใต้ของกรุงมะนิลาประกาศปิดห้างสรรพสินค้าทั้งหมดทันที ต่อมา เขาจึงอนุญาตให้ห้างเปิดได้อีกครั้ง แต่มีบัตรเวลาให้ลูกค้า เพื่อจำกัดเวลาในการซื้อสินค้าได้นาน 1 ชม.เท่านั้น โดยมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจเช็คบัตรเวลาอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม รามอน โลเปซ รมว.กระทรวงการค้าระบุว่า เขาตรวจสอบห้างบางแห่ง และเห็นว่าส่วนใหญ่มีจำนวนผู้ใช้บริการเพียง 20%
เบเนดิกโต ยูจุยโก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมระบุว่า บรรดาผู้ค้าปลีกบอกเขาว่าไม่คุ้มกับการเปิดห้างเลย
“คนมีความสุขที่ได้ออกนอกบ้านและเดินเล่นในห้าง แต่พวกเขาซื้อของน้อยมาก ซื้อแค่อาหาร ไม่ซื้ออย่างอื่นเลย”
แต่ร้านอาหารเองก็ไม่ได้มีผลลัพธ์ที่ดี โดยซูเปอร์ไวเซอร์ที่ร้านกาแฟสตาร์บัคส์แห่งหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า ยอดขายลดลงเหลือเพียง 20% เมื่อเทียบกับรายได้ก่อนล็อกดาวน์ ขณะที่ร้านอาหารระบุว่า 70% ของรายได้มาจากลูกค้าที่เข้ามารับประทานที่ร้าน
รัฐบาลให้ขนส่งสาธารณะเปิดบริการได้นอกตัวเมืองมะนิลา โดยผ่อนปรนการล็อกดาวน์ลงมาเป็น “ การกักตัวทั่วไปในชุมชน”
แต่กำหนดให้คนขับรถโดยสารและรถแท็กซีจดชื่อและเบอร์โทร.ติดต่อผู้โดยสารทุกราย และต้องทำให้แน่ใจว่ามีการเว้นระยะห่างในรถตามกำหนด
ขณะเดียวกัน โบสถ์เตรียมเปิดรับให้ผู้ศรัทธาเข้าได้ แต่มีข้อกำหนดด้านสาธารณสุข โดยโบสถ์ Baclaran ในกรุง
มะนิลา ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ อนุญาตให้ผู้ศรัทธาเข้าร่วมพิธีทางศาสนาได้เพียง 70 คน แม้โบสถ์แห่งนี้มีความจุถึง 7,000 คน
โดยโบสถ์มีแผนจะติดตั้งกล้องวงจรปิด และให้ครอบครัวและเพื่อนนั่งกันเป็นคลัสเตอร์ เพื่อให้ง่ายในการสอบสวนโรคขณะอยู่ในโบสถ์
ทั้งนี้ กรุงมะนิลา ซึ่งมี 16 เขตและมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 13 ล้านคน มีมาตรการล็อกดาวน์มานานกว่าสองเดือนแล้ว
มีการดีเบตกันเกี่ยวกับประเด็นที่เมืองหลวงแห่งนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยลงมาก รัฐบาลจึงจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ เพื่อเริ่มขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่หยุดชะงักมานาน
โดยกระทรวงแรงงานประเมินว่า มีชาวฟิลิปปินส์ถึง 5 ล้านคนที่จะว่างงานภายในสิ้นปีนี้ และบรรดาผู้จัดการ
ด้านเศรษฐกิจคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยจนถึงปีหน้า