‘ลี’ คุมเข้มมาตรการเซอร์กิตเบรคเกอร์
สิงคโปร์ – นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงแห่งสิงคโปร์ระบุว่า หากประชาชนมีการรวมกลุ่มกันในที่สาธารณะ เจ้าหน้าที่สามารถออกใบสั่งปรับได้ทันที
โดยผู้นำสิงคโปร์เตือนว่า ทางการจะบังคับใช้มาตรการเซอร์กิตเบรคเกอร์อย่างเข้มงวดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. โดยระบุว่า ที่ผ่านมา ยังคงมีคนจำนวนมากที่รวมกลุ่มกันในสถานที่สาธารณะ
ในวันที่สามของการบังคับใช้มาตรการเซอร์กิตเบรคเกอร์ในสิงคโปร์ ยังคงเห็นกลุ่มคนในสวนสาธารณะ ตลาดและสถานที่อื่นๆ แม้มาตรการนี้จะสั่งปิดโรงเรียน สถานที่ทำงานและห้ามการรวมตัวกันทั้งกลุ่มใหญ่ กลุ่มเล็ก ทั้งที่บ้านและสวนสาธารณะ
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. Masagos Zulkifli รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎเป็นครั้งแรกจะได้รับใบแจ้งเตือน หากฝ่าฝืนเป็นครั้งที่ 2 จะมีโทษปรับ 300 ดอลลาร์สิงคโปร์ ( ราว 6,990 บาท ) และสำหรับผู้ฝ่าฝืนครั้งที่ 3 จะถูกยื่นฟ้องต่อศาล
ขณะที่นายกฯ ลีโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ประชาชนจึงควรปฏิบัติตามมาตรการที่ให้อยู่บ้าน “อย่างเคร่งครัด”
โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. สิงคโปร์รายงานผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 142 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 1,623 ราย
โดยนายกฯลีระบุว่า “ หากคนที่คุณรักไม่เข้าใจความร้ายแรงของสถานการณ์ โปรดพยายามมากขึ้นที่จะทำให้พวกเขาเข้าใจ หากเราทำตัวมีอิสระเสรีมากเกินไปกับมาตรการอยู่บ้าน เราจะยิ่งพบกับความเจ็บปวดที่ยาวนานขึ้น”
“ ผมทราบว่า เราทุกคนต่างต้องการให้กลับไปเป็นปกติ แต่หากเราตั้งใจปฏิบัติตามอย่างจริงจัง ก็จะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้จริง” เขาย้ำ
ภายใต้มาตรการเซอร์กิตเบรคเกอร์ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. – 4 พ.ค. ประชาชนต้องอยู่บ้านและออกข้างนอกได้เฉพาะการทำธุระจำเป็น เช่น ไปทำงานในส่วนบริการสำคัญ ซื้ออาหารและของชำ
มีการสั่งห้ามไม่ให้รับประทานอาหารนอกบ้าน โดยชายวัย 71 ปีถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 เม.ย.เพราะไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หลังจากเขายืนยันที่จะรับประทานอาหารที่ร้าน
มีการออกใบเตือนผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการการรักษาระยะห่างประมาณ 3,000 รายในวันที่ 8 เม.ย.เพิ่มขึ้นจากกว่า 7,000 รายเมื่อวันก่อน
โดยในวันที่ 9 เม.ย. คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเริ่มใช้โดรนเพื่อสำรวจตรวจสอบกลุ่มคนที่วนอุทยานบูกิต ทีมาห์
ขณะที่สำนักการขนส่งทางบกระบุว่า มีการทำเครื่องหมายบอกตำแหน่งที่ยืนและที่นั่งในบริการขนส่งสาธารณะและที่สถานีเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้บริการจะรักษาระยะห่างทางสังคมไว้ได้
คาดการณ์ว่าตัวแทนกว่า 100 คนด้านการขนส่งคมนาคมจะช่วยแนะนำผู้โดยสารและเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะปฏิบัติตามกฎในอีกหลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้.